"เด็กพิเศษ" แกล้งแมว ที่แท้พ่อก็อยู่ด้วย งานนี้ขอระบายหวังโต้กลับแต่โดนเท

 

"เด็กพิเศษ" กลายเป็นเรื่องราววิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ หลังจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ระบาย บอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ คาเฟ่แห่งหนึ่ง โดยพาแมวไปด้วย ว่า วันนี้ไปกินข้าวที่คาเฟ่แถว...มา ก็นั่งกินข้าวกันปกติ สักพักมีเด็กมาจากไหนไม่รู้ เดินมาที่โต๊ะเราแล้วพยายามจะเอาไม้มาจิ้มแมวเราผ่านกระเป๋า (น้องนอนอยู่ในกระเป๋าตลอด) แต่ว่าแฟนเราเห็นพอดีเลยห้ามทัน เด็กคนนั้นก็เดินกลับโต๊ะไปโดยที่เราไม่ได้รับคำขอโทษจากเด็กหรือพ่อแม่เด็กเลย แต่เราก็ปล่อยผ่านไป

 

 

 

 

 

 

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก เล่าเหตุการณ์ "เด็กพิเศษ" ต่อว่า จนผ่านไปอีกไม่นานเด็กคนนี้ก็เดินมาที่โต๊ะเราอีก พร้อมกับมายืนแล้วกรี๊ดเสียงดังใส่แมวเรา ละก็หัวเราะชอบใจ จังหวะนี้คือเราโกรธมาก แต่ก็ตกใจ พ่อแม่เด็กก็ยังไม่ลุกจากโต๊ะมาพาลูกตัวเองกลับไป แค่พูดข้ามโต๊ะมาว่า “กลับมาลูก ขอโทษเขาด้วย” แต่เด็กก็ไม่ขอโทษเรา แถมพ่อแม่ก็ยังไม่ขอโทษเราอีก ตอนเด็กเดินกลับไปก็พูดว่า “อยากแกล้งแมว แกล้งแมว” อยู่ซ้ำ ๆ จุดประสงค์เด็กมันก็ชัดเจนแล้วว่าอยากแกล้งแมวเรา ถ้าแฟนเราห้ามไม่ทันแล้วไม้มันโดนตาแมวเราล่ะ??? หรือถ้าแมวเราตกใจเสียงกรี๊ดแล้วช็อกขึ้นมาจะทำยังไง??? ที่เราไม่พูดที่ร้านเพราะไม่อยากทำให้โต๊ะอื่นเสียบรรยากาศไปด้วย เลยมาเขียนระบายในเฟซแทน สิ่งที่คิดได้คือ #ลูกXXXไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน แล้วพ่อแม่ก็ควรจะมีจิตสำนึกกับมารยาทด้วย ปล่อยให้ลูกตัวเองมารบกวนโต๊ะคนอื่นได้ยังไง

 

 

 

 

ทั้งนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ได้เพิ่มเติมข้อมูลว่า ผู้ใหญ่ที่อยู่กับเด็กเขาตอบข้อความที่เราทักไปหาแล้วนะคะ (น้องสาวเราเป็นคนเจอช่องทางการติดต่อจากในโลเคชั่นร้าน) เขาขอโทษเรา (ขอแก้ไขว่าไม่ได้ขอโทษนะคะ เพราะเขาไม่ได้รู้สึกว่าฝั่งเขาผิด) แล้วเขาบอกว่าน้องเป็น "เด็กพิเศษ" ค่ะ แต่เขาบอกว่าเด็กไม่ใช่ลูกของเขา ให้เราไปคุยกับพ่อแม่เด็กเอง แต่เขาเป็นคนพาเด็กมานั่งที่ร้านด้วย เขาก็ควรจะดูแลเด็กหรือเปล่า ไม่ว่าจะใช่พ่อแม่หรือไม่ใช่ ผู้ใหญ่ 4 คน ดูแลเด็กแค่คนเดียวไม่ได้ ก็อย่าพาเด็กไปไหนมาไหนด้วยเลยค่ะ แล้วมาบอกว่าแมวเราก็ไม่ได้เป็นอะไร ที่แมวไม่โดนไม้จิ้มก็เพราะแฟนเราห้ามทันนะคะ

 

 

 

 

 

 

ด้านชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์ต่อกรณีดังกล่าว อาทิ เปิดการ์ดเป็น "เด็กพิเศษ" ผู้ใหญ่ควรดูแลมั้ย , ตบมือปั้ดเลย รู้ว่าเด็กพิเศษมักไม่อยู่นิ่ง แล้วผู้ปกครองทำไมไม่ดูแล คุ้น ๆ มากร้านนี้ , ละคนอื่นจะรู้ไหมลูกคุณไม่ปกติ , เอาแล้ว เอาคำว่าเด็กพิเศษมาไว้หน้าแล้วนะคะคุณพ่อ เป็นเด็กพิเศษก็ต้องดูแลใกล้ชิดหน่อยสิคะ ต้องสอนให้ลูกคุณเข้าใจว่าแมวก็เป็นสิ่งมีชีวิต ไม่ใช่ของเล่นอะ เป็นพ่อคนได้ไงอะ ไม่สงสารคนอื่นก็สงสารลูกคุณบ้างค่ะ เขาโตขึ้นกว่านี้เขาจะไม่รู้ว่าอะไรดี ไม่ดีนะคะ ดูแลน้องดี ๆ หน่อยเถอะค่ะ สงสารหน่อย , อย่าเอาความไม่ปกติของเด็กมาอ้างเลย เด็กพิเศษที่รู้จัก น้องนิสัยดีมาก เพราะพ่อแม่สั่งสอนเขาให้มีมารยาทเหมือนคนปกติ

 

 

แต่แล้วเรื่องราวยังไม่จบแค่นี้ เมื่อปรากฏว่า คุณพ่อของน้องนั้นก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ซึ่งทางคุณพ่อได้นำโพสต์ไปแชร์ลงในกลุ่ม "เด็กพิเศษ" โดยบอกว่า ก็แค่อยากระบายครับ เหมือนกับที่เจ้าของโพสต์ได้ระบาย แล้วผมก็ได้แชทส่วนตัวคุยกับเจ้าของโพสต์แล้ว แต่ถ้าใครยังติดใจอะไร ผมคงไม่มานั่งปรับความเข้าใจกับทุกคนหรอกนะครับ เพราะสุดท้ายพอเรื่องนี้จบ ก็แยกย้ายกันอยู่ดีครับ

 

 

 

 

ส่วนคอมเมนต์จากกลุ่มนี้ปรากฏความเห็นส่วนมากไปในทิศทางเดียวกัน อาทิ เรื่องนี้สรุปง่ายมาก ๆ แค่ ผู้ปกครองเดินมาอธิบายหรือมาขอโทษแทนเด็ก ไม่ว่าจะเป็น คน สัตว์ สิ่งของ ไม่ว่าจะมีชีวิตหรือไม่มี ของใครใครก็รัก ถ้าผิดก็แค่ขอโทษแทน ก็จบแล้ว ผู้ปกครองควรนึกถึงจุดนี้เหมือนกันนะคะ , อย่าเอาคำว่าเด็กพิเศษมาอ้างดีกว่าครับ ยอมรับผิดบ้าง อายุขนาดนี้แล้วคุณ อย่าให้แก่แต่สังขารครับ แค่เดินไปบอกเขาว่า "ขอโทษครับที่ลูกผมมารบกวน" แค่นี้ก็จบและครับ , สงสารลูกนะครับ , ควรมีพ่อเมื่อพร้อมจริง ๆ , ดันมีพ่อแม่พิเศษ หนักไปอีก , ตอนแรกก็สงสารแมว ตอนนี้เริ่มสงสารเด็กละ มีพ่อแม่เมื่อพร้อมนะลูก , ลูกเป็นเด็กพิเศษ ก็เลี้ยงแบบพิเศษเนอะ ไม่ใช่เลี้ยงแบบธรรมดา , ปัญหาไม่ได้อยู่ที่น้องเป็นออทิสติกค่ะ ปัญหาอยู่ที่การเลี้ยงดูลูกของคุณในที่สาธารณะค่ะ , ดูทรงกะจะหาคนมาช่วยเข้าข้างนั่นแหละ แต่บ้ง

 

 

ที่มา : facebook