"ไพรวัลย์" ไลฟ์สดล่าสุด โต้กระแสดราม่าเดือด ไม่สนใจแฟนคลับผิดหวัง-ผู้ติดตามหาย ลั่นถึงต่อให้ใครไม่โอเค ผมก็จะเป็นตัวของผมต่อไป
"ไพรวัลย์" หรือ ทิดไพรวัลย์ เป็นอีกหนึ่งคนดังที่ชาวเน็ตให้การจับตามองอยู่จำนวนมาก สืบเนื่องจากที่ผ่านมามักจะมีเรื่องดราม่าเกิดขึ้นกับเจ้าตัวเสมอ
โดยเฉพาะกับเหตุการณ์ล่าสุดนี้ หลังจากเมื่อคืนวันที่ 28 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา "ไพรวัลย์" ประกาศยุติบทบาทการเป็น 1 ใน 4 พิธีกรรายการนินทาประเทศไทยที่มี น้าเน็ก, ได๋ ไดอาน่า และ หมึก วิโรจน์ เป็นพิธีกรร่วมด้วย ก่อนลุกออกไปกลางรายการเลยทีเดียว
งานนี้ก็เลยทำให้ชาวเน็ตออกมาวิพากษ์วิจารณ์การกระทำดังกล่าวของเจ้าตัว ซึ่งแม้ว่าทางไพรวัลย์จะออกมาชี้แจงแล้วก็ตาม ก็ยังไม่ได้ทำกระแสดราม่าลดลงไปแต่อย่างใด
ล่าสุดวันนี้ 29 มกราคม 2565 "ไพรวัลย์" ได้ออกมาไลฟ์สด ในเพจ ไพรวัลย์ วรรณบุตร กล่าวเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยเนื้อหาทั้วหมดมีดังนี้
"ไพรวัลย์" เผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กลายประสบการณ์ที่มีประโยชน์มากสำหรับผม แต่อย่างน้อยผมได้เอาความชัดในความเป็นตัวตนของตัวเองมาพิสูจน์แล้วว่า ผมเลือกเป็นแบบนี้แล้ว จะยังมีกี่คนที่โอเค และมีอีกกี่คนที่ไม่โอเคกับผม จะมีคนเลิกติดตามผมอีกไหม และผมก็ได้พิสูจน์ออกมาแล้ว
"อย่างไรก็ตามถึงใครหลายคนจะไม่โอเคกับผม แต่ผมก็ยังยืนยันที่จะเป็นอย่างนี้ต่อไปครับ" ทิดไพรวัลย์ กล่าวเพิ่ม
"ไพรวัลย์" ยังโพสต์อีกหนึ่ง โดยเนื้อหาทั้งหมดมีดังนี้
ผมมีหลักคิดของผมแค่ว่า ถ้าสิ่งที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้ หรือสิ่งที่ผู้คนผิดหวังในตัวผม ไม่ได้เป็นสิ่งที่เกิดจากการที่ผมไปทำร้ายหรือทำลายความปกติสุขในชีวิตของใคร ผมมีสิทธิ์ที่จะเป็น หรือมีสิทธิ์ที่จะเลือกมันได้
วันหนึ่ง แม้ต่อให้ผู้คนเลิกติดตามและเลิกสนใจผมกันหมด ผมก็คิดว่า นั่นก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่ได้ผิดอะไร และมันสามารถเกิดขึ้นได้ เป็นธรรมดา ผมจะยอมรับนะครับ และผมไม่เสียใจ
ในการมีชีวิต ผมสนใจแค่ว่า ผมทำอะไรผิดต่อคนอื่นหรือเปล่า ผมสร้างปัญหาและความเดือดร้อนให้กับชีวิตของใครบ้างไหม ซึ่งแม้ถึงตอนนี้ ผมก็ยังยืนยันกับตัวเองว่า ผมไม่ได้ทำอะไรที่ว่านั้น
ชีวิตผม ผมไม่ได้ต้องการ แค่การทำอะไรก็ได้เพื่อให้ถูกใจคนอื่น หรือทำตามที่คนอื่นต้องการ เพื่อแลกกับงานหรือแลกกับเงิน
ผมดีใจนะครับ ถ้าผมได้ใช้ชีวิตในแบบของผมเอง แม้ชีวิตที่ว่านี้ จะทำให้ผมต้องกลับบ้าน (ซึ่งก็อยากกลับมากแล้วเต็มที) เพื่อไปอยู่กับพ่อแม่หรือญาติพี่น้องที่ผมรักตามอัตภาพอย่างที่ควรจะเป็น
ปล. ผมตอบกับทุกคนที่ถามผมเหมือนกันหมดว่า ผมไม่ได้ต้องการทำงานในวงการ ที่ผมยังรับงาน (ซึ่งก็ต้องขอบคุณที่มีงานให้รับ) และเลือกอยู่กรุงเทพ เพราะผมเห็นว่า ได้อยู่ใกล้แม่ เพราะแม่เองก็ยังต้องรักษาตัวที่กรุงเทพเหมือนกัน ผมพูดกับแม่ทุกครั้งว่า หายแล้วกลับบ้านเรานะ ไปทำอะไรก็ได้เล็กๆ แต่ได้อยู่บ้านด้วยกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง