"ฉีดวัคซีน" กี่เข็มพอ ท่ามกลางการระบาดของ โอไมครอน คำถามที่หลายคนยังสงสัย
"ฉีดวัคซีน" กี่เข็มพอ ปัจจุบันวัคซีนไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้จริงหรือ คำถามที่หลายคนยังสงสัย ท่ามกลางการระบาดของ โอไมครอน
เกาะติด "ฉีดวัคซีน" โควิด ท่ามกลางการแพร่ระบาดของ โอไมครอน หรือ โอมิครอน โควิด-19 กลายพันธุ์ โควิดสายพันธุ์ใหม่ Omicron ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดในช่วงเวลานี้ โดยเฉพาะสายพันธุ์ย่อย BA.2 ที่มีแนวโน้มจะมาแทนที่ BA.1 กลายเป็นสายพันธุ์หลัก ล่าสุด หมอยง ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ Yong Poovorawan ทำไมจึงต้องมีการกระตุ้นเข็ม 3 เข็ม 4
หมอยง โพสต์ระบุ วัคซีนในปัจจุบันไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ แต่เป็นที่ยอมรับความมีประสิทธิภาพในการลดความรุนแรงของโรค โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง แต่เดิมหลังจากพัฒนาวัคซีน มีเป้าหมายป้องกันการติดเชื้อ ไวรัสโควิดมีระยะฟักตัวสั้น จึงทำให้ยากต่อการป้องกันการติดเชื้อ เพราะต้องการระดับภูมิที่สูงอยู่ตลอดเวลา เมื่อ "ฉีดวัคซีน" ครบ 2 เข็ม การศึกษาประสิทธิภาพในระยะแรก เป็นการศึกษาประสิทธิภาพในระยะสั้นหลัง 2 เข็ม จึงดูเหมือนว่าได้ผลดี แต่ความเป็นจริง เมื่อกาลเวลายาวนานออกระดับภูมิต้านทานลดต่ำลง ประสิทธิภาพในการป้องกันและลดอาการของโรคจึงลดลงตามระยะเวลาที่ห่างออกไป
"เมื่อมีการกระตุ้นเข็มสาม จะมีการยกระดับภูมิต้านทานให้ขึ้นสูงไปใหม่ และก็จะลดลงตามกาลเวลาอีกเช่นเคย จึงจำเป็นที่จะต้องมีการกระตุ้นให้ภูมิต้านทานอยู่ในระดับที่สูงขึ้นอีก และก็จะลดลงอีก จึงมีความสำคัญในการกระตุ้นโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มเปราะบาง"
หมอยง โพสต์ระบุอีกว่า ภูมิคุ้มกันที่วัด ที่เป็นแอนติบอดีหรือระดับ B เซลล์ จะป้องกันการติดเชื้อ ยิ่งสูงก็จะสามารถป้องกันข้ามสายพันธุ์ได้ ส่วนระดับ T เซลล์ จะช่วยลดความรุนแรงหรือทำให้หายเร็วขึ้น เมื่อเรา "ฉีดวัคซีน" มาแล้วเป็นระยะเวลายาวนาน ขณะนี้ การให้วัคซีนในประเทศไทยจะครบ 1 ปี จึงไม่แปลกที่ภูมิต้านทานจะลดลง และจำเป็นที่จะต้องมีการกระตุ้นเข็ม 3 และถ้านานวันออกไปอีก โดยเฉพาะปีนี้เป็นปีที่ 2 ก็จะไม่แปลกที่จะต้องมีการให้เข็มกระตุ้นเพิ่มขึ้นอีก หรือให้เข็มที่ 4 เพื่อยกระดับภูมิต้านทานที่สูงขึ้น ดังแสดงในรูป
"ไวรัสกลายพันธุ์หลบหลีกระบบภูมิต้านทาน เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ต้องใช้ภูมิต้านทานในระดับที่สูงกว่าปกติ และที่ผ่านมาก็จะเห็นว่า เมื่อให้วัคซีนในประชากรหมู่มากขึ้น ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อัตราความรุนแรงของโรค และอัตราการเสียชีวิต ลดลงกว่าการระบาดในปีแรก ๆ" หมอยง ระบุทิ้งท้าย