เด่นโซเชียล

"อดีตผู้พิพากษา" ตอกยับ ใครเสียหน้า โดนเบรคหัวทิ่ม อัยการ No บุรุษไปรษณีย์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"อดีตผู้พิพากษา" ตอกยับ "คดีแตงโม" ใครเสียหน้า โดนเบรคหัวทิ่ม อัยการนะ ไม่ใช่บุรุษไปรษณีย์ #แตงโมต้องไม่ตายฟรี

"คดีแตงโม" ยังคงเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของสังคม แม้เวลาจะผ่านมากว่า 1 เดือน ก็ยังไม่สามารถสรุปสำนวนคดีได้ และดูเหมือนว่า จะมีตัวละคนเพิ่มขึ้น รวมทั้งคนที่อยู่บนเรือ 5 คน ก็เริ่มออกมาให้การใหม่

 

 

โดยเฉพาะ "กระติก" ซึ่งอัยการศาลแขวงจังหวัดนนทบุรี พิจารณาบันทึกฟ้องด้วยวาจาคดีของกระติกแล้วเสร็จ พิจารณาว่า พนักงานอัยการยังไม่ทราบข้อเท็จจริง ในประเด็นหลักการเสียชีวิต อาจจะมีความเกี่ยวเนื่องกัน พนักงานอัยการ จึงขอคืนตัวกระติกผู้ต้องหาในคดี พร้อมบันทึกฟ้องด้วยวาจากลับให้พนักงานสอบสวน ให้ไปสอบปากคำให้สิ้นกระแสความ หรือ ทำมาในรูปแบบสำนวนคดี ส่งมาพร้อมกับคดีหลัก คือการเสียชีวิตของแตงโม เพื่อให้พนักงานอัยการพิจารณา 

 

 

(6 เม.ย.65) "อดีตผู้พิพากษา" นายชนบท ศุภศรี ทนายความ เจ้าของสำนักกฎหมายชนบท เป็นหนึ่งในบุคคลที่ติดตามคดีแตงโม มาอย่างต่อเนื่อง และมักจะแสดงความคิดเห็นที่น่าสนใจ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค กฎหมายชนบท ระบุว่า 

 

"ด้วยความเคารพ ผมไม่เข้าข้างใคร ไหนบอกว่าคดีใกล้จะจบแล้ว (ไม่ได้เป็นพนักงานสอบสวน) มันไปตามคำพูดจริงหรือไม่ ไม่ใช่ว่าพนักงานสอบสวนทำคดีมาอย่างไรแล้วพนักงานอัยการต้องเชื่อตามนั้นเสมอไป พนักงานอัยการไม่ใช่บุรุษไปรษณีย์นะครับ มีสิทธิที่จะทักท้วงให้พนักงานสอบสวนกลับไปทำสำนวนเพื่อสอบพยานเพิ่มเติมได้ตามกฎหมาย เพื่อเป็นการคานอำนาจซึ่งกันและกัน ขนาดคดีย่อย (ให้การเท็จ ) ยังโดนเบรคจนหัวทิ่ม และคดีหลักจะเป็นอย่างไร ทั้ง ๆ ที่สามารถแจ้งข้อหาหนักไว้ก่อน

ส่วนศาลจะตัดสินว่าที่ตั้งข้อหาว่า "เจตนา" แต่ทางนำสืบข้อเท็จจริงเป็น "ประมาท " ก็ตัดสินว่าเป็นประมาทได้นะครับ ตาม ป.วิ.อ .มาตรา 192
...ก็ว่ากันไปเถิดครับ เอาที่สบายใจ
...ใครเสียหน้า ประชาชนได้รู้กันทั่วหน้าแล้วครับ...
#แตงโมต้องไม่ตายฟรี"

 

 

 

 

สำหรับการพิพากษาคดีอาญา ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 ซึ่งบัญญัติว่า ห้ามมิให้พิพากษาหรือสั่งเกินคำขอ หรือที่มิได้กล่าวในฟ้อง และวรรคสองบัญญัติว่า ถ้าศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างจากข้อเท็จจริงดังกล่าวในฟ้อง ให้ศาลยกฟ้องคดีนั้น เว้นแต่ข้อแตกต่างนั้นมิใช่ในข้อสาระสำคัญและทั้งจำเลยมิได้หลงต่อสู้ ศาลจะลงโทษจำเลยตาม 

 

ส่วนข้อหาของ "กระติก" ตามมาตรา 177 ผู้ใดเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีต่อศาล ถ้าความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าความผิดดังกล่าวในวรรคแรก ได้กระทำในการพิจารณาคดีอาญา ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท

 

 

logoline