เด่นโซเชียล

"สหรัฐ" เลิกบังคับสวม หน้ากากอนามัย - ฉีดวัคซีน หลังยอด โควิด-19 ลดต่อเนื่อง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

มีรัฐจำนวนมากขึ้นใน "สหรัฐ" เตรียมประกาศยกเลิกข้อบังคับการสวม หน้ากากอนามัย และการ ฉีดวัคซีน เนื่องจากอัตราผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ ลดลงสู่ระดับต่ำสุด นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อน

 

ข้อมูลล่าสุดจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค "สหรัฐ" (CDC) ระบุว่า ขณะนี้ สหรัฐฯ ตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เฉลี่ยราว 78,000 รายต่อวัน ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 โดยยอดป่วยที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อวันลดลงอย่างเห็นได้ชัดจากระดับสูงสุดที่มากกว่า 800,000 รายต่อวัน ในวันที่ 15 มกราคม 2564 อีกทั้งตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 แสดงสัญญาณลดลงโดยมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยต่อวันต่ำกว่า 1,600 ราย

 

 

 

 

นอกจากนั้น จำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลยังลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน โดยข้อมูลเฉลี่ยระยะ 7 วันจากกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของ "สหรัฐ" ชี้ว่า เมื่อนับถึงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลราว 66,000 ราย ลดลงจากระดับสูงสุดในวันที่ 20 มกราคม ซึ่งอยู่ที่ 159,000 ราย

 

 

เมื่อสัปดาห์ก่อน รัฐแคลิฟอร์เนียเปิดเผยแผนการก้าวผ่านช่วงวิกฤติของการระบาดใหญ่และจัดการกับเชื้อไวรัสฯ ในฐานะความเสี่ยงที่สามารถจัดการได้ เป็นครั้งแรกของประเทศ โดยผู้ว่าการรัฐ เกวิน นิวซัม กล่าวว่า แคลิฟอร์เนียต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับเชื้อไวรัสฯ ผ่านเครื่องมือต่าง ๆ ที่พัฒนาขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่ไม่แน่นอนให้ได้มากที่สุด โดยรัฐแคลิฟอร์เนียได้ยกเลิกการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในร่มตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ แต่ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนจะต้องใส่หน้ากากอนามัยขณะอยู่ในอาคาร

 

 

 

 

 

มีรัฐของ "สหรัฐ" จำนวนหนึ่งที่ได้ประกาศยุติคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยทั้งในและนอกอาคาร ส่วนบางรัฐได้ยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในโรงเรียนทุกแห่ง อย่างไรก็ดี ศูนย์ฯ ยังคงเรียกร้องให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยต่อไปเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสฯ

 

 

“การผลักดันให้ประชาชนเลิกสวมหน้ากากอนามัยเน้นย้ำถึงความไม่ต่อเนื่องของการบังคับใช้ระเบียบการด้านสุขภาพ ซึ่งมีมานับตั้งแต่การระบาดใหญ่อุบัติขึ้นในสหรัฐฯ เมื่อต้นปี 2020″ รายงานของ นิวยอร์กไทมส์ (New York Times) ระบุ

 

 

 

logoline