เด่นโซเชียล

"มรดกหนี้" หลายล้าน กับชีวิต เด็กจบใหม่ เงินเดือนไม่ถึง 2 หมื่น มีทางออกไหม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ชีวิต เด็กจบใหม่ กับ "มรดกหนี้" หลายล้าน ทั้งที่เงินเดือนไม่ถึง 2 หมื่น ถูกสั่งให้หาเงินมาหมุนจนไม่เหลือเพื่อนเเล้ว ทางออกของปัญหาอยู่ตรงไหน

เด็กจบใหม่ เพิ่งเริ่มทำงาน ควรเป็นจุดเริ่มต้น การสร้างชีวิตเพื่ออนาคตภายภาคหน้า เเต่ว่า กลับไม่ใช่จุดเริ่มต้นเรื่องราวชีวิตของชาวเน็ตรายนี้ ที่ได้มาตั้งกระทู้ บอกเล่าสิ่งที่จะเรียกว่าความรันทด เวรกรรม หรือ ภาระ ก็เเล้วเเต่ว่าใครจะเรียก หรือจำกัดความไว้ 

 

โดยเจ้าของกระทู้ เล่าว่า เขาเพิ่งเรียนจบ เเต่พ่อเเม่ของเขาได้ให้มรดกไว้จำนวนหลายล้านบาท เเต่เชื่อไหมว่า มรดกก้อนนี้ กลับทำให้ชีวิตของเขาพบกับว่า เหนื่อยมาก เพราะมันคือ "มรกดกหนี้" 

"เพิ่งเรียนจบ พ่อแม่ทิ้งมรดก(หนี้)ไว้ให้หลายล้าน ทำอย่างไรดีครับ"

เราพึ่งเรียนจบและเริ่มทำงานได้ยังไม่ถึงปีเลยด้วยซ้ำ ช่วงปีสุดท้ายที่เรียนก็ต้องเริ่มทำงานพิเศษหาเงินใช้เองแล้ว (ส่งให้น้องใช้ด้วย) เพราะธุระกิจที่บ้านล้ม บางวันที่บ้านก็โทรมาให้เราไปไล่ยืมเงินเพื่อน ๆ เพราะต้องเอาเงินไปหมุน จนเพื่อนแทบจะไม่เหลือแล้วให้เราขายของทุกอย่างของเราเพื่อเอาเงินไปหมุนเราก็ทำให้เพราะเรามองว่าเป็นเงินเขา 

 

เอาชื่อเราไปกู้ ไปเปิดบัตรมากมาย รวม ๆ กันก็ประมาณ1ล้านบาท ไปกู้นอกระบบจากพี่เราที่เราเคยให้เอาของสะสมเราไปขายมาอีกล้านกว่าบาท แล้วก็เอาเงินเดือนเราทุก ๆ เดือนตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา รวม ๆก็ 4 หมื่นบาทแล้ว

 

ไหนจะค่าน้ำค่าไฟ ค่าอาหารแมว หรือบัตรต่าง ๆ เราก็จ่ายหมด เราเด็กจบใหม่เงินเดือนไม่ถึง 2 หมื่นด้วยซ้ำ ทำงานพิเศษทุกเสาร์อาทิตย์ไม่ได้พักเลย ตอนนี้เราเครียดมากไม่รู้จะทำยังไงดี เราก็แค่อยากจะออกมาตัวเปล่า มาเริ่มชีวิตใหม่ แต่มันทำไม่ได้แล้ว ท้อเหลือเกิน 

 

อยากจะลองทำอะไรก็ไม่ได้เพราะไม่มีทุน แค่มีเงินพอกินข้าวในทุก ๆ วันก็ดีแค่ไหนแล้ว

ปล.เนื่องจากเครดิตพ่อแม่เสียไปนานแล้ว จึงใช้ชื่อเราทำธุระกิจมาตั้งแต่เราอายุ18 เลยกู้ได้มากขนาดนั้น

นี่คือเรื่องราว "มรดกหนี้" ที่เจ้าของกระทู้เล่าไว้ ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาเเสดงความเห็น พร้อมให้กำลังใจ และคำเเนะนำ เพื่อให้เจ้าของกระทู้สามารถผ่านเรื่องราว และเริ่มต้นชีวิตใหม่ของตนเองได้ โดยคำเเนะนำสำหรับทางออกของการเป็นหนี้ ให้เจ้าของกระทู้ยอมตกอยู่ในสถานะล้มละลาย ทำบัญชีรายรับรายจ่าย และหยุดสร้างหนี้ พร้อมห่วงใยเจ้าของกระทู้กลัวจะตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า


"ใจเย็น ๆ นะคะ สภาพปัจจุบันนี้ ถือว่าไม่ใช่สภาพปกติ เราเจอโควิด เจอสงคราม เจอประชากรเพิ่มขึ้น เจอสินค้าจากจีน และอื่น ๆ อีกมาก ทำใจยอมรับโลกอย่างที่เป็นได้โดยไม่ท้อแท้และเสียใจเสียก่อน เมื่อทำได้แล้ว สมองจะปลอดโปร่งขึ้น แต่ละคนมีปัญหาแตกต่างกัน ทุกคนต้องอดกลั้นและประคับประคองชีวิต แม้ลำบาก อยากให้ระลึกเสมอว่า มันจะไม่เป็นแบบนี้ตลอดไป ไม่ละทิ้งครอบครัวถือว่าเป็นสมาชิกครอบครัวที่ประเสริฐ พ่อแม่พี่น้องคนอื่นต่างก็กำลังทุกข์และดิ้นรนด้วยกันทั้งสิ้น ช่วงเวลาแบบนี้ ความรักและความเข้าใจและการให้กำลังใจกันสำคัญมาก เอาใจช่วยค่ะ"

 

"อย่าปล่อยให้ความเหนื่อยมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเป็นความสงสารตัวเอง หากแต่พยายามเท่าที่จะทำได้ ให้ตัวเองมีพลังกายพลังใจและพลังสติปัญญา เหนื่อยพัก แล้วสู้ต่อ ทำจิตใจให้ฮึกเหิม อย่าปล่อยตัวเองไปถึงจุดที่รู้สึกสงสารตัวเอง เพราะมันคือบ่อเกิดของโรคซึมเศร้า คนอื่น ๆ ล้วนมีปัญหาแต่ส่วนมากสู้ได้ จขกท ก็จะสู้ได้เช่นกัน"


"เหมือนกันค่ะ ชีวิตในวัยเด็กเราก็เจอคนในครอบครัวที่ชอบสร้างหนี้ แล้วพอตายไปแล้วยังทิ้งหนี้ไว้ให้คนข้างหลังต้องมารับผิดชอบใช้หนี้ต่อ ตอนมีชีวิตอยู่ไม่วางแผนชีวิตให้ดี ใช้ชีวิตมักง่าย พอตายไปเดือดร้อนคนข้างหลังต่ออีก มันเลยเป็นบาดแผลทางใจมาจนถึงทุกวันนี้ ทำให้เรากลัวการเป็นหนี้มากๆ ไม่อยากเป็นหนี้ ไม่อยากสร้างภาระให้ใคร ไม่อยากทำให้ใครต้องเดือดร้อนถ้าเราตายไป"

 

"ถึงเจ้าของกระทู้นะคะ ตอนนี้ที่ไทยตีสามแล้ว พักผ่อนนะคะ อย่าคิดมากนัก ดูแลสุขภาพตัวเองด้วย

อะไรที่มากเกินกำลังของตน ต่อไปนี้ปฏิเสธไปเลยนะคะ เพราะถ้าใจดีใจอ่อนกับคนในครอบครัว สุดท้ายคนที่เดือดร้อนมาก ๆ ก็ไม่พ้นตัวคุณเอง เรามองว่าที่คุณทำและเป็นอยู่ตอนนี้มันก็หนักหนาเกินกำลังคุณเยอะมากแล้ว ถ้าพ่อแม่จะให้กู้เงินเพิ่มหรือให้ไปเซ็นชื่อกู้เงินเพิ่ม อย่ายอมทำตามความต้องการของพวกเขาอีกอย่างเด็ดขาด พ่อแม่ที่ดีไม่ควรฉุดลูกลงไปในกองหนี้แบบนี้ค่ะ"


"หนี้นอกระบบ ถ้าไม่ใช่มาเฟียเงินกู้ เจอไม่มี ไม่หนี ไม่จ่ายก็จบแล้ว เขาทำอะไรไม่ได้เจรจากับเจ้าหนี้ จ่ายให้ตรงสัญญาเป็นสัญญา ถ้าเขาได้เงินต้นคืนเขาก็พอใจแล้วเราไม่ไหว เจ้าหนี้เขาไม่เอาลูกหนี้ถึงตายหรอก เพราะเขาก็กลัวหนี้สูญเหมือนกัน  สำคัญคือคุณเป็นพวก กินหรู อยู่สบายแต่ โทรไปทวงทีไรบอกว่าไม่มีหรือเปล่า ก็บอกเจ้าหนี้ไปตรง ๆ ว่าไม่มี ทำสัญญาผ่อนใช้แค่เงินต้นซะ ผ่อนเท่าที่ผ่อนได้ เดี่ยวก็หมดเจ้าหนี้เขาบางที ก็เดือดร้อนเหมือนกัน โดนกู้แล้วไม่จ่ายเนี่ย ดังนั้นถ้าขอผ่อนจ่ายเฉพาะเงินต้น เขาตกลงผ่อนเขาทุกเดือนก็เป็นอันจบ หนี้นอกระบบ ต่อให้เป็นชื่อคุณ ก็ไม่มีผลอะไร เพราะมันนอกระบบแต่แรก

ส่วนหนี้ในระบบ นี่ยิ่งง่ายยื่นเรื่องเป็นบุคคลล้มละลายซะ เขายึดเงินเดือนไม่ได้ ยิ่งอายุน้อยๆ ยิ่งสบายเพราะเงินเดือนไงก็ไม่เกิน 20000 เริ่มชีวิตใหม่ได้สบาย 5 ปีก็พ้นแล้ว แค่จะลำบากตอนผ่อนบ้านในอนาคตแค่นั้น  เรียกว่าคนที่ต้องเศร้า คือเจ้าหนี้ต่างหาก ที่ต้องแทงหนี้สูญแน่ ๆ" 

 


"ขอแนะนำตั้งสติก่อนเลยค่ะ จากนั้นลิสต์เจ้าหนี้ จำนวนเงิน และเอาหนี้ทั้งหมดมารวมว่าเป็นก้อนเท่าไหร่ รายได้ที่บ้านเท่าไหร่  ผ่อนชำระเท่าไหร่ เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าแต่ละเดือนเราต้องผ่อนเท่าไหร่ ก้อนไหนปิดจบได้เร็วขึ้น แล้วมาดูธุรกิจพ่อแม่คืออะไร ทุนเท่าไหร่ กำไรเท่าไหร่ กำไรขาดทุนย้อนหลัง 1 ปี หักลบคุ้มมั้ย ถ้าจะไปต่อต้องหาทางรองรับโดยไม่สร้างหนี้เพิ่ม เพราะมันจะเป็นหนี้ไม่รู้จบแล้ว ที่บ้านทำงานกี่คน มีรายรับรวมกันเท่าไหร่ ต้องมาช่วยกันทั้งหมดด้วยนะคะ สำคัญทำบัญชีรับจ่าย เพื่อดูว่าอะไรจำเป็นไม่จำเป็นจะได้ตัดได้ มันจะเหนื่อยหน่อย แต่ดีกว่าไม่หยุดสร้างหนี้นะคะ"


ทั้งนี้ เจ้าของกระทู้ได้เข้ามาตอบคอมเมนต์เพิ่มเติมด้วยว่า ทุกวันนี้ใช้เงินเดือนชนเดือน แบบไม่มีวันหยุดด้วย เหนื่อยมาก 

และสิ่งที่ทำให้เจ้าของกระทู้ต้องอยู่ในวังวนของ "มรดกหนี้" คือประโยคเหล่านี้  "ไปกู้ให้หน่อยนะลูก" "ได้ก้อนนี้มาก็สบายแล้ว" "จะเอาไปปิดนอกระบบให้นะลูก" และสุดท้ายสิ่งที่ได้มาคือหนี้ท่วมหัว


เจ้าของกระทู้ ยังได้ขอบคุณชาวเน็ตที่เข้ามาให้กำลังใจมากเลยครับ ทุกวันนี้ผ่านมาได้ก็เพราะคิดว่ามันจะกลับมาปกติในสักวัน มันจะดีขึ้นสักวัน แต่เหมือนความอดทนก็เริ่มถดถอยตามกาลเวลา

"มรดกหนี้" หลายล้าน กับชีวิต เด็กจบใหม่ เงินเดือนไม่ถึง 2 หมื่น มีทางออกไหม คลิกอ่านกระทู้เต็ม

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ