อดีต "พระมหาสมปอง" สัมภาษณ์เปิดใจ หลังลาสิกขา ที่รายการ "โหนกระแส" เคลียร์ ปม สาเหตุลาสิกขา สึกออกมาแล้วรวย เตรียมทำธุรกิจแม่ปอง
อดีต "พระมหาสมปอง" สัมภาษณ์เปิดใจ หลังลาสิกขา ที่รายการ "โหนกระแส" เคลียร์ ปม สาเหตุลาสิกขา สึกออกมาแล้วรวย เตรียมทำธุรกิจแม่ปอง
วันนี้ 30 ธ.ค.64 อดีตพระมหาสมปอง หรือที่ตอนนี้ทุกคนรู้จักในชื่อ สมปอง นครไธสง หรือ "มหาสมปอง" ได้เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังลาสิกขา ที่รายการ "โหนกระแส" โดยมี หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย เป็นผู้ดำเนินรายการ ถึงสาเหตุที่ลาสิกขา รวมถึงปมดราม่า สึกแล้วรวย สึกแล้วจะลงเล่นการเมืองหรือไม่
สาเหตุที่ลาสิกขา
จริง ๆมันเป็นเรื่องของเวลามันถึงเวลาและก็มีเรื่องของเจ้าอาวาสนิดหน่อย รวมไปถึงเรื่องของแม่ที่อยากจะสึกมาดูแลแม่ ซึ่งการศึกเป็นเรื่องธรรมชาติห้ามกันไม่ได้ บวช 30-40 ปียังมีคนสึก กดดันหรือไม่ก็มีบ้าง ยืนยันไม่ได้ถูกกดดันจากพระผู้ใหญ่ พระผู้ใหญ่ใจดีมีเมตตาทั้งในวัดเจ้าคณะตำบลเจ้าคณะเขตจังหวัดหรือแม้แต่พระผู้ใหญ่กว่านั้นก็ไม่มีใครกดดัน
ที่มาของหนี้ 10ล้าน
ยอมรับมีหนี้ตั้งแต่เป็นพระ10 ล้าน เป็นหนี้สินในการสร้างโรงเรียน ห้องเรียน สนามฟุตบอล สนามกีฬา 3 -4 สนาม ไม่ได้สึกหนีหนี้ใช้คืนแน่นอน ตอนนี้มีเจ้าสัวใจดีให้ความช่วยเหลือใช้หนี้ให้ 10 ล้าน และมีขวัญถุง 1 ล้าน ให้มาแล้วใช้หมดแล้วด้วย เงินเดือนอีก 2 แสน
แต่เนื่องจากยิ่งติดหลายอย่างที่ยังต้องทำ และได้ตกลงเจ้าสัวรายดังกล่าวโดยที่จะทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำก่อน 3 เดือนแล้วค่อยกลับมาคุยกันใหม่อีกครั้ง แหละเพื่อต้องการดูแนวทางและความเป็นไปได้ในการทำออนไลน์ด้วย ยืนยันมีหนี้จากที่ช่วยวัด โรงเรียน ต่างๆ จริง
ดราม่าสึกออกมาหาเงิน
สำหรับประเด็นไม่กลัวคนว่าสึกมาหาเงินหรอ "มหาสมปอง" กล่าวว่า เงินมันต้องใช้อยู่แล้ว ยอมรับตอนเป็นพระหาเงินไม่ได้เท่านี้ อยู่ที่ว่าคนมองเราจะรู้สึกยังไงคุณก็หาเงินใครก็หาเงินอยู่ที่ว่ามีเงินแล้วจะช่วยสังคมหรือเปล่า เพราะเราตั้งใจจะช่วยสังคมอยู่แล้ว รายได้ธุรกิจแม่ปองนั้น 10% จะหักช่วยเหลือสังคม จากกำไร ตั้งแต่ 100 บาทแลก 10 บาทกันให้
เรื่องลงเล่นการเมือง
ส่วนเรื่องลงการเมืองตอนแรกคุยไว้ 3 พรรคการเมืองแต่ลูกเพจไม่เห็นด้วยและไม่อยากให้ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองรวมทั้งการที่เคยเอ่ยปากถึงข้อเสนอ 3 ข้อในการที่จะเข้าร่วมพรรคการเมืองคือ ใช้หนี้10 ล้าน เงินขวัญถุง3-4ล้าน เงินเดือน2-3แสน ซึ่งทั้งหมดนี้ผิดกม.มาตรา36 อาจส่งผลให้พรรคการเมืองนั้นถูกยุบพรรคได้ ยืนยันไม่เข้าการเมืองจนกว่าลูกเพจจะเห็นชอบ เอาลูกเพจเป็นหลัก
สึกเลียนแบบ "มหาไพรวัลย์" หรือไม่
ส่วนที่คนมองว่าเป็นพฤติกรรมเลียนแบบมหาไพรวัลย์ไม่ได้เลียนแบบ ไพรวัลย์ก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเป็นน้องตั้ง 12 ปี 1 รอบเต็มๆ มันเป็นลูกศิษย์อาจารย์ด้วยซ้ำ ถามว่าคิดนานหรือไม่กว่าจะสึก ก็คิดนาน คิดมาตลอดแต่เวลาคิดใจมันจะจี๊ด ๆ คิดมาก่อนไพรวัลย์นะไม่เกี่ยวกับไพรวัลน์ก็คิดมาหลายปี แต่ทุกครั้งที่คิดว่าจะสึกมันก็จะคิดว่า คนจะด่าทั้งประเทศไหม เขาจะผิดหวังไหม เราจะอะไรยังไงใครจะเสียใจคิดเยอะ
จนมาถึงจุดได้เจอกับมหาไพรวัลย์ พูดว่า การทนเพื่อคนอื่นทนเพื่ออะไรก่อน เราไม่ได้เป็นหิน หินมันแข็งแกร่ง เราเป็นคนแต่ก็ทนเพื่อคนอื่นอย่าทำสภาพ คือค่อยๆคิดประโยคนี้ของน้องด้วยแล้วก็ก่อนหน้านี้ด้วยแล้วมันก็อย่างที่บอกมันถึงเวลาจริงๆ
อาหารมื้อเย็นมื้อแรกหลังสึก 30 ปี
เป็นอาหารเย็นจากบ้านเจ๊ติ๋มทีวีพูลซึ่งมีผัดผักกาด ปลาหมึกชุบแป้งทอด สลัด อาหารมื้อแรกก็อร่อย มีการดื่มไวน์ แต่ดื่มแล้วมีคำถามว่าดื่มเพื่ออะไรในเมื่อมันไม่อร่อย
เรื่องมีแฟนแต่งงาน
เรื่องนี้ต้องมีแน่นอน
มีโอกาสกลับมาบวชอีกมั้ย
มีโอกาสแต่คงเป็นไปได้ยาก และคงไม่ใช่เร็วๆนี้แน่ๆ
ขอบคุณภาพจาก โหนกระแส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง