เด่นโซเชียล

"เจ้าสาวป้ายเเดง" ถูก สามีขอหย่า งานนี้ต้องทิ้งเงินเดือนหลักเเสน เอ๊ะยังไง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ภาพเเต่งงานเพิ่งได้ เเต่ "เจ้าสาวป้ายแดง" ถูก "สามีขอหย่า" เพราะไม่มีเวลาให้ อาจทำให้เธอต้องทิ้งเงินเดือนหลักเเสน เพื่อรักษาชีวิตคู่

มีงาน มีเงิน ก็ใช่ว่าจะทำให้ชีวิตสมบูรณ์พร้อม ราบรื่น  เช่น "เจ้าสาวป้ายเเดง" รายนี้ ที่ยังหาทางออกให้ชีวิตครอบครัวไม่ได้ เมื่อเธอถูกสามีขอหย่า เพราะเหตุผลว่าเธอไม่มีเวลาให้  

 

โดยสาวคนนี้คบเเฟนมา 5 ปี เพิ่งแต่งงานกันไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ตัวเธอทำงานประจำที่กรุงเทพฯ เงินเดือนประมาณ 150,000 บาทต่อเดือน โบนัสอีกปีละหลายแสน ส่วนฝ่ายชายเป็นลูกเจ้าของบริษัทที่ต่างจังหวัด ทำงานแบบกงสี ได้เงินเดือนละ 100,000 บาทต่อเดือน เเต่โบนัสน้อยกว่าเธอมาก

 

ตั้งแต่คบกันมาทั้ง 2 คนอยู่คนละจังหวัด จะเจอกันแค่วันเสาร์อาทิตย์ ส่วนวันธรรมดาจะวีดีโอคอลหากันก่อนนอนเท่านั้น เนื่องจากช่วงระหว่างวันฝ่ายหญิงจะทำงานยุ่งมาก โดยปกติเธอจะเข้างาน 9 โมงเช้า เลิกงาน 3-4 ทุ่ม ส่วนสามีจะค่อนข้างว่างเพราะมีลูกน้องทำงานให้ ตัวเองแค่คุมงานห่าง ๆ เลิกงาน 6 โมงเย็นก็ไปยิม กลับมาดูซีรีส์รอ

ที่ผ่านมาสามีของเจ้าสาวป้ายเเดงบ่นตลอดว่าไม่มีเวลาให้ ซึ่งตัวเธอเองก็รู้ตัว เพราะแต่ละวันทำงานเครียด และยอมรับว่ามีข้อเสียเมื่อมีเวลาว่างเธอชอบอ่านการ์ตูนแทนที่จะคุยกับสามี เพราะคิดว่าเดี๋ยวก็วีดีโอคอลกันก่อนนอนอยู่แล้ว

 

ล่าสุด สามีของเธอทนไม่ไหว สามีขอหย่า ซึ่งเธอไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหายังไง เพราะแก้มาหลายรอบแล้ว แต่ยังไม่ดีพอ เพราะตราบใดที่เธอยังทำงานนี้อยู่ ก็คงหาเวลาให้สามีมากกว่านี้ไม่ได้จริง ๆ เธอจึงตั้งใจจะลาออกจากงานมาอยู่กับสามี

โดยเธออาจต้องตัดสินใจทิ้งทุนเรียนต่อด้วย ทั้งที่การไปเรียนต่อเป็นความฝันของเธอตั้งแต่เด็กเลย เนื่องจากได้ทุนไปเรียนต่อโทที่ต่างประเทศปีหน้า 

อย่างไรก็ตาม เจ้าสาวป้ายเเดงรายนี้ไม่รู้ว่า ถ้าลาออกไปทำงานกงสีบ้านสามี อนาคตของเธอจะเป็นยังไง ที่แน่ ๆ คือเธอต้องขอเงินสามีใช้ เเต่จริง ๆ เเล้วสามีของเธอก็ไม่ได้อยากให้เธอต้องลาออกจากงาน เพราะสามีของเธอรู้สึกผิดที่เธอต้องทิ้งอนาคตมาเพื่อเขา

แต่ถ้าเธอไม่ลาออกมา ชีวิตคู่ของเธอคงไม่รอดแน่นอน อีกทางคือหากลาออกมาสามาของเธอก็อาจจะทิ้งเธอในอนาคตอยู่ดีใครจะไปรู้ 

เธอจึงอยากได้คำเเนะนำว่า มีใครเคยต้องลาออกจากงานมาเป็นแม่บ้านทำใจยังไงบ้าง เพราะตัวเธอกลัวไปหมดเลย


หลังจากเธอโพสต์เรื่องราวออกไป มีคำเเนะนำมากมากมายจากชาวเน็ต เพื่อช่วยเธอแก้ปัญหา และหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับชีวิตเเเต่งงานของเธอ และในคำเเนะนำต่าง ๆ มากมายมี 1 คอมเมนต์ ที่เจ้าของโพสต์รายนี้ อ่านเเล้วถึงกับร้องไห้ ซึ่งคอมเมนต์ดังกล่าวมีใจความว่า  

 

การแต่งงานไม่มีอะไรแน่นอนหรอกค่ะ  ไม่มีใครการันตีได้ว่าแต่งไปแล้วจะดีหรือไม่ดี อยู่ที่คนสองคนล้วนๆ

วันนี้คุณยังมีประโยค "เค้าน่าจะบอกเราเร็วกว่านี้" เห็นไหมคะ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้าคุณลองเสนอวิธีแก้ไข และได้ลองวิธีนั้นกันแล้ว เค้าก็ยังรับไม่ได้และยืนยันจะจบความสัมพันธ์ ขอให้คุณยอมรับและทำใจก้าวเดินออกมาเถอะค่ะ อย่างน้อยก็ได้รู้แล้วว่าเค้าไม่ได้รักคุณมากพอ ... ความดีเรื่องอื่นๆของคุณก็ไม่สามารถทดแทนเรื่องนี้ได้เลย ความพอดีมันไม่เสมอกัน

ขอให้คุณลองทำให้เต็มที่ ยอมที่สุดที่คุณจะทำได้ แค่ไหนแค่นั้น อย่างน้อยวันที่เดินออกมาจะได้รู้ว่าคุณก็ได้ทำดีที่สุดแล้ว


เจ้าของคอมเมนต์โพสต์เพิ่มเติมด้วยว่า 


กอด ๆ นะคะ ทำให้ดีที่สุด ทุกอย่างมีเวลาของมัน

คุณยังคงรับไม่ได้ตรงที่เพิ่งแต่งงาน และไม่คาดคิดว่าชีวิตแต่งงานต้องมาจบลงด้วยเรื่องนี้ นี่แค่เพิ่งเริ่ม แค่บททดสอบว่าเรามีเวลาให้กันไม่มากพอ เค้ายังไม่หาวิธีแก้ ในอนาคตปัญหาชีวิตคู่มีอีกร้อยแปดที่รออยู่ เรื่องเล็กเท่าขี้มดยังเป็นปัญหาได้เลยค่ะ ถ้าเราเจอคนที่ไม่พร้อมแก้ปัญหาไปกับเรา ต่อไปชีวิตมันจะเหนื่อยแน่นอน เหนื่อยแค่งานก็หนักแล้ว กลับมาบ้านต้องเหนื่อยกับคู่ชีวิตอีก

ถ้ายังไม่อยากเลิก ลองขอแยกกันอยู่ก่อนไหมคะ ยังไม่ต้องหย่า ต่างคนได้ต่างมีเวลาทบทวนความรู้สึกตัวเอง และเป็นโอกาสทำให้เค้ารู้ว่าถ้าไม่มีคุณอยู่ในชีวิตแล้วเค้าจะเป็นอย่างไร


นอกจากนี้ ยังมีอีก 1 ความคิดเห็นที่ระบุว่า  "ถึงขั้นขอหย่านี้เขาไม่รักคุณแล้วแหละ"  ซึ่งเจ้าของโพสต์ได้เขียนขอบคุณคอมเมนต์ที่ช่วยเตือนสติ เพราะว่าคงเป็นที่เธอเองที่ยอมรับความจริงไม่ได้ และช่างภาพเพิ่งส่งภาพงานแต่งวันจริงมาให้เอง

 

คลิกอ่านกระทู้เต็ม

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ