"สวนเบญจกิติ" ปรับพื้นที่ แก้ดราม่า "จักรยาน" ปั่นไว พร้อมวอนแบ่งปันร่วมกัน

จากกรณีที่ เฟซบุ๊ก "สวนเบญจกิติ" ได้โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า วันนี้ทางสวนฯ ได้เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับให้กลุ่มผู้ปั่น จักรยาน เร็ว จนทำให้ผู้ใช้บริการที่ต้องใช้วีลแชร์  รถเข็นเด็ก และประชาชนที่เดินชมสวน เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย  เพราะกลัวจะเกิดอุบัติเหตุ และร้องเรียนมา ซึ่งทางสวนได้เข้าไปเจรจาเพื่อสร้างความเข้าใจในกติกาในการใช้ทางจักรยานร่วมกับผู้อื่น ในสวนที่มีจุดตัดคนข้ามถนน มากกว่า 30 จุดนี้

 

แต่นี่คือคำถามจากกลุ่มจักรยานฯ
1.ทำไมต้องให้ความสำคัญคนเดินเท้ามากกว่าจักรยาน?
2.ทางจักยานโล่งๆ จะมาปั่นช้าๆ ได้อย่างไร?
3.ทำไมไม่ย้ายคนให้ไปเดินที่สุวรรณภูมิ เพราะเค้าอยากปั่นเร็วที่นี่?

 

 

"สวนเบญจกิติ" ได้เปิดให้ชาวเน็ตเข้ามาร่วมแสดงความเห็นว่า จะแก้ปัญหากลุ่มบุคคลนี้อย่างไรดี? หลังผู้ปั่นจักรยานเร็ว ตั้งคำถาม ทำไมต้องให้ความสำคัญคนเดินเท้ามากกว่า จักรยาน ซึ่งชาวเน็ตวิจารณ์เเรง เห็นแก่ตัว และเคยมีคนเจออุบัติเหตุมาแล้วหลายราย

 

ทำให้กลายเป็นประเด็นที่มีการวิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเชียล ล่าสุดมีชาวเน็ตเข้ามาเเสดงความคิดเห็นกว่า 2300 คอมเมนต์ เเชร์ไปแล้วกว่า 1600 ครั้ง  รวมถึงมีผู้ที่เคยเจออุบัติเหตุหรือบาดเจ็บจากจักรยาน ในสวนเบญจกิติเข้ามาเเชร์ประสบการณ์ด้วย 

 

"เราเป็นนักวิ่งคนนึงที่โดนจักรยานชนบาดเจ็บจากสวนป่าฝั่งเก่า ก่อนที่ฝั่งนี้จะเปิด เราไม่ได้รับการรับผิดชอบใดๆ แม้ว่าเรามีหลักฐาน แถมเรายังโดนว่ากลับแบบไร้จิตสำนึก คำพูดของคนกลุ่มนี้เป็นแบบนี้จริงๆ เค้าแบบโชว์ว่ากูเก๋า กูเก่ง เมื่อสวนฝั่งนี้เปิดพฤติกรรมก็เหมือนเดิม เราก็ได้แต่ภาวนาอย่าให้ใครเจ็บแบบเรา ตอนแรกเราก็อยากไปแจ้งความไว้แต่ไม่ได้ทำเพราะคิดว่าวันนึงเวรกรรมจะตามเค้าเอง"

 

"น่าจะมีมาตรการนี้มาตั้งนานแล้วนะครับ แฟนผมก็เคยได้รับการบาดเจ็บจากกลุ่มคนปั่นจักรยานกลุ่มหนึ่งในสวนนี้แหละครับสุดท้ายเขาก็ไม่รับผิดชอบอะไรเลยอ้างเพียงแต่ว่าทางเขาก็เจ็บเหมือนกันทั้งๆที่ตัวคนปั่นเป็นฝ่ายผิด คือความรับผิดชอบและสามัญสำนึกของขี่จักรยานไม่มีเลย"

ขณะที่คอมเมนต์ของชาวเน็ต และผู้ใช้บริการ "สวนเบญจกิติ" เห็นว่า กลุ่มจักรยานเร็วเห็นแก่ตัว ไม่ควรใช้ความเร็วในสวนสาธารณะ และยังมีสถานอื่นที่มีไว้สำหรับ จักรยาน ที่ต้องการใช้ความเร็ว ควรใช้สถานที่ตามความเหมาะสม  นอกจากนี้ ยังได้มีคอมเมนต์ตอบคำถาม 3 ข้อ จากกลุ่มจักรยานฯ ด้วยว่า

"ในฐานะคนที่ใช้จักรยานเดินทาง กว่า 50% ของการเดินทาง ต้องขอโทษเจ้าหน้าที่ของสวน ที่ต้องเจอบุคคลแบบนี้ด้วยครับ

1.ทำไมต้องให้ความสำคัญคนเดินเท้ามากกว่าจักรยาน?
- สวนสาธารณะ เป็นสวนของคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกระดับฐานะ เป็นสถานที่ เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ ใช้เวลาร่วมกับครอบครัว ไม่ใช่สนามซ้อมจักรยาน
และการที่ต้องให้ความสำคัญกับคนเดินเท้า เป็นเพราะว่า คนเดินเท้า สร้างอันตรายได้น้อยที่สุด ในฐานะที่จักรยานใช้ความเร็ว และ อาจทำให้เกิดอันตรายได้รุนแรง คนปั่นจักรยานจึงอยู่ในฐานะ ผู้รับผิดชอบสูงสุด ที่จะรับผิดชอบไม่ให้การปั่นจักรยานของตนเป็นภัยต่อคนอื่น

 

2.ทางจักยานโล่งๆ จะมาปั่นช้าๆ ได้อย่างไร?
- สวนเบญจกิติ ไม่ใช่สนามปิด ที่ใช้ปั่นจักรยานโดยเฉพาะ ดังนั้น การใช้ทางต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของ ผู้ใช้อื่นๆด้วย

 

3.ทำไมไม่ย้ายคนให้ไปเดินที่สุวรรณภูมิ เพราะเค้าอยากปั่นเร็วที่นี่?
- สวนเบญจกิติ เป็นสวนสาธารณะ เพื่อทุกคน ไม่ใช่สนามปั่นจักรยานเช่นที่สุวรรณภูมิ ไม่มีสิทธิในการไล่ให้ใครไปเดินที่ไหน และ เมื่อเข้ามาใช้พื้นที่ ควรเคารพกฎของพื้นที่

ถ้ายังเจอปัญหาเช่นนี้เรื่อยๆ อาจต้องมีการปรับลักษณะทางกายภาพ ของเส้นทาง ให้ไม่เหมาะกับการปั่นเร็ว ท้ายที่สุด ถ้าคุณต้องการให้รถยนต์ระวังจักรยาน เพื่อให้ปั่นจักรยานบนถนนได้ปลอดภัย เมื่อเข้าใช้พื้นที่สวนสาธารณะ ก็เป็นหน้าที่ของคนปั่นจักรยาน ที่จะระมัดระวัง และเคารพกฎของสถานที่ เพื่อให้ผู้อื่นปลอดภัย"

 

"1.ทำไมต้องให้ความสำคัญคนเดินเท้ามากกว่าจักรยาน?
ที่นี่คือสวนสาธารณะ ไม่ใช่สวนจักรยาน ทุกคนควรเคารพสิทธิ และความเท่าเทียมในการเป็นเจ้าของร่วมกัน

 

2.ทางจักยานโล่งๆ จะมาปั่นช้าๆ ได้อย่างไร?
เห็นเด็กๆก็ปั่นช้าได้ ทางกลุ่มก็น่าจะทำได้เหมือนกัน

 

3.ทำไมไม่ย้ายคนให้ไปเดินที่สุวรรณภูมิ เพราะเค้าอยากปั่นเร็วที่นี่?
ทุกคนที่มาที่นี่ก็เพราะอยากมาที่นี่ ไม่ได้อยากไปสุวรรณภูมิ และไม่ใช่ธุระของใครที่จะบอกให้ใครไปพักผ่อนหย่อนใจที่ไหน"

 

ด้าน ผู้ว่าฯ ชัชชาติ นาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ได้ออกพูดถึงประเด็นดังกล่าวแล้วว่า น่าจะเป็นเพียงความเห็นของคนบางกลุ่ม ฉะนั้นอย่าไปเหมาว่าคนขี่จักรยานคิดเห็นอย่างนี้ทุกคน และอย่าเอามาเป็นประเด็นใหญ่ ต้องคุยกันและถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ซึ่งตนวิ่งที่สวนเบญจกิติมาเป็นร้อยครั้ง มองว่าส่วนใหญ่เขาก็อยู่ด้วยกันได้ การออกกำลังกายที่สวนเบญจกิติว่า ที่สวนมีทั้งคนเดิน คนวิ่ง และคนปั่นจักรยาน เมื่อก่อนจักรยานอยู่บริเวณสวนด้านนอกที่มีบึง ซึ่งปั่นกันเร็วมากและมีอุบัติเหตุเยอะ เพราะมันมีจุดที่ตัดกันระหว่างคนเดินกับคนขี่จักรยาน

 

แต่อาจจะมีคนบางกลุ่มที่มีความเห็นที่ไปอีกฝั่งเยอะ ก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคืออย่าไปกระพือความแตกต่าง แต่ต้องหาจุดร่วม โดยอาจชะลอความเร็วลง และจะลงไปดูอีกครั้ง แต่คิดว่าแก้ปัญหาได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้าอยากซิ่งมีที่ให้ซิ่งเยอะ แต่ว่าสำคัญคือเรื่องความปลอดภัย เพราะต้องอยู่ร่วมกัน

 

ความคืบหน้าล่าสุด นายวิรัตน์ มนัสสนิทวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นางสาววรนุช สวยค้าข้าว รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สวนเบญจกิติ หารือและพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนเพื่อให้ผู้ที่มาออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน การเดิน การวิ่ง ทุกกลุ่มวัยทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการและคนวัยทำงาน ได้ใช้สวนเบญจกิติ ร่วมกันอย่างปลอดภัย 

 

เบื้องต้นสำนักสิ่งแวดล้อมได้ประสานสำนักการจราจรและขนส่ง ตีเส้นจราจร และทางม้าลายเพิ่มเติม พร้อมทั้งทำคันชะลอความเร็วบริเวณจุดตัดการสัญจร เพื่อชะลอความเร็วของรถจักรยาน 
นอกจากนี้ จะได้เพิ่มการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือและทำความเข้าใจกับผู้ใช้บริการสวนสาธารณะ เพื่อแบ่งปันและใช้พื้นที่สาธารณะร่วมกันอย่างปลอดภัยด้วยความใส่ใจและเอื้ออาทรต่อกัน

อย่างไรก็ตามจะได้มีการพิจารณาการใช้พื้นที่ในสวนฯ เพิ่มเติม อาทิ กำหนดเส้นทางวงรอบใหญ่ของสวนฯ เป็นเส้นทางสำหรับปั่นจักรยาน ติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณจุดตัดเพิ่มเติม เป็นต้น