
"AI เพื่อความมั่นคง" ไทย ทุ่มงบ 3.3 ล้าน ชี้ เพื่อความมั่นคงของประเทศ
"AI เพื่อความมั่นคง" กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากบริษัทสวีเดนออกมาแถลงว่า ไทยได้ทุ่มงบถึง 3.3 ล้านบาท เพื่อซื้อซอฟต์แวร์วิเคราะห์วิดีโอแบบเรียลไทม์
"AI เพื่อความมั่นคง" ตกเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ครั้งใหญ่ หลังจากเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา ทางบริษัทผู้ให้บริการด้านโปรแกรมวิเคราะห์วิดีโอด้วย AI ชื่อดังของสวีเดนอย่าง Irisity ได้เผยว่าทางบริษัทได้นำส่งโปรแกรมวิเคราะห์วิดีโอให้กับรัฐบาลไทย เพื่อใช้ในการรักษาความมั่นคงของรัฐทั่วประเทศ ดีลนี้มีมูลค่าเริ่มต้นที่ 1 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว ๆ 3.34 ล้านบาท แต่ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลอื่น และยังระบุอีกว่า ข้อมูลนี้ ถือเป็นความลับ เพื่อเป็นการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมตั้งคำถามว่า จุดประสงค์ในการซื้อ AI ในครั้งนี้ คืออะไร? ใช้เพื่อเหตุผลอะไรกันแน่?
ทั้งนี้ บริษัท Irisity ได้ระบุถึงรายละเอียดของซอฟต์แวร์ IRIS ของบริษัทไว้ว่า โปรแกรมนี้สามารถนำไปรวมกับกล้องใหม่หรือระบบกล้องที่มีอยู่แล้วก็ได้ โดยจุดประสงค์ของซอฟต์แวร์ตัวนี้มีไว้ เพื่อความปลอดภัย โดยสามารถตรวจจับพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ เช่น
- การบุกรุก
- อัคคีภัย
- ความรุนแรง
- วัตถุที่ไม่มีคนเฝ้า
- การเคลื่อนที่ไปในพื้นที่ที่ไม่ควรเข้าไป
- การละเมิดกฎ Social Distancing
- เหตุการณ์อื่น ๆ
แต่ยังไม่มีความแน่ชัดถึงจุดประสงค์ในการจัดซื้อซอฟต์แวร์ "AI เพื่อความมั่นคง" นี้ของรัฐบาลไทย และยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อในครั้งนี้ต่อสาธารณชนหรือไม่