เด่นโซเชียล

แจงดราม่า "ฉีดวัคซีนโควิด" เกิดแผลพุพอง เข้าโครงการทดลองไม่ได้จ้างฉีด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปมสาว "ฉีดวัคซีนโควิด" แล้วเกิดแผลพุพองทั้งตัว แจงแล้วสาเหตุเกิดจากอะไร ชี้เป็นการเข้าร่วมโครงการไม่ใช่การจ้างฉีดวัคซีน

นพ.ชาติชาย กิติยานันท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด กาญจนบุรี  กล่าวถึงกรณีมีการรายงานข่าวเรื่องหญิงสาวอายุ 35 ปี รับจ้าง "ฉีดวัคซีนโควิด"  แล้วเกิดอาการแพ้ เป็นแผลพุพอง ว่า ขณะนี้ได้รับตัวหญิงสาวรายดังกล่าวเข้ามารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จังหวัดกาญจนบุรีแล้ว  จากการตรวจสอบเบื้องต้น กรณีนี้น่าจะมีการสื่อสารที่คาดเคลื่อน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ซักถามพบว่าผู้ป่วยได้ทำการเข้าโครงการวิจัยเรื่องการฉีดวัคซีนยี่ห้อ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน แล้วมีอาการผื่น ถุงน้ำตามตัว และเดิมผู้ปวยเคยเป็นโรคผิวหนังเป็นโรคประจำตัวที่ทำการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลพหลฯ อยู่แล้ว กรณีเข้าร่วมโครงการวิจัยก็ได้มีการให้ค่าชดเชยการเดินทาง ไม่ใช่ค่าจ้างในการฉีดวัคซีน มีการทำสัญญากับผู้ทำโครงการเข้าร่วมการวิจัย ซึ่งทางโครงการมีการทำประกันกรณีมีผลข้างเคียงจาการฉีดวัคซีน ดังนั้น ผู้ทำโครงการต้องเข้ามาดูตรงนี้ด้วย

นพ.ชาติชาย กล่าวว่า  สำหรับการรายงานข่าวที่มีความคาดเคลื่อนเรื่องจำนวนการ "ฉีดวัคซีนโควิด" ด้วย โดยจากที่ตนได้รับข้อมูล คือ เป็นการฉีดวัคซีน 1 เข็ม ส่วนครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 เป็นการเจาะเลือดตรวจหาปริมาณภูมิคุ้มกันว่าเพิ่มขึ้นหรือลดลง ต้องชี้แจงว่า โรคผิวหนังเรื้อรัง ภูมิแพ้เรื้อรัง ตอนนี้อย่าเพิ่งไปสรุปว่าเกิดจากการแพ้วัคซีน อาจจะเป็นเพราะโรคเดิมกำเริบได้ เมื่อได้รับสารกระตุ้นโรคก็กำเริบ หรืออาจจะเกิดจากการแพ้วัคซีนจริงๆ ก็ได้ ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้พิจารณาว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ ส่วนตอนนี้เราก็ดูแลคนไข้ให้มีความปลอดภัยก่อน ซึ่งขณะนี้ อาการโดยทั่วไปอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว ผื่นลดลง

ทั้งนี้ หากเป็นเพราะโรคผิวหนังจากโรคภูมิแพ้ตัวเอง หรืออื่นๆ ก็อาจจะต้องใช้เวลาในการรักษา ต้องกินยาต่อเนื่อง รักษาไม่หายขาด แต่หากเป็นการแพ้วัคซีนจริง ๆ หยุดฉีดวัคซีน ให้ยาแก้แพ้ ก็สามารถรักษาหายได้ แต่ข่าวที่ออกไปลักษณะการจ้างฉีดวัคซีนนั้นไม่มีเด็ดขาด

นพ.ชาติชาย กล่าวว่า ด้านรายละเอียดที่มีการทำวิจัยฉีดวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ตรงนี้คณะทำวิจัยเป็นคนทำ ส่วนจะเป็นโครงการดำเนินการวิจัยระหว่างภาครัฐร่วมกับเอกชนหรือไม่นั้นจะต้องมีการตรวจสอบข้อมุลต่อไป 

ด้าน นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า เรื่องของการศึกษาวิจัยวัคซีนหรือยาในประเทศไทย หรือในคนไทย หากเป็นผลิตภัณฑ์ยาหรือวัคซีนที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ขึ้นทะเบียนแล้ว ก็สามารถนำเข้ามาเพื่อศึกษาวิจัยได้โดยผ่านคณะกรรมการจริยธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในกรณีวัคซีนจอนห์สัน แอนด์ จอห์นสัน  จากการตรวจสอบทราบว่า ทางคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล โดย ศ.พญ.พรรณี ปิติสุทธิธรรม หัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์เขตร้อน หัวหน้าหน่วยวิจัยโรคติดเชื้อทางคลินิก และรักษาการหัวหน้าศูนย์ทดสอบวัคซีน ได้ทำโครงการทดสอบวัคซีนจอนห์สันฯ ไปเมื่อเดือน ม.ค.2565 ทั้งนี้ วัคซีนจอนห์สันฯ ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย.ไปเมื่อปี 2564 แบบอนุญาตใช้ในภาวะฉุกเฉิน และต่ออายุวัคซีนแล้ว จึงสามารถทดสอบได้ตามโปโตคอล 

เพื่อเป็นการป้องกันการลอกหลวง ฃประชาชนสามารถดูได้จากข้อมูลและหนังสือสัญญาก่อนยินยอมเป็นอาสาสมัครในโครงการวิจัยนั้นๆ ซึ่งจะมีข้อมูลรายละเอียดของผู้ศึกษาวิจัยและหน่วยงานวิจัย รวมถึงการประกันสุขภาพกรณีที่มีผลกระทบหลังจากการศึกษาวิจัยด้วย 

ขอบคุณ : Hfocus 

logoline