เด่นโซเชียล

"งานแต่ง" สินสอดหมื่นเดียวอลเวงล่าสุดเป็นแบบนี้ สุดท้ายญาติต้องใช้หนี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"งานแต่ง" สินสอดหมื่นเดียวส่ออลเวงกว่าเดิม หลังเจ้าสาวกลับซบอกเจ้าบ่าว สุดซ้ำญาติต้องใช้หนี้ค่าจัดงานเองทั้งหมด

จากกรณีญาติทะเลาะกันใน "งานแต่ง" สินสอดหมื่นเดียว ที่ จ.เลย โดยครอบครัวฝ่ายเจ้าสาวเตรียมงานไว้เสร็จแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาฤกษ์ เจ้าบ่าวกลับมาช้ากว่าเวลาหลายชั่วโมง แถมจำนวนเงินสินสอดไม่ตรงที่ตกลงกันไว้ที่ 99,999 บาท เจ้าบ่าวนำเงินมาเพียง 10,000 บาทช่วงผ่านประตูเงินประตูทอง ก็ยังยื่นซองเปล่าที่ไม่มีเงิน ทำให้ฝ่ายครอบครัวเจ้าสาวไม่พอใจอย่างมาก จนมีปากเสียงกัน และยกเลิกงานแต่งไปในที่สุด 


ความคืบหน้าล่าสุด แม่เจ้าสาวเล่าว่า ลูกสาวเริ่มเริ่มรู้จักกับแฟนคนนี้ตั้งแต่พฤศจิกายน 64 จากนั้นฝ่ายชายได้เดินทางมาขอหมั้นลูกสาวของเธอไว้ ในวันที่ 6 ธันวาคม 64 หลังจากคบกันได้ 1 เดือน กระทั่งฝ่ายชายได้ตกลงจะเดินทางมาสู่ขอแต่งงานกับลูกสาวของเธอ โดยจะมีพิธีแต่งงาน ในวันที่ 30 มีนาคม 65 แต่ติดสถานการณ์โควิด จึงเลื่อนมาเป็นวันที่ในวันที่ 6 พฤษภาคม 65 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ลูกสาวดีใจมากที่ฝ่ายชายจะเดินทางมาสู่ขอแต่งงาน ซึ่งก่อนจะตกลงแต่งงานกัน เธอได้เรียกค่าสินสอดกับฝ่ายชายจำนวน 1 แสนบาท แต่ฝ่ายชายต่อรอง เป็น 99,999 บาท พร้อมทองอีก 2 บาท อ้างว่าเป็นเลขสวยมงคล ชีวิตจะได้ก้าวไปข้างหน้า 

ในวัน "งานแต่ง"  ลูกสาวตื่นมาแต่งหน้า แต่งตัวรอนายตูมตาม เจ้าบ่าวตั้งแต่ตี 5 เพราะตื่นเต้นที่จะได้เริ่มชีวิตคู่กับฝ่ายชาย และเวลาตามฤกษ์ที่เจ้าบ่าวนัดกันไว้คือ 7 โมงเช้า ลูกสาวและครอบครัวตนเอง เชิญชาวบ้านและแขกมาเกือบ 100 คน แต่เมื่อถึงเวลา 7 โมงก็แล้ว รอไปจนถึง 9 โมงก็แล้ว แต่เจ้าบ่าวก็ไม่มาสักที พยายามโทรศัพท์ติดต่อ เจ้าบ่าวอ้างว่ากำลังจะออกไป โทรไปอีกรอบก็ไม่รับสาย  กระทั่งเวลา 11 โมงครึ่ง เจ้าบ่าว ได้เดินทางมาพร้อมกับ ขบวนขันหมาก โดยเจ้าบ่าวพาพ่อ ยายเจ้าบ่าว และ เพื่อนอีกไม่ถึง 5 คน  จึงได้เริ่มพิธีต่อ ซึ่งจะต้องผ่านประตูเงินประตูทอง เจ้าบ่าวต้องใส่ซอง เพื่อจะผ่านประตูไปหาเจ้าสาว แต่ปรากฎว่า เจ้าบ่าวกลับหยิบซองเปล่าให้ และบอกว่าสินสอดยังไม่มี ต้องรอแม่ตัวเองมาก่อน

กระทั่ง เวลาประมาณเที่ยง แม่ของเจ้าบ่าวได้เดินทางมาถึง แต่แม่เจ้าบ่าวกลับบอกว่าไม่ทราบว่าลูกชายแต่งงาน และหากจะต้องแต่งงานจริงๆก็มีสินสอดให้แค่ 10,000 เท่านั้นจะเอาไหม ทำให้บรรดาญาติพี่น้องของเจ้าสาวถึงกับอึ้ง และโห่ไล่ด้วยความไม่พอใจ โดยบอกว่า “ถ้าเอามาแค่หมื่นเดียวไม่เอาหรอก จบไปเลย”

ด้านตูมตาม หรือนายนิวัฒน์ชัย สารมะโน อายุ 30 ปี เจ้าบ่าว เปิดใจว่า ยอมรับว่า ตนเองนั้นคือเจ้าบ่าวที่ปรากฎในคลิปจริง โดยเมื่อวานนี้ ตนเองตั้งใจจะยกขบวนขันหมาก ไปสู่ขอฝ่ายหญิงจริงๆ ส่วนเหตุที่ตนเองเดินทางมาหาเจ้าสาวสาย ก็เพราะตนเองและครอบครัวกำลังหาเงินสินสอดอยู่ ซึ่งยังเตรียมไว้ไม่ครบตามจำนวน มีเเค่ 10,000 บาทเท่านั้น แต่เมื่อมาถึงงานตนเองได้ยืนรอด้านนอกก่อน เพราะต้องรอเงินจากแม่ ที่หยิบยืมน้องที่อยู่ประเทศญี่ปุ่น กำลังจะโอนเงินมาให้ แต่ก็ถูกญาติของฝั่งเจ้าสาว ซึ่งไม่รู้เป็นใคร พยายามบอกให้ตนเองเข้าไปภายในงานก่อน เพราะจะกลัวไม่ดี ตอนแรกตนเองก็ไม่อยากเข้าเพราะยังไม่มีเงิน เข้าไปต้องผ่านประตูเงินประตูทอง ตนเองก็ไม่มีเงิน จึงขอยืมเงินเพื่อนใส่ซองผ่านประตูเงินประตูทองไป 100 บาท จากนั้นเมื่อเข้าสู่พิธี ตนเองถูกทวงถามสินสอดทั้งหมด  ตนเองกลับถูกญาติฝั่งเจ้าสาวโห่ไล่ให้ออกไป และมีคนหนึ่งพูดว่า "พอ งั้นก็ไม่ต้องแต่ง" ทำให้ตนเองโกรธมาก ยืนยันว่า ไม่มีเจตนาจะใส่ซองเปล่า และตนเองรักฝ่ายหญิงจริงและรักมากสุดหัวใจ และยังอยากจะแต่งงานกับนางสาวบีอยู่ ตนเองเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น อยากให้ญาติฝั่งเจ้าสาว ฟังเหตุผลตนเองบ้าง ตนเองขอโทษกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่ทำให้วิวาห์ล่ม และจะขอรับผิดชอบค่าเสียหายทุกอย่าง 

ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ นิวยอร์ก นันณพัทรศาฯ ซึ่งเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเจ้าสาว "งานแต่ง" สินสอดหมื่นเดียว ได้โพสต์ข้อความโดยระบุว่า "ไม่ต้องไปสงสารเจ้าสาวแล้วนะคะ อีลูกธรพี หนีจากบ้านไปอยู่กับฝ่ายชายเมื่อเช้าบอกไปทำงานสรุปคือหนีไปทำพาสปอร์ตไปอยู่ญี่ปุ่นทิ้งค่างานไว้ให้แม่กูจ่าย พ่อกับแม่กูต้องได้ความยุติธรรมและเงินที่จ่ายค่าของจัดงานให้พวกมึง" 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ