เด่นโซเชียล

ปวด "ตา" แล้วทำยังไงให้หาย ชาวเน็ตแห่แชร์วิธีใหม่ ใช้ปัสสาวะหยอดตา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปวด "ตา" จากการใช้โทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์นาน ๆ ทำยังไงให้หาย ชาวเน็ตแห่แชร์วิธีใหม่ใช้ปัสสาวะหยอดตา งานนี้ขอเตือนอย่าหาทำหวิดตาบอดถาวรได้

 

"ตา" ปวดตา เจ็บตา เป็นอีกหนึ่งอาการผิดปกติของอวัยวะในร่างกายที่สร้างความรำคาญใจให้กับหลายคนไม่น้อย จนหลายคนก็ต่างพากันแห่แชร์วิธีการแก้ปวด หนึ่งในนั้นก็คือ การเอาปัสสาวะหยอดตา ทำให้ล่าสุดนี้ทางด้าน ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ออกโรงเตือนอย่าทำ เพราะนอกจากจะไม่มีงานวิจัยออกมารองรับแล้ว ก็ยังทำร้ายดวงตาจนถึงขั้นหวิดบอดถาวรได้เลยทีเดียว

 

 

 

 

"ตา" ปวดตา เจ็บตา เป็นอาการยอดฮิตของเหล่าผู้ที่ต้องเพ่งโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์นาน ๆ อย่างแท้จริง ซึ่งวิธีการแก้ปวดนั้นนอกจากจะมีทั้งการทานยาแล้ว การพักสายตาบ่อย ๆ ก็เป็นอีกสิ่งที่ควรทำเช่นกัน แต่ตอนนี้ชาวเน็ตดันแห่แชร์วิธีแปลกประหลาดอย่างการใช้ปัสสาวะหยอดตาแทนขึ้นมา ทำให้ล่าสุด (22 กุมภาพันธ์ 2565) เพจเฟซบุ๊ก Anti-Fake News Center Thailand ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ก็ออกมาโพสต์ถึงเรื่องราวนี้ว่า ข่าวปลอม อย่าแชร์! ใช้ปัสสาวะหยอดตา ช่วยแก้อาการปวดตาได้

 

ตามที่ได้มีการส่งต่อข่าวสารในประเด็นเกี่ยวกับสุขภาพ เรื่อง ใช้ปัสสาวะหยอดตา ช่วยแก้อาการปวดตาได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

 

 

 

 

จากกรณีที่มีการส่งต่อข้อมูลเกี่ยวกับการบรรเทาอาการปวดอันเนื่องมาจากใช้สายตาหนัก หรือแพ้แสงแดด โดยให้ใช้ปัสสาวะใหม่ ๆ หยอดตา เพื่อรักษาอาการข้างต้นนั้น กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า การใช้น้ำปัสสาวะบำบัดยังไม่มีงานวิจัยทางคลินิกที่น่าเชื่อถือมาอ้างอิงว่ารักษาโรคได้จริง ซึ่งปัสสาวะ คือ ของเสียในรูปของเหลวที่ผลิตออกจากไต โดยกระบวนการกรองจากเลือดและขับออกจากท่อปัสสาวะ มีปริมาณ 1 ลิตรต่อวัน องค์ประกอบของปัสสาวะ 95 % เป็นน้ำ 2.5% เป็นยูเรีย และที่เหลือประกอบด้วยสารเคมีอื่น ๆ

 

โดยปัสสาวะอาจมีสีแตกต่างกันตามปริมาณน้ำตั้งแต่ใสไม่มีสี จนถึงสีเข้มในกรณีดื่มน้ำน้อยทำให้มีของเสียปะปนกับปัสสาวะมาก โดยทั่วไปปัสสาวะมีความเป็นกรดเล็กน้อย(ph6.0) อาจมีความเป็นกลางหรือด่างได้ขึ้นกับปริมาณน้ำที่ดื่ม อาหารและยาที่บริโภคโดยมีค่าความเป็นกรดด่างตั้งแต่ 4.6 ถึง 8.0

 

โดยหากนำปัสสาวะมาหยอดตาอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองตา ตาแดง มีแผลถลอกที่ตาเสมือนโดนสารเคมีเข้าตา นอกจากนี้ปัสสาวะที่ออกมาตามท่อปัสสาวะ อาจมีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา หากนำมาหยอดตาอาจมีเชื้อโรคเข้าสู่ผิวตา ทำให้เกิดภาวะเยื่อบุตาอักเสบ โรคตาแดง มีขี้ตา ตามัว หาก อาการลุกลามรุนแรง อาจเกิดภาวะกระจกตาอักเสบ ปวดตา ตาแดง

 

หากรักษากระจกตาอักเสบได้ไม่ทันท่วงที การที่ติดเชื้อที่กระจกตาลุกลาม อาจต้องผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาหรือสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรได้ โดยเฉพาะผู้ที่ผิวกระจกตาไม่ดีอยู่เดิม เช่น ตาแห้ง ใส่คอนแทคเลนส์ และมีแผลถลอกที่กระจกตา ยิ่งมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่เชื้อโรคจะเข้าสู่กระจกตาได้ง่าย

 

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ สามารถติดตามได้ที่ www.dms.go.th หรือโทร 02 5906000

 

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ยังไม่มีงานวิจัยทางคลินิกที่น่าเชื่อถือมาอ้างอิงว่าน้ำปัสสาวะรักษาโรคได้จริง ซึ่งหากนำปัสสาวะมาหยอดตาอาจทำให้ระคายเคืองตา และเกิดผลเสียมากกว่าผลดี

หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

 

 

ตา, เจ็บตา, ปวดตา, วิธี, แก้ปวด, ปัสสาวะ, หยอดตา

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : Anti-Fake News Center Thailand 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ