ที่ "แตงโม" กระซิบเป็นจริงแล้ว "ชนบท ศุภศรี" ขอสู้คดีจนถึงที่สุด

"ชนบท ศุภศรี" อดีตผู้พิพากษา ชี้เเจงผ่านเฟซบุ๊กกฎหมายชนบทถึงคดี "แตงโม" ว่ายินดีรับเป็นที่ปรึกษาเฉพาะกิจสำหรับคดีแตงโม โดยมีรายละเอียดว่า 

บ่ายวันนี้ ( 27 พ.ค. 2565 ) หากพนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี สั่งฟ้องผู้ต้องหาบนเรือทั้ง 5 คน และผู้ที่เกี่ยวข้องอีก 1คน ต่อศาลจังหวัดนนทบุรี จริง คุณแม่แตงโมต้อง "ใจแข็ง" ไม่ยอมรับเงินจากฝ่ายจำเลย (เมื่อศาลรับฟ้องแล้ว ผู้ต้องหาจะเปลี่ยนสถานะเป็นจำเลย) เพื่อแลกเปลี่ยนกับคำแถลงของคุณแม่ที่ไม่ติดใจเอาความกับจำเลยทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา

"ชนบท ศุภศรี" อดีตผู้พิพากษา ระบุด้วยว่า หากเจอไม้นี้จำเลย คดี "แตงโม" คงไม่กล้าที่จะให้การรับสารภาพตามฟ้องซึ่งมีฐานความผิดที่หนักที่สุดคือประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เพื่อตัดตอนไม่ให้มีการสืบพยานโจทก์และพยานจำเลย เนื่องจากหากไม่มีการได้รับการเยียวยาจากฝ่ายจำเลยโอกาสที่ศาลจะตัดสินรอลงอาญาคงจะเป็นไปได้ยาก และจะทำให้คดียืดเยื้อออกไปอีกระยะหนึ่ง

พี่เต้และทีมงานก็จะมีเวลาและหาวิธีที่จะ "แก้ลำ" ฝ่ายจำเลย และต้องไปพิสูจน์ว่าพยานหลักฐานของโจทก์และจำเลยว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องเพียงใดหรือไม่ 

หลานแตงโมมากระซิบข้างหูผมว่า คุณเเม่กำลังจะให้ผมเข้าไปร่วมทีมกับ ส.ส.เต้และทีมคุณอัจฯ ในเร็ววันนี้ ผมยินดีเป็นที่ปรึกษาเฉพาะกิจสำหรับคดีนี้ ครับ
 

อดีตผู้พิพากษา "ชนบท ศุภศรี" โพสต์ด้วยว่า "คดีแตงโม" แม้คดีจะหมดโปรหรือไร้แสง ก็จะว่าความคดีนี้จนสุดความสามารถ จนกว่าคดีถึงที่สุด เพราะเชื่อว่า ไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุหรือประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายเหมือนกับคนบางคนที่ถอนตัวไป

" ถึงเวลาอีกแล้วครับ พี่หนุ่มกรรชัย หัวเราะทีหลังดังกว่าครับ"
 

นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้ ได้โพสต์ถึง เต้ มงคลกิตติ์ ว่า 

"คุณเต้ครับ จะฟ้องคดีสักกี่ร้อยล้านบาท คุณสามารถฟ้องได้ แต่ต้องมีพยานหลักฐานมาแสดงต่อศาลให้สามารถรับฟัง "ข้อเท็จจริง" ว่าคุณแม่ได้รับความเสียหายเท่าไรด้วย ผมเคยตัดสินคดีประเภทนี้มาแยะ อย่าคาดหวังให้มากนัก นะครับ แค่หอมปากหอมคอก็พอ ครับ"