"โอไมครอน" เป็นเรื่อง อิสราเอล เผยผลศึกษาวัคซีน โควิด-19 เข็มที่ 4 ไม่เพียงพอในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา กลายพันธุ์ สายพันธุ์ใหม่ Omicron เล็งไม่เห็นประโยชน์ปูพรมฉีดให้แก่ประชากรทั้งหมด
เกาะติด "โอไมครอน" (โอมิครอน) โควิด-19 กลายพันธุ์ โควิดสายพันธุ์ใหม่ ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดในช่วงเวลานี้ ขณะที่ ชุดตรวจ โอไมครอน ATK ที่ ตรวจ Omicron ได้ ในไทยที่มีขาย ยี่ห้ออะไร กำลังเป็นที่ต้องการคำตอบของชาวเน็ต ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ยืนยัน ชุดตรวจ ATK ที่ใช้อยู่ สามารถตรวจพบได้ทุกสายพันธุ์ แต่ไม่สามารถระบุสายพันธุ์ และวิธีการตรวจหาสายพันธุ์ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์สามารถตรวจจับได้แม้มีการกลายพันธุ์เพิ่ม แล้วจะหาซื้อ ATK ได้ที่ไหน ราคาเท่าไหร่ โดย ชุดตรวจโควิด-19 (ATK) ในโครงการ “ATK คุณภาพ เพื่อสังคมไทย” ราคา 35 บาท มีจำหน่ายที่ร้านขายยาขององค์การเภสัชกรรมทั้ง 8 สาขา และทางเว็บไซต์ www.gpoplanet.com : อ่านต่อ...คลิกที่นี่
ล่าสุด สถาบันการแพทย์ในอิสราเอล เปิดเผยผลการศึกษาการ ฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 4 (กระตุ้นเข็มที่ 2) เบื้องต้น สามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทาน หรือ แอนติบอดี ได้ดี และเพิ่มระดับแอนติบอดีในร่างกายได้มากกว่าการฉีดเข็ม 3 แต่ว่า ยังไม่เพียงพอจะป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ "โอไมครอน" (สายพันธุ์โอมิครอน)
2 สัปดาห์หลังจากเริ่มทดลองกับเจ้าหน้าที่ของสถาบัน โดย 154 คน ได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เป็นวัคซีนเข็มที่ 4 ขณะที่อีก 120 คน ได้ฉีดวัคซีนโมเดอร์นา เป็นเข็มที่ 4 ซึ่งทั้งสองกลุ่มได้รับวัคซีน 3 เข็มแรก เป็นวัคซีนไฟเซอร์ทั้งหมด และนำข้อมูลไปเปรียบเทียบกับกลุ่มทดสอบที่ยังไม่ได้ฉีดเข็ม 4
ผลการศึกษา พบว่า จำนวนแอนติบอดีในร่างกายคนที่ฉีดเข็ม 4 แล้ว มีมากกว่าคนที่ฉีดวัคซีน 3 เข็มเล็กน้อย และผู้ที่ฉีดกระตุ้นเข็มที่ 2 ด้วยโมเดอร์นา มีระดับแอนติบอดีเหมือนกับ ผู้ที่ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 4 เข็ม ผู้เชี่ยวชาญสรุปเบื้องต้นว่า ระดับแอนติบอดีในร่างกายที่จะเพียงพอต่อการป้องกันการติดเชื้อโอไมครอน (โอมิครอน) น่าจะสูงเกินกว่าที่วัคซีนจะให้ได้
ดังนั้น ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วจึงยังติดเชื้ออยู่ แต่อาจจะมีอัตราการติดเชื้อที่ต่ำกว่า การตัดสินใจฉีดวัคซีนเข็ม 4 แก่กลุ่มเสี่ยง คนที่อ่อนแอที่สุด น่าจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว อย่างไรก็ตาม หากจะต้องฉีดเข็ม 4 ให้ประชากรทั้งหมด อาจจะได้ประโยชน์เล็กน้อย ซึ่งผลการวิจัยไม่สนับสนุนการกระจายวัคซีนในวงกว้างแก่ประชาชน
ด้าน สำนักงานยาแห่งสหภาพยุโรป (European Medicines Agency - EMA) เตือนว่า การฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้น หรือ บูสเตอร์ มากเกินไป อาจทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลงได้ ซึ่งหมายความว่า วัคซีนบูสเตอร์เข็มต่อ ๆ ไปอาจใช้ไม่ได้ผล
หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์ด้านวัคซีนของ EMA มาร์โก คาวาเลรี ออกมาเตือนถึงการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 4 เพื่อป้องกันการติดเชื้อกลายพันธุ์ ว่า การฉีดวัคซีนบูสเตอร์นั้นสามารถทำได้ หนึ่งหรือสองครั้ง ในลักษณะเดียวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ฉีดปีละครั้ง แต่ไม่ใช่สิ่งที่ควรฉีดซ้ำบ่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ สำนักงานความมั่นคงด้านสาธารณสุขของอังกฤษ ระบุว่า ยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 พร้อมยืนยันว่า วัคซีนเข็มที่ 3 ก็เพียงพอในการปกป้องอาการรุนแรงจาก โควิด-19 แล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง