เด่นโซเชียล

ลูกค้าเเสบ สวมบท "โจร" ทีเผลอ วงจรปิดจับภาพชัด หนีไม่จ่ายค่าที่พักอีก 3 คืน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ลูกค้าในคราบ "โจร" วงจรปิดภาพชัดลักมือถือแม่บ้าน ถูกจับได้ชักดาบค่าห้องพัก 3 คืน หนีลอยนวล ทิ้งของเก่าให้ดูต่างหน้า

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของของกิจการที่พักแห่งกลางเมืองเพชรบูรณ์ ได้โพสต์คลิปวีดีโอ ลูกค้าในคราบ "โจร"  ลงในกลุ่มรวมข่าวแชร์เพชรบูรณ์ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ประกอบการโรงแรมและที่พักในเพชรบูรณ์ 

โดยคลิปพบว่า มีผู้ชายลักษณะผอมสูง ใช้ชื่อนายชินพงษ์ มาเปิดห้องพักอยู่เป็นเวลา 3 คืน เเต่ไม่ยอมจ่ายค่าห้องพัก อีกทั้งมีพฤติกรรมแปลก ๆ โดยเดินวกไปวนมาบริเวณห้องเคาท์เตอร์ 

เเต่ที่แย่ที่สุดคือ ขโมยโทรศัพท์ของพนักงาน และหนีออกไป ยังจับตัวไม่ได้ ทางที่พักได้ทำการแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว  เบื้องต้นพบว่านายชินพงษ์ ยังมีคดีติดตัวด้วย จึงขอให้ระมัดระวัง และคอยเป็นหูเป็นตาให้กัน ใครรู้จักหรือพบเห็นให้แจ้งเบาะแส เนื่องจากทางที่พักจะเอาความจนถึงที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นภัยสังคม 

ลูกค้าเเสบ สวมบท "โจร" ทีเผลอ วงจรปิดจับภาพชัด หนีไม่จ่ายค่าที่พักอีก 3 คืน

ด้านนางสุภารัตน์ สังขปานันท์ อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมดังกล่าวเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2565 ชายคนดังกล่าวได้มาขอเช็กอินเข้าพักกับแม่บ้าน แต่ไม่ได้เอาบัตรประชาชนมา แม่บ้านจึงให้กรอกข้อมูล โดยเเจ้งว่าชื่อนายชินพงษ์ เป็นชาว ต.สะเดียง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ แจ้งว่าจะพักค้างคืน 3 วัน แม่บ้านจึงขอเก็บค่าห้อง แต่นายชินพงษ์แจ้งกลับว่าไม่ไว้ใจหรือ ตอนนี้ไม่มีเงินแต่รอเงินโอนมาก่อน และก่อนหน้านี้พบข้อมูลว่า ปีที่แล้วชายคนนี้ก็เคยมาเช่ารายเดือนซึ่งก็จ่ายค่าเช่าตามปกติ แม่บ้านจึงไม่ได้เก็บเงินและให้กุญแจห้องพักไป และผู้ชายคนนี้ ยังได้กำชับเเม่บ้านว่าไม่ต้องเข้าไปทำความสะอาดห้องพักหรือเข้าไปในห้องโดยไม่ได้รับอนุญาต 
ลูกค้าเเสบ สวมบท "โจร" ทีเผลอ วงจรปิดจับภาพชัด หนีไม่จ่ายค่าที่พักอีก 3 คืน

ต่อกระทั่งเช้าวันที่ 30 เม.ย. แม่บ้านได้เล่าให้ฟังว่าเวลาประมาณ 06.30 น. ขณะที่กำลังทำความสะอาดอยู่บริเวณเคาท์เตอร์ ผู้ชายคนนี้ได้สอบถามว่าร้านทองในตลาดเปิดกี่โมง ระหว่างนั้นแม่บ้านได้วางโทรศัพท์มือถือยี่ห้อวีโว่ ราคาประมาณ 5 พันบาท ไว้บนเคาท์เตอร์ด้านใน จากนั้นได้เดินไปเอาอาหารที่ครัว ซึ่งอยู่คนละอาคารกับโรงแรม เก็บถวาดบริเวณหน้าโรงแรม จนถึงเวลาประมาณ 08.00 น.ได้เดินกลับมาที่เคาร์เตอร์ปรากฎว่าโทรศัพท์มือถือได้หายไป จึงใช้โทรศัพท์โรงแรมโทรเข้าปรากฏว่าปิดเครื่อง 

จากนั้นได้โทรหาชายคนดังกล่าวตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ได้แจ้งไว้ เพราะล่าสุดจำได้ว่าพูดคุยอยู่กับผู้ชายนี้  และเมื่อโทรติดก็ถูฏปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนเอาไป 

อย่างไรก็ตาม จากการเช็กกล้องวงจรปิดก็พบว่าผู้ชายคนนี้ เป็นคนขโมยโทรศัพท์ไปจริง ๆ จึงโทรหาอีกครั้ง เเต่ก็ได้รับคำยืนยันว่าไม่ได้เอาไป เจ้าของที่พักจึงบอกว่ามีกล้องวงจรปิดที่จับภาพได้ว่าชายคนดังกล่าวเป็นคนเอาไป จึงถูกตัดสายทิ้งจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย 

และจากการตรวจสอบภายในห้องพักพบเพียงร้องเท้าผ้าใบเก่า ๆ 1 คู่ เท่านั้น จึงได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งพบว่า ข้อมูลที่ผู้ชายคนนี้ ได้เเจ้งไว้ตอนกรอกรายละเอียดเป็นข้อมูลจริง เเต่นายชินพงษ์ไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้แล้ว 


ผู้สื่อข่าว อารีย์ สีแก้ว จังหวัดเพชรบูรณ์ 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ