เด่นโซเชียล

พิมรี่พาย เเฉกลับ ส้ม ผู้ป่วยติดเตียง ไม่หายเพราะไม่รักษา บ่นเงินบริจาคน้อย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดนงัดหลักฐานโต้กลับ ดราม่า "ส้ม" ผู้ป่วยติดเตียง ทวงของจากทีมงาน "พิมรี่พาย" เผยเหตุไม่หายเพราะไม่ยอมให้หมอรักษา เเถมบ่นเรื่องเงินบริจาคน้อยลง

"พิมรี่พาย" ได้โพสต์คลิปชี้เเจงข้อเท็จจริงกรณี "ส้ม" เเม่ลูก 3 ที่ป่วยติดเตียง หลังจากเกิดเรื่องราวไปร้องเพจดัง ต้องการทวงข้าวของที่ทีมงานของพิมรีพายเข้าไปช่วยเหลือ และมีการขนของออก โดยพิมรี่พาย ระบุว่า ส้มป่วยติดเตียง ขยับได้เพียงส่วนหัว ที่ผ่านมาเคยทำอาชีพค้าขาย ขายของตามตลาดนัด และมีภาระเยอะจนกระทั่งล้มป่วยลง ซึ่งส้มต้องการความช่วยเหลือให้หายจากอาการป่วย 

 

จึงได้ติดต่อหมอกายภาพ "ส้ม" แจ้งว่าไม่มีบัตรคนพิการ เขาจะไม่ได้รับเงินรักษาเป็นรายเดือน ทางหมอได้แจ้งที่ทางโรงพยาบาลไม่ได้เขียนบัตรคนพิการให้ เพราะเคสแบบนี้มีโอกาสหาย ซึ่งหลังทราบเรื่องตนเองและทีมงานรู้สึกดีใจว่าอีกไม่นาน "ส้ม" จะหาย โดยหมอบอกว่าต้องรักษา 16 ครั้ง รับรองว่า 16 ครั้งจะต้องดีขึ้นตามลำดับอย่างแน่นอน

พิมรี่พายยังได้เล่าถึงสภาพห้องพักของ "ส้ม" ไม่มีที่ในห้องให้เดิน อากาศไม่ถ่ายเท หมอบอกว่าอาจทำให้หายช้า จึงได้ว่าจ้างบริษัททำความสะอาด โดยมีเเม่ของส้มคอยกำกับว่า อะไรเอาไว้ อะไรเอาทิ้ง เเต่มีของที่อยากเก็บไว้เยอะ จึงตัดสินใจเช่าห้องเก็บของให้ 3 เดือน ช่วง พ.ย.64 - ม.ค.65 โดยพิมรี่พาย ระบุว่า เสียค่าใช้จ่ายไปทั้งหมด รวมค่าหมอ 16 ครั้ง ค่าทำความสะอาด ค่าเฟอร์นิเจอร์ ค่าห้องเช่า ค่ารถพยาบาล และค่าจิปาถะเล็กน้อย เป็นเงิน 120,000 บาท  ต่อมาในเดือนมกราคม 65 ส้ม เเจ้งมาที่ทีมงานว่ายังเดินไม่ได้ จึงบอกเช่าห้องให้ต่ออีก 3 เดือน รวมกับของเก่าเป็น 6 เดือน 
 

ส่วนประเด็นที่ว่าทำไมยังเดินไม่ได้ พิมรี่พาย ได้นำเอกสารบันทึกการรักษาจากหมอออกมาชี้เเจง ซึ่งเอกสารดังกล่าวลงวันที่ 25 ธันวาคม 2564 ซึ่งเป็นวันรักษาวันสุดท้ายตามคอร์ส ระบุว่า ขณะนี้อาการของ "ส้ม" ดีขึ้นตามลำดับ และกลับมาใช้ชีวิตแบบมีคุณภาพจนเกือบเป็นปกติ สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เปลี่ยนอิริยาบถจากนอนเป็นนั่งและจากนั่งเป็นยืนได้ หลังจากทำการรักษาไป 16 ครั้ง

เเต่ระหว่างการรักษาตามตารางการรักษากำหนดไว้ หมอเเจ้งว่าคนไข้มีการปฏิเสธการรักษา เเจ้งว่ามีอาการปวดหัว ปวดหลัง ปวดตัว บ้าง จนกระทั่งพิมรี่พายได้เเจ้งให้หมอส่งคลิปที่ "ส้ม"ลุกขึ้นเองมาให้ได้   
จากนั้นหมอได้เเจ้งว่าส้มไม่อยากรักษา หมอจึงไม่อยากไปเเล้ว เพราะไปเเล้วคนไข้ไม่ให้ความร่วมมือ 

 

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 "ส้ม" ได้ทักไลน์มาหาทีมงานพิมรี่พาย แจ้งทีมงานว่าบริษัททำความสะอาดขนของไปจำนวนมาก ของหายไปเยอะ พร้อมถามเรื่องห้องที่เช่าให้จะเช่าต่อหรือไม่ เพราะตนเองยังเดินไม่ได้ และ"ส้ม" ยังได้เเจ้งยอดค่าใช้จ่ายมาให้ทีมงาน เช่น เสื้อผ้าแม่ 5,000 บาท เสื้อผ้าเซ็ต 5,000 บาท เสื้อยีนส์ 2500 ชุดเด็กเจ้าหญิง 3,120 บาท ค่าแก้วน้ำ และอื่น ๆ รวมเป็นเงิน 32,415 บาท เป็นค่าเสียหายที่เกิดจากทีมงานพิมรี่พาย ซึ่งพิมรี่พาย ชี้เเจงเพิ่มว่า ของในห้องของส้ม เอาไปก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ในเมื่อส้มขอพิมก็ให้ เดี๋ยวทีมงานไปจัดการโอนเงินให้


ช่วงท้ายของการชี้เเจง พิมรี่พายระบุว่า รู้สึกไม่เข้าใจกรณีส้มยังมีการโพสต์ลงเฟซบุ๊ก บ่นว่า อยากได้ความช่วยเหลือ อยากเดินได้ และมีการบอกกับทีมงานว่าตั้งแต่พิมรี่พายเข้ามา เงินบริจาคน้อยลง และยังบอกด้วยว่าพิมรี่พายไปเปิดบัญชีรับบริจาค แล้วไม่ยอมนำเงินไปให้  ซึ่งพิมรี่พายยอมรับว่าช็อก และยืนยันว่าตนเองไม่เคยรับเงินบริจาค อาชีพเดียวที่มีคือขายของ
พิมรี่พาย เเฉกลับ ส้ม ผู้ป่วยติดเตียง ไม่หายเพราะไม่รักษา บ่นเงินบริจาคน้อย

พิมรี่พาย เเฉกลับ ส้ม ผู้ป่วยติดเตียง ไม่หายเพราะไม่รักษา บ่นเงินบริจาคน้อย

พิมรี่พาย เเฉกลับ ส้ม ผู้ป่วยติดเตียง ไม่หายเพราะไม่รักษา บ่นเงินบริจาคน้อย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ