"กาโตะ" คืนเงินวัดแล้ว ยังถือเป็นความผิดหรือไม่ เปิดข้อกฎหมายชัด ๆ

จากกรณีที่อดีตพระ "กาโตะ" หรือ นายพงศกร จันทร์แก้ว ยอมรับว่า ได้เบิกเงินวัดไปจำนวน 6 แสนบาท ในฐานะรักษาการเจ้าอาวาส โดยช่างเป็นคนไปเบิกเงิน เพื่อนำเงินไปให้ "คนกลาง" นำไปจ่ายให้กับ "ตอง" และสื่อมวลชน เพื่อให้ยุติเรื่องฉาว

ต่อมา (4 พ.ค.65) มีการเผยแพร่ภาพเอกสาร โดยระบุข้อความว่า "วัดคลาราม" 4 พ.ค. 2565 ตามที่อดีตทิศ "กาโตะ" ได้เบิกเงินวัดเพ็ญญาติไป เป็นเงินจำนวน 600,000 บาทนั้น จึงเป็นที่สนใจต่อสังคมเป็นอย่างมาก วันนี้ทิศ "กาโตะ" นายพงศกร จันทร์แก้ว ได้นำเงินมาคืนที่วัดมังคลาราม เป็นเงินจำนวน600,000 บาท ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น 

ล่าสุด "ทนายเกิดผล" ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ทนายเกิดผล แก้วเกิด เกี่ยวกับประเด็น อดีตพระกาโตะคืนเงินวัด โดยรายละเอียดทั้งหมดระบุดังนี้ 

"กาโตะ" ร่อนเอกสารนำเงินมาคืนวัดต้นสังกัดแล้ว รวม 600,000 บาท โดยมีสักขีพยานเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช

คำถาม ในกรณีที่จำเลยเบียดบังไปเป็นของตนเองแล้ว ภายหลังเอาคืน การกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดหรือไม่

ตอบ #เมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดสำเร็จไปแล้ว การที่จำเลยเอาไปคืนก็ไม่ทำให้การกระทำของจำเลยที่เป็นความผิดแล้ว กลับไม่เป็นความผิดแต่อย่างใด (ฎ. 948/2534)

ความผิดฐานเเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ เป็นความผิด #อาญาต่อแผ่นดิน #ยอมความไม่ได้

ถึง "กาโตะ" จะมีการคืนเงินที่เบิกไป 600,000 บาทแล้ว แต่ถือว่าการกระทำผิดสำเร็จ แต่ในทางกฎหมายถือว่าเป็นการกระทำความผิดสำเร็จแล้ว การเอาไปใช้ส่วนตัว อาจจะโดนข้อหายักยอกทรัพย์ของวัดได้ โทษจำคุก 3 ปี แต่ถ้าเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการรักษาทรัพย์และยักยอกทรัพย์

มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 1 แสนบาท ถึง 4 แสนบาท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 ยอมความไม่ได้