เด่นโซเชียล

พบคน "จมน้ำ" ห้ามโดดลงไปช่วย อ.เจษฎ์ เตือนแล้วนะ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ดร. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ชี้ผลวิจัย ในออสเตรเลีย มีคนเสียชีวิตราว 5 คนต่อปี จากการกระโดดลงไปช่วยคน "จมน้ำ" พร้อมเตือนถ้าไม่ชำนาญอย่าลงไปช่วย

วันนี้ 2 มี.ค.65 รศ.ดร. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์  (อ.เจษฎา) อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ เกี่ยวกับประเด็น คน "จมน้ำ" ห้ามโดดลงไปช่วย โดยโพสต์ทั้งหมดระบุดังนี้

 

คนจมน้ำ ห้ามโดดลงไปช่วยครับ

อาจจะฟังแล้วขัดกับความรู้สึก หรือความเชื่อของหลายๆ คน แต่คำแนะนำทั่วไป เมื่อพบคนจมน้ำ คือ ไม่ควรกระโดดตัวเปล่าๆ ลงไปช่วยคนครับ ขอสรุปจากที่ โค้ชเป้ง "สาธิก ธนะทักษ์" นักวิทยาศาสตร์การกีฬา แนะนำไว้ในเพจสุขภาพชื่อ Ez2fit ไว้ดังนี้ครับ

 

ในออสเตรเลีย มีคนเสียชีวิตราว 5 คนต่อปี จากการกระโดดลงไปช่วยคน "จมน้ำ" ถ้าเราไม่มีความชำนาญพอ ร่างกายไม่แข็งแรงพอ การกระโดดลงไปช่วยคนจมน้ำ กลับจะทำให้เรากลายเป็นผู้เสียชีวิตไปอีกราย

 

 ถ้าคนตกน้ำ ว่ายน้ำไม่เป็น จะเกิดความกลัว ตะเกียกตะกาย กอดรัดเรา ทำให้จมน้ำไปด้วย ทั่วไป ไม่น่าจะมีความแข็งแรงและทักษะพอ ที่จะสามารถพาคนจมน้ำลอยตัว หรือพาเข้าฝั่งได้ ต่อให้มีทักษะและร่างกายแข็งแรง ก็ยังจำเป็นที่ต้องประเมินความลึก ความแรงของกระแสน้ำ คลื่น อุณหภูมิ ทัศนวิสัย

ในกรณีที่จำเป็นต้องลงไปช่วย กองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค ได้แนะนำว่า ห้ามให้คน "จมน้ำ" สัมผัสคนช่วยเหลือ โดยจะลงไปได้ก็ต่อเมื่อมีอุปกรณ์ที่ลอยน้ำได้ติดตัวไปด้วย และใช้อุปกรณ์นั้นโยนให้คนตกน้ำจับ

 

คำแนะนำในการให้ความช่วยเหลือ มีหลักคือ “ยื่น โยน พาย ลาก”

  • ยื่นอุปกรณ์ให้จับ ไม่ว่าจะไม้ เข็มขัด เสื้อ
  • โยนสิ่งที่ลอยน้ำให้เกาะ เช่น ถังพลาสติก ห่วง/เสื้อชูชีพ
  • พาย ใช้พาหนะลอยน้ำ เช่น เรือ พายไปรับ
  • ลาก โยนเชือกให้เกาะแล้วดึงเข้ามา
  • พร้อมทั้งตะโกน หรือโทรศัพท์ให้คนช่วยได้อีกด้วย
logoline