ดราม่า รีวิว "ยาสีฟัน" สาวเปิดใจถูกฟ้อง 1.7 ล้าน ทนายรัชพล ไขปม ทำได้มั้ย

จากประเด็นดราม่าบนโลกโซเชียล กรณีหญิงสาวรายหนึ่ง ได้รีวิว "ยาสีฟัน" ยี่ห้อหนึ่ง ที่ใช้แล้วเกิดอาการแพ้ และเกิดมีการท้าทายกัน เมื่อเธอได้ตอบกลับคอมเมนท์ว่า เธอมีสิทธิรีวิวสินค้า ในฐานะผู้บริโภค และเธอก็รีวิตามความเป็นจริง พร้อมกับบอกว่า 'จะฟ้องก็ฟ้องมาเลย' ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ทำให้เจ้าของโพสต์ ถูกแบรนด์ยาสีฟันคู่กรณี ส่งหนังสือฟ้อง โดยเรียกค่าเสียหาย 1.7 ล้านบาท นั้น

น.ส.ปรียดา โพธิ์งาม อายุ 24 ปี สาวรีวิว "ยาสีฟัน" ยี่ห้อหนึ่ง เปิดใจ หลังเดินทางเข้าพบ "ทนายรัชพล" ศิริสาคร ทนายความชื่อดัง พร้อมเอกสารเป็นหมายศาลอาญา หมายเลขที่ อ165/2565 ลงวันที่ 28 ม.ค.65 เรียกค่าเสียหายเป็น เงิน 7 แสนบาท และหมายศาลเลขที่ อ244/2565 ลงวันที่ 4 ก.พ.65 เรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 1 ล้าน กับ 5 หมื่นบาท โดยทั้งสองหมาย มี น.ส.ปรียดา โพธิ์งาม อายุ 24 ปี และพวกอีก 3 คน ในข้อหา ดูหมิ่น, หมิ่นประมาท, หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา 

น.ส.ปรียดา เล่าว่า  ครอบครัวเธอ ได้สั่งซื้อ "ยาสีฟัน" ยี่ห้อดังกล่าวมาใช้ตั้งแต่เดือน พ.ค.65 โดยเธอ สามี และยาย ใช้ยาสีฟันร่วมกัน แต่หลังได้ใช้ยาสีฟันยี่ห้อนี้ไป 2-3 วัน ปรากฏว่าหลังตื่นนอนขึ้นมาในตอนเช้า ภายในปากจะมีคราบสีขาวเกาะอยู่ จากนั้นเกิดอาการแพ้ที่บริเวณคาง ใต้ริมฝีปากล่างมีรอยแดง แสบ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ เธอจึงไปปรึกษาหมอฟัน เนื่องจากเธอกำลังตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน หมอฟันจึงให้เปลี่ยนวิธีแปรงเป็นแบบแห้ง เพื่อให้ฟองน้อยลง แต่เธอก็ยังแพ้อยู่เหมือนเดิม จึงได้หายาสีฟันยี่ห้ออื่นมาใช้แทน แต่ไม่แพ้ จึงได้นำ "ยาสีฟัน" ทั้ง 2 ยี่ห้อมารีวิวในกลุ่มผู้ที่ใช้สกินแคร์ บอกข้อดีข้อเสียของทั้ง 2 ยี่ห้อ และรีวิวในฐานะคนที่ใช้ยาสีฟันมาใช้จริง ซึ่งหลังหยุดใช้ยาสีฟันตัวดังกล่าวไป อาการแพ้ก็หายเป็นปกติ โดยไม่ต้องไปหาหมอ ทำให้คิดว่า สาเหตุน่าจะมาจากการที่เธอเป็นคนแพ้ง่ายมากกว่า เพราะสามีและยายที่ใช้ยาสีฟันตัวเดียวกันไม่เป็นอะไรเลย

น.ส.ปรียดา กล่าวต่อว่า หมายฟ้องร้องได้ถูกส่งไปตามทะเบียนบ้านที่มีชื่อเธออยู่ ซึ่งเป็นบ้านของคุณย่าที่ต่างจังหวัด เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้คุณย่าเข้าใจผิด และโกรธมาก คิดว่าคงไปทำเรื่องไม่ดี จึงมีหมายศาลส่งมาที่บ้าน คุณย่าจึงสั่งให้เธอย้ายชื่อออกจากทะเบียนบ้านไป ตอนนี้ครอบครัวเดือดร้อนจากคดีที่เกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่ ครอบครัวเธอ เป็นลูกค้าบริษัทนี้มานานเกือบ 2 ปี ไว้ใจใช้ยาสีฟัน แบรนด์นี้มาโดยตลอด ไม่คิดว่าบริษัทจะมาฟ้องร้องดำเนินคดีกับลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์มาใช้จริง รีวิวผลกระทบจริง แต่กลับต้องมาถูกบริษัทฟ้อง ร้องดำเนินคดีแบบนี้ 

น.ส.ปรียดา ฝากเตือนคนที่จะรีวิวสินค้าต่าง ๆ ขอให้ดูเคสของเธอเป็นตัวอย่าง อย่าเอาสินค้า 2 อย่างมาเปรียบเทียบกัน ถึงจะเป็นลูกค้า ใช้จริง รีวิวด้วยความบริสุทธิ์ใจตามข้อเท็จจริง ก็อาจถูกบริษัทหยิบยกมาเป็นเรื่องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ ซึ่งนอกจากเธอที่ถูกบริษัทยาสีฟันฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 1.75 ล้านบาทแล้ว ยังมีผู้ใช้เฟสบุ๊คอีก 3 คน ที่เข้าไปคอมเม้นท์ในโพสต์ของเธอ ถูกบริษัทฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายอีกด้วย ซึ่งเธอกับสมาชิกอีก 3 คนที่ถูกฟ้อง จะต้องเดินทางไปรายงานตัวกับศาลอาญา ในวันที่ 11 ก.ค.นี้

ด้านทนายรัชพล กล่าวว่า ตามข้อกฏหมายแล้ว การที่รีวิวด้วยความสุจริตใจของลูกค้า หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับผลิตภัณฑ์ ติชมตามครรลอง ไม่เข้าข่ายว่าเป็นความผิดในฐานหมิ่นประมาท การมาไล่ฟ้องร้องลูกค้าแบบนี้ เป็นเรื่องที่ไม่สมควร ทางบริษัทควรทบทวนถอนฟ้อง และหาทางพูดคุยปรับความเข้าใจกัน เนื่องจาก ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ลูกค้าซึ่งเป็นผู้บริโภค
ต้องสามารถติชมได้ แล้วนำคำติไปปรับปรุงแก้ไขผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น ไม่ใช่มาไล่ฟ้องลูกค้าคนใช้ผลิตภัณฑ์แบบนี้ ส่วนประเด็นที่ว่า หากผู้รีวิวสาวรายนี้มีอาการแพ้ที่ริมฝีปากจริง ทำไมถึงไม่นำใบรับรองแพทย์มายืนยัน ซึ่งตนก็มองตามความเป็นจริงว่า หากมีอาการแพ้ที่ริมฝีปาก แต่ไม่ได้รุนแรงอะไรมาก สองสามวันก็หาย ใครจะเดินทางออกไปหาหมอให้ยุ่งยากและเสียหาย ซึ่งมีแค่รูปถ่ายยืนยันก็พอแล้ว ซึ่งหลังรับเรื่องร้องขอความช่วยเหลือแล้ว ตนจะได้พยายามติดต่อพูดคุยกับทางบริษัทก่อน เพื่อหาทางปรับความเข้าใจกัน ระหว่างเจ้าของผลิตภัณฑ์กับลูกค้าของบริษัท

ศุภชัย สินธ์ประเสริฐ : นนทบุรี สำนักข่าวเนชั่น