กรณี "ทิดไพรวัลย์" Walk out กลางคันเท่ากับพังรายการชี้ควรแคร์คนดูและทีมงาน

นายธนบัตร ชายด่าน อาจารย์ นักเขียนอิสระ ที่ปรึกษาธุรกิจ ที่วิพากษ์วิจารณ์การเมืองและสังคม เจ้าของเพจ "ตุ๊ดส์review" โพสต์ถึงกรณี "ทิดไพรวัลย์" ประกาศยุติบทบาทการเป็นพิธีกรในรายการ "นินทาประเทศไทย" ซึ่งเป็นรายการสดที่ออกอากาศทางช่องยูทป โดยมีการวิเคราะห์สถานการณ์ต่าง ๆ ดังนี้  

เราขอพูดเฉพาะส่วนของการดำเนินรายการสด เพื่อเป็นมุมมองให้ใครหลายๆคนเข้าใจมากขึ้นว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้
1. บอยเคยทำงานเบื้องหลังกับรายการสดชื่อดังหลายรายการมา 4 ปีเต็ม เป็นรายการประเภท Music TV ซึ่งออกอากาศสด ต้องบอกก่อนว่า "รายการสดมันยากมาก มีหลายๆอย่างที่ความสดโคตรเสี่ยง" เพราะมันเกิด uncontrolled situation ได้ง่ายโคตรๆครับ เช่น การมาสายของแขกรับเชิญ (ทุเรศมาก เคยเจอเองกับตัว), เผลอหลุดคำหยาบต่ำๆกลางรายการ, ถามนอก script ไม่ตรง brief และคำถามจากทางบ้านที่ไม่ได้กรองมา ทำให้ทั้งรายการเหวอและหน้าเสีย ยังไม่นับงานเทคนิคพังๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เช่นระบบแสง เสียง หรือสัญญาณออกอากาศสด ดังนั้น ใครทำรายการสด เราโคตรนับถือคุณเลย

2. โดยปกติ ก่อนการออกรายการทุกรายการ ผู้ที่เข้าร่วมรายการต้องรู้อยู่แล้วในทุกประเด็น ทั้งตัวพิธีกร และแขกรับเชิญ ต้องเตรียมใจกับความสด ที่อาจจะไม่เป็นดั่งใจ ไปจนถึงทุกคนต่างรับ brief มาว่าจะมาเจออะไร เป็นรายการประมาณไหน คำถามแบบไหน ดำเนินรายการด้วยความกดดัน หรือ mood อย่างไร "การทราบล่วงหน้า" ทำให้ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมที่จะเคารพการอยู่ร่วมกันบนพื้นที่เดียวกัน

 

3. สิ่งที่เราไม่ควรทำอย่างหนึ่ง คือการ Walk out ออกจากรายการกลางคัน ไม่ใช่ห้ามเพียงเพราะว่าไม่เคารพผู้ร่วมรายการแค่นั้น แต่เนื่องจากการออกอากาศสด มีปัจจัยที่ต้องแคร์คือคนดู ทีมงาน และผู้ร่วมรายการด้วยกัน ไปจนถึง sponsor และ airtime ที่ทุกอย่างเป็นต้นทุน เป็นการทำงานของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะพึงพอใจ หรือไม่พึงพอใจ หรือเกิดสถานการณ์อย่างไรที่ทำให้มีปัญหา ต้องสามารถจัดการตัวเองให้ผ่าน event ตรงหน้า เป็นการวัดทักษะการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าในรายการสด ทุกคนต้องเก่งที่จะจัดการกับตัวเองให้ได้

 

4. การ walk out คือการพังรายการอย่างหนึ่ง เพราะทุกอย่างถูกตระเตรียมมาเพื่อให้เกิดการสร้างกระบวนการ script และเงื่อนไขที่คุยกับทีมงานทุกฝ่ายไว้ มันคือความรับผิดชอบของตัวผู้ร่วมรายการ ดังนั้น การ walk out กลางคัน เท่ากับพังตัว content ที่มีการเตรียมมาล่วงหน้า ฉีก bible ของรายการ และทำให้ผู้ร่วมรายการท่านอื่นๆ ต้องแบกรับสถานการณ์อย่างหนักหน่วง เนื่องจากเป็นสถานการณ์ที่ unpredictable จริงๆ ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดอะไรแบบนี้ เพราะมันไม่เคยเกิด มันไม่ใช่เรื่องปกติ และไม่ใช่ใครจะรับได้ ที่จะ hold รายการที่เกิดปัญหา walk out ให้จบได้สวยงาม

5. ถ้าสังเกตคำพูดของน้าเน้ก และที่ใบหน้าของได๋คือ เหวอมาก เพราะนี่คืออาชีพของเขาทั้งชีวิต ได๋ พี่หมึก และน้าเน้กเป็นพิธีกรมายาวนานมาก สิ่งที่ทั้ง 3 มีตรงกันคือความเป็นมืออาชีพ มันสำคัญมาก ต่อการซื่อสัตย์ในอาชีพตัวเอง จะเกิดอะไรขึ้น accident อะไร ขุ่นข้องหมองใจ ก็ต้องดำเนินรายการให้จบไปให้ได้ มันคือหน้าที่ของอาชีพของเรา พอเจอในสิ่งที่มันไม่ควรเกิดขึ้น มันสะท้อนผ่านคำพูดว่าเขาไม่ได้โอเค แม้ว่าจะเคารพการตัดสินใจของคุณไพรวัลย์ก็ตาม

 

6. การเป็นบุคคลสาธารณะของคุณไพรวัลย์ ที่มีผู้ติดตามสูง อยู่ในความสนใจ มีข้อซักถามของสังคม มันเลี่ยงไม่ได้เลย ที่จะมีเนื้อหาส่วนใดๆที่เกี่ยวข้องกับตนเอง เพราะยังเป็นที่สนใจของสังคมอยู่เสมอ เนื่องจากการเป็น public figure ที่มี content บน channel ย่อมมีคนพูดถึงอยู่แล้ว ถ้ามันเปิดเผยมุมชีวิตสู่สาธารณะ ความเป็นส่วนตัว หรือเรื่องส่วนตัวมันเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกซักถาม แต่ต้องรับมือกับตัวเองให้ได้ ควบคุมตนเองให้ผ่านจุดที่โอเคหรือไม่ ก็ต้องไปต่อให้ได้

 

7. "เราจะเป็นตัวของตัวเอง เคารพตัวเองได้ แต่เราต้องไม่ลืมเคารพผู้อื่น" ไม่มีใครอยากอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ได้รับการให้เกียรติ ทั้งต่อผู้ชม ผู้ร่วมรายการ และต่อตนเอง จริงๆแล้ว การให้เกียรติคนอื่น ก็เท่ากับให้เกียรติตัวเอง เพราะเราได้รับเกียรติกลับมาทันที จากการที่เราปฏิบัติดีต่อคนอื่น และเราเป็นผู้ control การแสดงออก และสาระต่างๆที่ออกจากการสื่อสารของเราเอง เราควบคุมมันได้ และทำมันให้สง่างามได้เสมอ ด้วยไหวพริบ และสติปัญญา โดยไม่ต้องทิ้งภาระไว้ให้ผู้ร่วมรายการด้วยกัน หรือสร้างความอึมครึมให้คนดู เราเชื่อว่าคุณไพรวัลย์ทำได้ดีกว่านี้ ที่จะพาเรื่องส่วนตัวที่เป็นคำถาม ไปสู่สาระที่จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อคนดู เพราะคุณเป็นคนเก่ง มีความคิดความอ่านที่ดี แต่วันนี้ คุณเลือก walk out ซึ่งมันคือการทอดทิ้งภาระไว้ให้เพื่อนร่วมรายการอีก 3 ท่าน และไม่เคารพคนดูรายการเลย

 

8 . ไม่มีใครได้อะไรที่เราพอใจไปทุกอย่าง เราได้ชื่อเสียงมา เรามีคนติดตาม แต่เรามีราคาที่ต้องจ่าย ต้องแลกในบางเรื่อง ต้องยอมที่จะถูกพูดถึง วิพากษ์วิจารณ์ เว้นแต่เราจะอยู่เงียบๆ ไม่มีตัวตน ไม่มีคนรู้จัก หากต้องการความเป็นส่วนตัวสูง การนำเสนอตัวตนสู่สาธารณะก็คงต้องระวังอย่างมาก เพื่อไม่สร้างคำถามข้อสงสัยให้สังคม แต่ในเมื่อเลือกนำเสนอ ก็ต้องมีคำถาม คำตอบ และคำวิพากษ์วิจารณ์ เราต้องการมีแสงสว่างในสังคม เราต้องกล้าเผชิญหน้าท้าทายกับเสียงสะท้อนจากสังคมเช่นกัน

 

9. การเป็นผู้ใหญ่ หรือความมีวุฒิภาวะ ไม่ได้วัดจากคุณยิ่งใหญ่ หรือเก่งแค่ไหน แต่วัดจากการจัดการต่อปัญหาได้ดีแค่ไหน ด้วยสติปัญญา และควบคุมให้มันออกมาอย่างสง่างามต่างหาก ไม่มีอะไรได้ดั่งใจเราทุกอย่าง แล้วเราจะใช้ชีวิตอย่างไร เมื่อเจอสิ่งที่เราไม่พอใจ เราจะเดินหนีมัน หรือเผชิญหน้าตั้งรับกับมัน และต่อสู้ด้วยสติปัญญาที่เรามี ใช้พื้นที่ และโอกาสที่เราได้รับมาให้ดีที่สุด เราต้องเลือกเอง และเลือกให้ฉลาดที่สุด

 

10. สำหรับมุมที่มองว่า "เขาเตี๊ยมกันมา นี่มันวงการบันเทิง รายการอยากได้กระแส จะเหวอทำไมในเมื่อรู้ล่วงหน้า???" มันก็คิดไปได้ทุกทางแหละครับ ถ้าจริง ก็เท่ากับคนดูโดนหลอก เอากระแสดราม่ามาปั่นให้รายการดัง แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าความจริง ที่เป็นจริง แบบไม่ตอแหลมันคืออะไร ไม่มีใครรู้ได้นอกจาก "คนทำงาน" และเราคนดูก็อาจจะถูกหลอกไปพร้อมกัน โอเค...วงการบันเทิงอ่ะเนอะ (เสียงพี่มี่) แต่น่าคิดที่ว่า "รายการจะเล่น strategy สร้างความดังด้วยวิธีแบบนี้ หลอกคนดูเสพดราม่า น้าเน้กจะทำแบบนั้นจริงๆหรือ???"
รายการสดว่ายากแล้ว ไหวพริบ สติปัญญา และการควบคุมอารมณ์สำคัญอย่างยิ่ง เพราะยากไม่แพ้กัน
#ThinkTalkLoud
#ตุ๊ดส์review