เด่นโซเชียล

อ.จุฬา แนะเลิกใช้ "เครื่องวัดอุณหภูมิ" ตรวจโควิดได้แล้ว ชี้ไม่มีประโยชน์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ออกตัวแนะนำ เลิกใช้ "เครื่องวัดอุณหภูมิ" ตรวจโควิดได้แล้ว ชี้ไม่มีประโยชน์ ซ้ำสร้างผลเสีย

วันนี้ 14 มิ.ย.รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์  (อ.เจษฎา) อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ เกี่ยวกับประเด็นเลิกใช้ "เครื่องวัดอุณหภูมิ" ตรวจโควิดได้แล้ว เพราะไม่มีประโยชน์ โดยข้อมูลทั้งหมดระบุดังนี้

เคยบอกหลายที ว่า ควรยกเลิกการใช้ "เครื่องวัดอุณหภูมิ" หรือเทอร์โมสแกน ได้แล้วครับ .. นอกจากมันจะไม่ค่อยช่วยอะไรเกี่ยวกับเรื่องการควบคุมโรคโควิด-19 แล้วยังสร้างผลเสียอีกด้วย

 

เครื่องเทอร์โมสแกนนี่ เราเอามาใช้ตามประเทศจีน ที่ตั้งแต่ช่วงแรกของการระบาดโรคโควิด นั้นเข้าใจว่า มันเป็นโรคไข้หวัดชนิดหนึ่ง และผู้ติดเชื้อ/ผู้ป่วย จะเป็นไข้

 

แต่ความจริงแล้ว ผู้ติดเชื้อกว่า 50% จะไม่มีอาการใดๆ ของโรคออกมาเลย หรือที่เราเรียกว่า asymptomatic ... ขณะที่ผู้ที่แสดงอาการป่วยนั้น ก็มีแค่บางส่วนที่เป็นไข้ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็น

 

การนำเครื่องพวกนี้มาใช้ จึงส่งผลเสียได้ เพราะคนเข้าใจผิดเยอะว่าตัวเองไม่ได้ติดโรคโควิด เมื่อเข้าไปในพื้นที่โดยผ่านเครื่องเทอร์โมสแกนไปแล้ว ก็สามารถไปแพร่เชื้อโรคได้อยู่ดี เราเรียกว่าปัญหา false sense of security

 

ยังไม่นับรวมเรื่องความแม่นยำของเครื่อง ที่มีปัญหากันมาตลอด เช่น วัดออกมาแล้วอุณหภูมิต่ำกว่าความเป็นจริง วัดยังไงก็ไม่แสดงความเป็นไข้สักที

ดังนั้น จะเห็นว่าในประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะทางตะวันตกนั้น ไม่ได้นิยมใช้ "เครื่องวัดอุณหภูมิ" พวกนี้ แต่ไปเน้นเรื่อง "การใส่หน้ากากอนามัย" ซึ่งมีหน้าที่หลักในการลดการแพร่เชื้อออกจากร่างกายของเรา เพื่อลดปัญหาที่ไม่รู้ตัวว่าเราเป็นผู้ติดเชื้อหรือเปล่า

 

(นั่นคือประเด็นที่ว่า ทำไมองค์การอนามัยโลก WHO ในช่วงแรกถึงบอกว่า คนที่ไม่ป่วยไม่ต้องใส่หน้ากากอนามัย เพราะไม่ทราบกันว่า ถึงไม่มีอาการป่วย แต่ก็อาจจะแพร่เชื้อโควิดได้)

 

ทีนี้ พอทั่วโลกมีชุดตรวจ atk ใช้ในการตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด (ซึ่งไทยเรา มีใช้หลังประเทศอื่นนานทีเดียว) ความนิยมในการใช้เครื่องเทอร์โมสแกน ก็ยิ่งแทบไม่เห็นเลย เพราะไม่ค่อยมีประโยชน์และมีโทษด้วยซ้ำ

 

สรุปว่า ก็เลิกๆ ใช้ไปเถอะครับ เสียเวลาเปล่าๆ ในการใช้ของพวกนี้ ... เน้นเรื่องการใส่หน้ากากอนามัยเมื่อเข้าสู่พื้นที่แออัด หรือทำการตรวจ atk ก่อนเข้าร่วมกิจกรรม ก็เพียงพอแล้วครับ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ