เด่นโซเชียล

"หมึกช็อต" ทรมาน ทารุณกรรมสัตว์ แถมเสี่ยงติดเชื้อ แบบนี้จะยังกินกันต่อมั้ย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"หมึกช็อต" เอาหมึกเป็น ๆ มาจิ้มลงไปในน้ำจิ้มซีฟู้ด แล้วกินสด ๆ มันเป็นการ ทรมาน ทารุณกรรมสัตว์ เสี่ยงติดเชื้อ หรือไม่ อ.เจษฎา ตอบให้แล้ว

 

"หมึกช็อต" กลายเป็นประเด็นถกเถียงในโลกออนไลน์ หมึก เป็น ๆ มาจิ้มลงไปในน้ำจิ้มซีฟู้ด แล้วกินสด ๆ มันเป็นการ ทรมาน ทารุณกรรมสัตว์ มั้ย ล่าสุด รศ. ดร. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ โพสต์ Jessada Denduangboripant ตอบคำถามดังกล่าวพร้อมทั้งผลของความเสี่ยงที่อาจจะได้รับด้วย

 

 

 

 

รศ. ดร. เจษฎา โพสต์ตอบคำถาม "หมึกช็อต" ข้างต้นว่า เป็น ครับ หมึกสามารถรับรู้เรื่องความเจ็บปวดได้ แถมการกินดิบ ๆ แบบนี้ ยังเสี่ยงจะติดเชื้อแบคทีเรีย จนเกิดอาการอาหารเป็นพิษ และอาจได้รับพยาธิตัวกลม จนปวดท้องรุนแรงได้ ... จึงไม่ควรทำครับ

 

"ตามรายงานข่าว บอกว่าอาหาร หมึกช็อต นี้ คือเอาหมึกกล้วยสด ๆ เป็น ๆ มาจิ้มลงในแก้วช็อต (แบบแก้วเหล้า) ที่ใส่น้ำจิ้มซีฟู้ดลงไป ด้วยการทิ่มหัวหมึกลงไปในนั้น หมึกจะดิ้นอยู่ในถ้วยน้ำจิ้ม ซึ่งคนกินจะรอจนหมึกดูดน้ำจิ้มเข้าไปในตัว แล้วเอาขึ้นมากัดกินเข้าไปทั้งตัวเลย ซึ่งว่ากันว่ารสชาติแปลกดี ทั้งรสของหมึกสด บวกกับน้ำจิ้ม หรือบางทีก็มีน้ำหมึกผสมออกมาด้วย"

 

 

ประเด็น คือ มีการถกเถียงกันว่า ที่หมึกมันดิ้น ๆ นั้น มันเจ็บปวดทุรนทุรายจริง ๆ จากที่มันสัมผัสกับน้ำจิ้ม / หรือแค่เป็นปฏิเคมีจากน้ำมะนาว ทำให้กล้ามเนื้อมันกระตุก แค่นั้น เพราะมันเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ไม่น่าจะเจ็บปวดอะไรเป็น ? ... แล้วการกินหมึกดิบ ๆ แบบนี้ มีอันตรายอะไรแฝงอยู่บ้าง ?

 

#1 ปลาหมึกรู้สึกเจ็บปวด หรือไม่ ?

 

  • หมึกกล้วย หมึกกระดอง หมึกยักษ์ ฯลฯ ล้วนแล้วแต่อยู่ในกลุ่มของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ที่เรียกว่า เซฟฟาโลป็อด (Cephalopod) ซึ่งพวกมันเป็นสัตว์ที่มีความซับซ้อนสูง จนอาจจะเรียกได้ว่า สูงกว่าสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังชนิดอื่น ๆ

 

  • สัตว์กลุ่มนี้มีคุณสมบัติหลายอย่างที่จัดได้ว่า มันสามารถจะรับรู้ความเจ็บปวดได้ ทั้งจากพฤติกรรมการตอบสนองที่มันแสดงออก และจากระบบการทำงานทางสรีรวิทยาในสมองของมัน

 

 

 

 

  • สัตว์กลุ่มเซฟฟาโลป็อด มีทั้งระบบประสาท (nervous system) และตัวรับรู้สัมผัส (sensory receptor) มีตัวรับสัญญาณสารกลุ่มโอปอยด์ (opioid receptor) มีการเปลี่ยนแปลงทางสรีระวิทยาเกิดขึ้น เมื่อพบกับตัวกระตุ้นที่อันตราย (noxious stimuli) และสามารถมีการตอบสนองที่ลดลง ทั้งที่พบกับตัวกระตุ้นที่อันตรายนั้น ถ้าให้สารพวกยาระงับปวดและยาชาเฉพาะจุด แบบที่ใช้กับสัตว์มีกระดูกสันหลัง

 

  1. สามารถแสดงปฏิกิริยาตอบสนองทางการเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องตนเอง
  2. แสดงออกถึงพฤติกรรมการเรียนรู้ที่จะหลบหลีก
  3. สามารถเลือกได้ที่จะหลีกหนีตัวกระตุ้นที่เป็นอันตรายหรือจะทำสิ่งอื่นทดแทน

 

 

ดังนั้น จึงเป็นที่ยอมรับกันในทางวิชาการว่า สัตว์กลุ่มนี้ สามารถรู้สึกเจ็บปวดได้ ... แต่ความรู้สึกทางอารมณ์อื่น ๆ นั้น เช่น ความกลัว ความเครียด ความกระวนกระวาย ความทุกข์นั้น ไม่สามารถบอกได้

 

* จากการที่พวกหมึกสามารถรับรู้ถึงความเจ็บปวดได้ ทำให้พวกมันได้รับการคุ้มครองเป็นพิเศษ เหนือกว่าสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอื่น ๆ เมื่อมีการนำไปทำวิจัยที่ต้องใช้สัตว์ทดลองอีกด้วย (ปรกติกฎเกณฑ์เรื่องสวัสดิภาพสัตว์ทดลองนั้น จะเน้นแต่สัตว์มีกระดูกสันหลัง)

 

 

#2 การกิน "หมึกช็อต" หมึกดิบ ๆ เป็น ๆ มีอันตรายหรือไม่ ?


แน่นอนว่า การกินหมึกดิบนั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับการกินอาหารทะเลอื่น ๆ ที่มีอันตรายได้หลายอย่างแฝงอยู่ ตั้งแต่สารเคมีปนเปื้อน เชื้อแบคทีเรียก่อโรค ไปจนถึงพยาธิที่อยู่ภายใน

 

  • 2.1 มีการตรวจพบโลหะหนักหลายชนิดในอาหารทะเล ไม่ว่าจะเป็นตะกั่ว สังกะสี แคดเมียม และทองแดง และมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี ไม่ว่าจะเป็นในปลา ปูม้า กั้งตั๊กแตน หอยนางรม และปลาหมึก โดยพบว่ามีค่าสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานทั้งสิ้น

 

 

  • 2.2 มีแบคทีเรียหลายชนิดที่สามารถตรวจพบได้ในอาหารทะเล และเป็นสาเหตุสำคัญของโรคท้องร่วง แต่มีแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่เป็นต้นเหตุของโรคท้องร่วงมากที่สุด คือ เชื้ออหิวาต์เทียม หรือวิบริโอ พาราฮีโมไลติคัส (Vibrio parahaemolyticus) เชื้อชนิดนี้สามารถพบได้ทั้งในน้ำทะเลและอาหารทะเล เช่น ปลา ปูม้า หอย กุ้ง กั้ง ปูทะเล และปลาหมึก อาการที่ปรากฏเด่นชัด คือ อาการท้องเสีย อาเจียน ปวดท้องอย่างรุนแรง อาจมีอาการปวดศีรษะและหนาวสั่นร่วมด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นในช่วง 12 - 24 ชั่วโมงหลังจากกินอาหารทะเลเข้าไป

 

 

  • 2.3 มีพยาธิหลายชนิดทีเดียวที่สามารถพบได้ในอาหารทะเล ซึ่งทาง ศูนย์วิจัยโรคปรสิต มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (pdrc SUT) ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า การกินหมึกสด ๆ ที่ยังไม่ตายนั้น มีความเสี่ยงจะได้รับพยาธิตัวกลม อาทิ พยาธิอะนิซาคิส Anisakis , พยาธิซูโดเทอราโนวา Pseudoterranova , พยาธิคนทราซีเซียม Contracaeceum ที่สามารถก่อโรคในคนเราได้ หากกินสด ๆ โดยทำให้ผู้ป่วยมีอาการหลังกิน 1 - 2 ชั่วโมง อาทิเช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ลักษณะคล้ายกับแผลในกระเพาะอาหาร อาหารเป็นพิษ ไส้ติ่งอักเสบ

 

 

#โดยสรุป การกินหมึกดิบ ๆ เป็น ๆ อย่าง "หมึกช็อต" นั้น นอกจากจะเป็นการทรมานสัตว์โดยใช่เหตุแล้ว ยังมีความเสี่ยงจะได้รับอันตรายจากเชื้อแบคทีเรียและพยาธิที่ปนเปื้อนมาด้วย ... จึงควรจะทำให้ตาย และนำไปทำให้สุกก่อนจะบริโภค จะดีกว่าครับ

 

ป.ล. กรณีหมึกยักษ์ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นนำมาทำซาซิมิ (รวมถึงพวกเนื้อปลาด้วย) มักจะผ่านการแช่แข็งมาแล้ว นานเพียงพอที่จะทำให้พยาธิตายครับ แต่ต้องระวังเรื่องเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อนอยู่ดี

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ