เด่นโซเชียล

ปิดฉากประวัติศาสตร์ 6 พันปี "โลมาอิรวดี" เหลือ 14 ตัวสุดท้าย ในไทย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ใกล้สูญพันธุ์ "โลมาอิรวดี" อ.ธรณ์ โพสต์เหลือ 14 ตัวสุดท้ายในประเทศไทยแล้ว จุดสิ้นหวังการอนุรักษ์สัตว์น้ำหายาก ตายทุกปี จนจะไม่เหลือให้ตาย

ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้ช่วยคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ถึงสถานการณ์ "โลมาอิรวดี" ทะเลสาบสงขลา ที่เวลานี้เหลืออยู่เพียง 14 ตัวสุดท้ายในประเทศไทย โดยในช่วง 30 ปี จากโลมาอิรวดี 100 ตัว เหลือเพียง 14 ตัวเท่านั้น ถือเป็นความสิ้นหวังสูงสุดของการอนุรักษ์สัตว์น้ำหายากของไทย ปิดฉากสุดท้ายของประวัติศาสตร์ 6000 ปี 

โลกนี้มีบางอย่างที่เป็นความหมายของสิ้นหวัง มีบางเหตุการณ์ทำให้เราเกิดอาการ “ใจสลาย” 100-86 = 14   ... สามสิบปี จากร้อยกว่าตัว เหลือเพียงสิบสี่ #14สุดท้าย เรื่องราวต่อจากนี้คือบันทึกถึงความสิ้นหวังสูงสุดของการอนุรักษ์สัตว์น้ำหายากของไทยสิบสี่สุดท้ายแห่งทะเลสาบสงขลา

 

โลกนี้มี "โลมาอิรวดี" อยู่ในน้ำจืดเพียง 5 แห่ง
อินเดีย 140+ ตัว อินโด 90 ตัว  เมียนมาร์ 80 ตัว  กัมพูชา 90 ตัว และ ไทย  14 ตัว
ทะเลสาบสงขลาคือสถานที่แห่งแรกในโลกที่โลมาอิรวดีในน้ำจืดจะสูญพันธุ์ มันไม่มีอะไรจะเถียงได้ด้วยตัวเลขที่เห็น เพื่อนธรณ์บางคนอาจบอกว่า ลาวสูญพันธุ์ไปก่อนแล้วนะ ดร.ก้องเกียรติ ผู้เชี่ยวชาญสัตว์ทะเลหายากของไทย อธิบายให้ผมฟัง

 

ประชากรโลมาในแม่น้ำโขงของลาว/กัมพูชา เป็นกลุ่มเดียวกัน ว่ายไปว่ายมา
หากเราอนุรักษ์ในกัมพูชาไว้ได้ ในอนาคตยังมีหวังที่โลมาจะกลับเข้าไปในลาว
ผิดจากทะเลสาบสงขลา  ผิดกันที่ว่า ของเราจบแล้ว…จบเลย  ไม่มีมาจากไหนอีก 
ปิดฉากสุดท้ายของประวัติศาสตร์ 6,000 ปี

อะไรคือ 6 พันปี ?
นานมาแล้ว ระดับน้ำทะเลในแถบนี้สูงขึ้นเรื่อยๆ จนสูงสุดเมื่อ 6 พันปีก่อน "โลมาอิรวดี" สัตว์เฉพาะเขตอินโดแปซิฟิก หากินตามชายฝั่งไปทั่ว โลมาฝูงหนึ่งเข้ามาอยู่ในทะเลเหนือแผ่นดินพัทลุง/สงขลา ระดับน้ำทะเลเริ่มลดต่ำลง จนทะเลกลายเป็นทะเลสาบ เหลือเพียงช่องแคบๆ ที่ยังเชื่อมต่ออยู่กับทะเลข้างนอก แต่โลมายังมีความสุขอยู่ในทะเลสาบ ที่นี่ไม่มีผู้ล่าลูกๆ ของพวกเธอ ยังมีปลากินเยอะแยะเลย ทะเลสาบสงขลาในสมัยก่อนที่สมบูรณ์สุดขีด โลมาออกลูกหลานจนเป็นร้อยๆ ตัว
แล้วมนุษย์ก็เข้ามา…


สมัยก่อน ความต้องการไม่มาก โลมายังมีความสุข 
พวกเธอว่ายไล่เลาะเลียบเรือลำน้อยของชาวประมง เราอยู่ด้วยกันได้

ทว่า…คนมีมากขึ้น จับปลามากขึ้น
ยังมี…การปล่อยปลาบึกลงในทะเลสาบ เพื่อเป็นสัตว์เศรษฐกิจใหม่ ทำให้เครื่องมือประมงเปลี่ยนไป มุ่งหวังจับปลาบึก

โลมากับปลาบึกขนาดใกล้เคียงกัน  โลมาไม่เคยรู้จักเครื่องมือชนิดใหม่ หลบไม่เป็น หนีไม่รอด 
โลมาหายใจด้วยปอด โลมาติดอวนจมน้ำตาย

ข้อมูลสถิติบ่งชี้ชัด ก่อนหน้านี้ โลมาตายเฉลี่ยปีละ 4-5 ตัว
ปล่อยปลาบึกปี 2545-51 พอปลาโต คนเริ่มจับ 
ในช่วงปี 2550-2555 โลมาตายเฉลี่ยปีละ 10 ตัว

หลังจากนั้น จำนวนตายเริ่มลดลง ไม่ใช่เพราะเราแก้ปัญหาได้ แต่เป็นเพราะโลมาลดลง จนไม่มีเหลือให้ตาย ยังรวมถึงปัญหาอื่นๆ เช่น ปลาที่เป็นอาหารถูกจับจนเหลือน้อย น้ำตื้นมากขึ้นจากตะกอนที่ไหลมาจากการเปิดหน้าดิน ฯลฯ จนถึงเลือดชิด ประชากรเหลือน้อยมาก ผสมพันธุ์กันเอง แต่ละปัญหานำพามาสู่เลข 14

14 สุดท้าย 14 ก่อนจะไม่มีอะไรเหลือ
โลมาที่เคยอาศัยมาตั้งแต่ก่อนยุคผีแมนแห่งแม่ฮ่องสอน ก่อนมนุษย์ในอดีตจะวาดภาพโลมาบนผนังถ้ำในภาคใต้ เหลือเพียง 14 สุดท้าย และจะสูญสิ้นไปในรุ่นเรา ตายเหี้ยน หมดสิ้น สูญพันธุ์ !

อีกกี่ปี ? นั่นคือประโยคที่ผมถามดร.ก้องเกียรติ
ถ้าตายปีละ 2 ตัว ก็อาจ 10-15 ปี
ถ้าตายปีละ 3 ก็อยู่ที่ 8-10 ปี
ถ้าตายปีละ 4-5 ไม่ต้องคิดอะไรอีกแล้ว
ทว่า…ถ้าตายปีละตัว จำนวนอาจเพิ่มขึ้น
อย่างช้าๆ แต่ก็เพิ่ม


เพราะฉะนั้น เรายังไม่ถึงหน้าสุดท้าย
บันทึก “ตำนาน 6 พันปีของโลมาแห่งทะเลสาบสงขลา” ยังไม่อาจเขียนคำว่าจบบริบูรณ์
น้ำตาซึมได้ แต่ยังไม่ต้องร้องไห้โฮ
ร้องไห้โฮค่อยทำตอนสิ้นหวัง
ยังมีหวัง ยังไม่…ร้องไห้โฮ

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ