เด่นโซเชียล

ย้อนอดีต "หนังกลางแปลง" ความบันเทิงกระหึ่ม งานวัด ปูเสื่อดูกันยันเช้า

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ใครทันหนังกลางแปลงยุคไหนบ้าง ร่วมย้อนอดีต "หนังกลางแปลง" ภาพจำของคนเที่ยวงานวัด กรอฟิล์ม ฉายหนัง ดูกันมาราธอนยันเช้า

เขาบอกว่าคนเราเมื่ออายุเริ่มมากขึ้น จะโหยหาอดีต อาจเป็นเพราะอดีตมันหอมหวาน เเละถูกอัดเเน่นไปด้วยความทรงจำ ล่าสุด ผู้ว่าฯ กทม. "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" จัดเทศกาล "หนังกลางแปลง" หวังว่าจะนำรอยยิ้ม ความสุข ความหวังกลับมาให้คน กทม. ต่อจากเทศกาลดนตรีในสวน โดยจะเริ่มจัดขึ้นวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ในทุกสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่ 7-9 ก.ค. ประเดิมที่แรกลานคนเมือง กับภาพยนตร์ 2499 อันธพาลครองเมือง 

 

แล้วความทรงจำครั้งสุดท้ายของคุณกับ "หนังกลางแปลง" คือเมื่อไหร่ จำได้ไหม จำได้หรือเปล่า 

 

หลายปีมาเเล้ว เคยมีคนตั้งกระทู้ไว้ว่า ใครทันหนังกลางแปลงยุคไหนบ้าง แชร์กันหน่อย

 

ผมละชื่นชอบหนังกลางแปลงตั้งแต่เด็ก งานวัดคืนไหนมีหนังกลางแปลง จะหูผึ่งรีบจ้อนไปนั่งปูเสื่อจองที่เลยทีเดียว ชอบดูทุกเรื่องเพราะซีดีก็แพง ทีวีบ้านก็จอเล็กแถมไม่ชัด เช่าก็แผ่นสะดุด แล้วผมชอบไปเดินหาไรกินตามงานวัด มันรู้สึกตัวเองมีความสุขยังไงไม่รู้


...แต่พอเดี๋ยวนี้ไป หนังกลางแปลง เรื่องนี้ดูแล้ว ล่าสุดเรื่อง Thor ชัดมากเหมือนดูในโรงเลย แต่ดูก่อนหน้าแล้ว ถึงยังไงก็นั่งดูเพราะคิดถึงบรรยากาศ คนน้อยลงแทบจะเปลี่ยวเลยก็ว่าได้ รู้สึกหดหู่ แต่แล้วก็เป็นความรู้สึกดีดีตอนเด็ก ๆ ที่จะจดจำไปตลอดชีวิตยามเราหมดหวัง

 

เห้อ....ทำไมเดี๋ยวนี้มีเรื่องวุ่นใจมากกว่าตอนเด็ก จนลืมคิดถึงงานวัดที่เราชื่นชอบไปเลย


...เป็นเด็ก เรื่องสนุกคือสิ่งที่จดจำกันได้ทุกคน เพราะไม่มีความเจ็บนอกจากล้ม โดนพ่อแม่ครูตี แต่พอทุกคนโตมา ย่อมมีความเจ็บ แค้น ท้อแท้ หมดหวัง ห่วงเงิน ครอบครัว อีกนานาประการ เวลาคิดถึงตอนเด็ก ใครคิดถึงหนังกลางแปลงมั่ง ยกมือขึ้นหน่อยสิ 
 

นี่เป็นความทรงจำของเจ้าของกระทู้ที่มีต่อ "หนังกลางเเปลง" เเละยังมีอีกหลายคนที่มีทรงจำกับหนังกลางแปลงเช่นกัน ย้อนไปถึงยุคหนังขายยา   


"สมัยที่ชอบดูหนังกลางแปลง หนังขายยา สมัยนั้น โทรทัศน์มีหนัง มีละครให้ดูตั้งแต่ตอนเย็นหลังเลิกเรียน ไปจนถึงสี่ทุ่ม วันเสาร์ วันอาทิตย์ มีการ์ตูน มีละครให้ดู ตั้งแต่สองโมงเช้าถึงสี่ทุ่ม วันธรรมดาหลังเลิกเรียนเดินกลับบ้าน จะไปดูมิเตอร์ไฟบ้านที่มีโทรทัศน์ว่าหมุนหรือยัง ตอนนั้นยังไม่มีตู้เย็น พัดลมกันหรอก ไฟก็ไม่เปิด มิเตอร์หมุนแสดงว่า เปิดโทรทัศน์แล้ว ก็ไปขอดู ก่อนกลับบ้าน (ช่างสังเกตุกันเน๊าะ) เรื่อง CD ไม่มี ไม่รู้ จะดู VDO ต้องไปเช่าเครื่อง เช่าม้วน ที่ร้านในตัวเมืองโน่น พูดถึงหนังกลางแปลง หนังขายยา วันไหนมี เขาจะขับรถโฆษณาทั่วหมู่บ้าน หากหนังปิดวิกเสีนค่าดูเข้าจะติดโปสเตอร์บอกล่วงหน้า เห็นรถหนังวิ่งตามกันเป็นพรวน แบบมีความสุช 555 (ขับช้า ๆ เพราะถนนลูกรัง เป็นหลุมเป็นบ่อ)

หนังจะชอบหนังบู๊ เช่นเรื่อง ปิง วัง ยม น่าน ตั้งแต่สมบัติ เมทะนี กรุงศรีวิลัย พิสมัย วิไลศักดิ์ แล้วก็อีกหลาย ๆ คนเป็นหนุ่ม เป็นสาวอยู่ บางคนก็เป็นเด็ก ตอนนี้ก็ร่วงโรยไปตามเวลา ยิ่งดูหนังขายยา ยิ่งสนุก ครับ ตอนพักโฆษณาขายยา (ขายยามีหลายเจ้า เช่นยาฆ่าพยาธิ, ยาอม) ขายถ่านไฟฉาย (ตู๊กตาทอง ตรากบ) จะวิ่งเล่นหยอกกันสนุกสนาน เรื่องซื้อของเป็นเรื่องของพ่อ แม่ ที่จะฉายไฟไปที่เจ้าของหนัง ให้เอาของมาส่งถึงที่นั่ง) อยากเป็นเด็กอีกจังเลย ครับ"

 

"ทันตลาดสวนหลวงตรงบรรทัดทอง มีงานงิ้ว มีหนังกลางแปลง ศาลหลักเมืองขอนแก่นก็มีหนังกลางแปลงบ่อย ต้องบนฉายหนังกลางแปลง ไม่รู้สมัยนี้มีรึเปล่า ท่านคงไปดูที่เซนทรัลแทน"

"ทันดู สมัยรถขายยา ทัมใจ แล้วก็รถ ยาถ่ายพยาธิ อันนี้เข้าใจว่าเป็นของรัฐบาลสมัยก่อน  รณรงค์ให้รู้จักป้องกันพยาธิ ทันดูแบบที่  พากษ์สดๆด้วย  จำได้ว่า บางทีไม่มีไม่มีผู้หญิงมาด้วย  ก็ใช้นักพากษ์ผู้ชายดัดเสียงเอา(ส่วนมากเป็นหนังจีน) แล้วก็ตามงานวัด งานโรงเรียน งานประจำปี  ตีตั๋วเข้างาน  แล้วมีหนังแหละทีีไม่ต้องเสียตั๋วอีกครั้ง ( ถ้าเป็นพวกดนตรีลูกทุ่งต้องตีตั๋วอีกรอบ )"

 

"ดูหลังสุด  เป็นของ แอ๊คเทวดา  จอผ่าโลก หลังจากนั้น ก็เริ่มห่างหาย เพราะเรียนจบทำงาน  เผลอๆไป อ้าว เดี๋ยวนี้หนังกลางแปลงมันหายไปไหนแล้ว"


"ของเราทัน  ทูน- จารุณี  สรพงษ์ - เนาวรัตน์  หนังกลางแปลง สว่นมาก  ฉายที่วัดหรือ งาน ประจำปี โรงเรียนน่ะ  สว่นหนังขายยา ไม่ค่อยได้ไปดู  ชอบเอาหนังเก่ามากๆมาฉาย    ตอนเด็กที่บ้านเราไม่มีโทรทัศย์ดู  เพราะบ้านอยู่กลางสวน  ไฟฟ้ายังไม่มีใช้     ถ้ามีหนังของบ้านบึง โฟโต้ หรือ จอผ่าโลก  แอ๊ดเทวดา  มาฉายเรากับแม่และน้องๆ  ต้องหอบเสื่อไปปูหน้าจอ  จองแต่หัววัน   พอหนังฉายก็จะมีคนเดินขายโอเลี้ยง    ปลาหมึกแห้งย่าง  ไก่ย่าง  โอ้ย..คิดถึงสมัยเด็กๆจัง.."

 


"ทันหนังขายยาด้วยล่ะ แบบที่ว่าฉายหนังไปสักครึ่งเรื่องแล้วหยุดฉายมาขายยากันก่อน ใครจะซื้อก็ไปซื้อที่รถฉายหนังเลย หรือจะรอซื้อวันต่อไปก็ได้เดี๋ยวรถฉายหนังเขาจะวนขายในหมู่บ้าน
ไฟฟ้าก็ไม่มีในสมัยนั้นตอนเด็ก ๆ บ้านใครมีทีวีก็ดูโดยการต่อกับแบตเตอรี่รถยนต์เป็นทีวีขาว-ดำ"

 


"ไม่ทันหนังกลางแปลง  แต่เคยไปเฝ้าโรงลิเกกลับบ้านตี ๑  เจ็ดคืนมาแล้ว  ฮ่าฮ่าฮ่า" 

 

รู้ไหมว่า บ้านเรามีพิพิธภัณฑ์ "หนังกลางแปลง" (ศูนย์อนุรักษ์ภาพยนตร์ย้อนยุค) เป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนบุคคลที่ก่อตั้งโดยคุณมานิตย์ วรฉัตร อดีตนักพากย์ภาพยนตร์ ที่มีประสบการณ์เคยทำงานกับคณะหนังขายยาในอดีต ของบริษัทโอสถสภา(เต็กเฮงหยู) จำกัด และเห็นว่าภาพยนตร์กลางแปลง การพากย์ภาพยนตร์สด และฟิล์มภาพยนตร์กำลังจะสูญหายไป จึงต้องการอนุรักษ์และรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา และก่อตั้ง “พิพิธภัณฑ์หนังกลางแปลง ศูนย์อนุรักษ์ภาพยนตร์ย้อนยุค” ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2530 โดยดัดแปลงบ้านไม้หลังเก่าจำลองเป็นห้องฉาายหนังเล็กๆ  ผนังห้องประดับด้วยโปสเตอร์หนังทั้งใหม่และเก่าที่หาชมได้ยาก  จัดแสดงเครื่องฉายหนังฟิล์ม  มีหนังฟิล์มที่โด่งดังในอดีต กว่า 500 เรื่อง   

ย้อนอดีต "หนังกลางแปลง" ความบันเทิงกระหึ่ม งานวัด ปูเสื่อดูกันยันเช้า

คลิกอ่านกระทู้ 

ขอบคุณที่มาข้อมูล พิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย 

 

เพื่อไม่พลาด ข่าวสารต่างๆ คมชัดลึก ไปที่
Website -  www.komchadluek.net
Facebook - https://www.facebook.com/komchadluek
LineToday - https://today.line.me/th/v2/publisher/100057

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ