เด่นโซเชียล

โซเชียลสงสัย ผมร่วง-ปวดหลัง เป็น "ออฟฟิศซินโดรม" หรือไม่ หมอตอบแล้ว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โซเชียลแห่แชร์ ประเด็นเรื่องผมร่วงและปวดหลังเป็นอาการของโรค "ออฟฟิศซินโดรม" กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

ตามที่มีข้อมูลในสังคมออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่องผมร่วงและปวดหลังเป็นอาการของโรค "ออฟฟิศซินโดรม" ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

 

จากกรณีที่มีผู้โพสต์ระบุว่า ผมร่วงและปวดหลังเป็นอาการของโรค "ออฟฟิศซินโดรม" ทางสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า อาการผมร่วง มีทั้งลักษณะที่ร่วงทั่วทั้งศีรษะหรือผมร่วงเป็นหย่อม และผมร่วงแบบไม่มีแผลเป็น หรือผมร่วงแบบมีแผลเป็นบนหนังศีรษะ

 

 

ทั้งนี้อาการผมร่วงอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ตามหลังการเจ็บป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจ หลังการคลอดบุตร หลังการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ภาวะเครียด และโรคไทรอยด์ เกิดได้ทั้งจากภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ที่สูงหรือต่ำเกินไป โรคทางผิวหนังบางชนิด เช่น โรคผมร่วงเป็นหย่อม โรคแพ้ภูมิตัวเอง (Systemic Lupus Erythematosus, SLE) การติดเชื้อรา ไวรัส หรือแบคทีเรีย ไม่ใช่เกิดจาก "ออฟฟิศซินโดรม"

 

 

โดยการได้รับยาหรือสารเคมีบางชนิด เช่น ยาเคมีบำบัด รวมถึงโรคทางพันธุกรรมบางชนิดที่ทำให้เกิดความผิดปกติของเส้นผมและผมร่วงได้ เป็นต้น ดังนั้นเมื่อพบมีภาวะผมร่วง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุ และให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไป

โรค "ออฟฟิศซินโดรม" เกิดจากการทำงานบางอย่างในท่าทางเดิม ๆ ที่ไม่เหมาะสม ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน และอาจมีสภาพร่างกาย หรือสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ไม่เหมาะสมร่วมด้วย ทำให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อเฉพาะบางส่วนของร่างกายได้ที่พบบ่อย ได้แก่ คอ บ่า ไหล่ สะบัก และอาจมีอาการปวดร้าวไปบริเวณใกล้เคียง

 

 

บางรายพบมีอาการชาหรืออ่อนแรงร่วมด้วย จากการกดทับเส้นประสาทเป็นเวลานาน ซึ่งการรักษาหลัก ๆ ของโรคออฟฟิศซินโดรม คือ การปรับสภาพแวดล้อมในการทำงาน การทำกายภาพบำบัด การออกกำลังกาย การปรับอิริยาบถให้เหมาะสม และอาจร่วมกับการรักษาทางเลือกอื่นๆร่วมด้วย เช่น การนวดแผนไทย การฝังเข็ม ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ