เด่นโซเชียล

"ฉีดวัคซีนโควิด" รพ.องครักษ์ เปิดวอล์กอินแล้วทุกวันเสาร์ตลอดเดือน ม.ค.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วอล์กอิน "ฉีดวัคซีนโควิด" รพ.องครักษ์ ชวนเข้ารับการฉีดวัคซีนแล้วทุกวันเสาร์ตลอดเดือน ม.ค. 65 เริ่ม 8 ม.ค. นี้ ไม่จำกัดภูมิลำเนาและเลือกสูตรได้เอง เช็ครายละเอียดได้ที่นี่

 

"ฉีดวัคซีนโควิด" งานนี้ทางด้านโรงพยาบาลองครักษ์ จ.นครนายก เปิดบริการให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แบบวอล์กอิน (Walk-in) ตลอดเดือน มกราคม 2565 นี้ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 มกราคา 2565 ซึ่งการฉีดวัคซีนครั้งนี้ไม่มีการจำกัดภูมิลำเนาและสามารถเลือกสูตรเองได้สำหรับวัคซีนเข็มที่ 1 และ เข็มที่ 2 เท่านั้น 

 

 

 

 

"ฉีดวัคซีนโควิด" โดยตอนนี้การฉีดวัคซีนโควิด-19 ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะสถานการณ์โควิด19วันนี้ ตั้งแต่ที่สายพันธุ์โอไมครอนเข้ามาระบาดในประเทศไทยก็ทำให้มีประชาชนหลายคนติดเชื้อ ดังนั้นการฉีดวัคซีนจะช่วยกระตุ้นร่างกายให้สร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัส ลดความรุนแรงหากติดเชื้อ และลดอัตราการเสียชีวิตได้

 

และวันนี้ (6 มกราคม 2565) ทางด้านเพจเฟซบุ๊ก ไทยรู้สู้โควิด ได้ประชาสัมพันธ์ว่า โรงพยาบาลองค์รักษ์ขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยเข้ารับการฉีดวัคซีนแบบ Walk-in

สำหรับ เข็ม 1 เลือกสูตรเองได้

  • สูตร 1 ซิโนแวค + แอสตร้า
  • สูตร 2 แอสตร้า + แอสตร้า
  • สูตร 3 แอสตร้า + ไฟเซอร์

- มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ ขึ้นไป

- สัญชาติไทย

- ไม่จำกัดเขตพื้นที่

**กรณีเป็นต่างชาติ ต้องลงทะเบียนรับนัด**

สำหรับเด็กอายุ 12 -17 ปี จะได้รับไฟเซอร์ 2 เข็ม

 

 

ฉีดวัคซีนโควิด, ฉีดวัคซีนโควิด, วอล์กอิน, Walk-in, โรงพยาบาลองครักษ์

 

สำหรับฉีดกระตุ้นเข็ม 3 ของผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว

1. ซิโนแวค/ซิโนฟาร์ม 2 เข็ม ได้รับเข็มกระตุ้นเป็น แอสตร้า 1 เข็ม

2. แอสตร้า 2 เข็ม ได้รับเข็มกระตุ้นเป็น ไฟเซอร์ 1 เข็ม

3. ซิโนแวค/ซิโนฟาร์ม + แอแสตร้า ได้รับเข็มกระตุ้นเป็น แอสตร้า 1 เข็ม

 

นอกจากนั้นการรับคิวเข้าฉีดวัคซีนไม่มีการจองคิวผ่านระบบต่าง ๆ รับบัตรคิวเฉพาะหน้าจุดบริการเท่านั้น เอกสารที่ต้องเตรียมมา ได้แก่

  • บัตรประชาชน 1 ใบ
  • ใบนัดเข็ม 2 (ถ้ามี)

กรณีติดโควิดและรักษาหาย

  • บัตรประชาชน 1 ใบ
  • ใบนัดเข็ม 2 (ถ้ามี)
  • ใบรับรองแพทย์รักษาหายจากโควิด

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 037-391510 ต่อ 100 หรือ inbox เพจ ร.พ.องครักษ์

 

 

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : ไทยรู้สู้โควิด  

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ