เด่นโซเชียล

เร่งหาความจริง ปมปิดข่าว "เครนหล่นทับ" หนุ่มวิศวกรดับ ล่าสุด บริษัทตอบแล้ว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สรุปดราม่า โลกออนไลน์ แห่แชร์ กรณี "วิศวกรหนุ่ม" ถูก "เครนหล่นทับ" ในไซด์งานย่านทองหล่อเสียชีวิต ด้านบริษัทต้นสังกัดยืนยันไม่ได้ปิดข่าว พร้อมยินดีรับผิดชอบเต็มที่

สรุปดราม่า โลกออนไลน์ แห่แชร์ กรณี "วิศวกรหนุ่ม" ถูก "เครนหล่นทับ" ในไซด์งานย่านทองหล่อเสียชีวิต ด้านบริษัทต้นสังกัดยืนยันไม่ได้ปิดข่าว พร้อมยินดีรับผิดชอบเต็มที่

 

เป็นอีกเรื่องร้อนแรงบนโลกออนไลน์ หลังมีคนแชร์เรื่องราวของ "วิศวกรหนุ่ม" ที่เพิ่งเรียนจบหมาด ๆ ทำงานได้ 8 เดือน โชคร้ายเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตระหว่างการทำงานถูก "เครนหล่นทับ" แต่เรื่องที่ทำให้เป็นประเด็นการถกเถียงในโลกออนไลน์คือ เรื่องนี้โดนปิดข่าว 

เมื่อเพื่อน ๆ ของ "วิศวกรหนุ่ม" นำดอกไม้ไปวางเพื่อไว้อาลัยบริเวณจุดเกิดเหตุ กลับถูกเก็บไปเพื่อไม่ให้เป็นข่าว โดยเมื่อเรื่องราวดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป โลกโซเชียลต่างแห่ติดแฮชแท็ก #ไซต์งานแถวบีทีเอสทองหล่อ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมและทวงถามถึงความรับผิดชอบจากบริษัท 

 

ล่าสุด วันนี้14 ม.ค.65 ทาง บริษัท ต้นสังกัด ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงเรื่องราว "วิศวกรหนุ่ม" โดยรายละเอียดมีดังนี้

 

“จากเหตุการณ์อุบัติเหตุที่หน่วยงานก่อสร้างของบริษัทในวันที่ 7 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ทำให้พนักงานของบริษัทได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา พนักงานท่านนี้เป็นบุคลากรที่มีความสามารถ ขยัน มีความรับผิดชอบสูง เป็นที่ชื่นชมของผู้บังคับบัญชาและผู้ร่วมงาน บริษัทขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับการสูญเสียในครั้งนี้ และเป็นเหตุการณ์ที่บริษัทไม่อยากให้เกิดขึ้นกับพนักงานของบริษัท”

 

“บริษัทพร้อมรับผิดชอบดูแลอย่างเต็มที่ โดยตั้งแต่เกิดเหตุทีมงานของบริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจและรีบส่งตัวเข้ารักษาที่ โรงพยาบาลเอกชนที่ใกล้ที่สุด และมีผู้บริหารของบริษัท เข้าไปดูแลติดตามอย่างใกล้ชิดที่ โรงพยาบาลและขอให้แพทย์ช่วยชีวิตอย่างสุดความสามารถ”

 

“บริษัทได้แสดงเจตจำนงในการช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตในทุกด้าน และ ได้พยายามดำเนินการประสานงานเยียวยากับครอบครัวของผู้เสียชีวิตมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเข้าใจอย่างยิ่งในการสูญเสียอย่างกะทันหัน และจะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะช่วยเหลือ”

 

“ครอบครัวของพนักงานอย่างเต็มที่ โดยบริษัทได้แจ้งความประสงค์ขอรับผิดชอบช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล และค่าพิธีงานศพตั้งแต่วันที่พนักงานเสียชีวิต รวมถึงได้แสดงเจตจำนงช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต และได้ดำเนินการติดต่อกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตมาโดยตลอดตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ ซึ่งมีการนัดพูดคุยครั้งแรกกับตัวแทนญาติผู้สูญเสียเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2565 และอยู่ระหว่างการพูดคุยเพื่อดูแลและพร้อมรับผิดชอบเยียวยาอย่างเต็มที่”

 

“บริษัทได้พยายามอย่างเต็มที่ในการดำเนินการทุกอย่างด้วยความรับผิดชอบ โดยให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบสาเหตุข้อเท็จจริงต่างๆและแจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหน่วยงานภากรัฐที่เกี่ยวข้องตามมาตรการที่ภาครัฐกำหนด และได้มีการหยุดการก่อสร้างชั่วคราวจวบจนถึงปัจจุบัน”

 

“ทั้งนี้ทางบริษัทไม่ได้มีเจตนาในการปกปิดใดๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คณะผู้บริหารขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อกรอบครัวของผู้ชญเสียกับเหตุการณ์ในครั้งนี้”

 

อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกัน 14 ม.ค.65 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากกรณีโซเชียลมีเดีย เผยเหตุ "วิศวกรหนุ่ม" ได้รับอุบัติเหตุ  "เครนหล่นทับ" เสียชีวิต และมีการปิดข่าวนั้น

 

ได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้มอบให้สำนักงานประกันสังคมดำเนินการตรวจสอบสิทธิและนำเงินทดแทนไปมอบให้ญาติผู้เสียชีวิต โดยมีสิทธิได้รับค่ารักษาพยาบาล 50,000 บาท ค่าทำศพ 50,000 บาท และเงินทดแทนกรณีเสียชีวิต 1,680,000 บาท 

 

นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 กำหนดให้นายจ้างต้องแจ้งต่อพนักงานตรวจความปลอดภัยทราบในทันทีกรณีที่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง หรือลูกจ้างประสบอันตรายจากการทำงานจนเป็นเหตุให้ลูกจ้างเสียชีวิต

 

โดยจะแจ้งโทรศัพท์ โทรสาร หรือวิธีอื่นใดที่มีรายละเอียดพอสมควรก็ได้ จะต้องแจ้งรายละเอียดและสาเหตุเป็นหนังสือภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ลูกจ้างเสียชีวิต หากนายจ้างไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิดโดยมีโทษปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท ซึ่งกรณีนี้พนักงานตรวจความปลอดภัยสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 3 ยังไม่ได้รับแจ้งการเกิดอุบัติเหตุจากนายจ้างแต่อย่างใด

 

นอกจากนี้ความผิดตาม พ.ร.บ.ความปลอดภัยฯ ที่พบบ่อยครั้งเมื่อเกิดอุบัติเหตุจากการทำงานคือ นายจ้างไม่ได้จัดทำและแจกคู่มือปฏิบัติงานให้ลูกจ้างทุกคนก่อนที่จะเข้าทำงาน เปลี่ยนงาน หรือเปลี่ยนสถานที่ทำงาน และไม่ได้จัดให้ลูกจ้างได้รับการฝึกอบรมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน

 

ซึ่งความผิดดังกล่าวจะมีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท ถึงปรับไม่เกิน 2 แสนบาท จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยขึ้นอยู่กับฐานความผิดนั้น ๆ ซึ่งจะต้องดำเนินการสอบข้อเท็จจริงต่อไป.

 

 

 

logoline