"เงินเยียวยาเกษตรกร" ล่าสุด ช่วยเหลือชาวสวนยาง คอนเฟิร์มได้แน่ 20 ธ.ค. นี้
"เงินเยียวยาเกษตรกร" เคาะเฟส 3 หลังครม. ไฟเขียวโครงการประกันรายได้เกษตรพืชเกษตรหนุนนโยบายรัฐบาล รวมวงเงิน 1.4 แสนล้านบาท คอนเฟิร์มเจอกันแน่ไม่เกินธันวานี้
"เงินเยียวยาเกษตรกร" เฟส 3 เจอแน่ หลังจากทาง ครม. ไฟเขียว เห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรพืชเกษตรกรตามนโยบายรัฐบาล ได้แก่
- โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเพิ่มเติมวงเงิน 76,080 ล้านบาท
- โครงการสนับสนุนค่าบริการจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 วงเงิน 54,972 ล้านบาท
- โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 3 วงเงิน 10,065 ล้านบาท
รวมวงเงินโครงการทั้งหมดกว่า 1.4 แสนล้านบาท
"เงินเยียวยาเกษตรกร" โดยรองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ระบุว่า การจ่ายเงินประกันรายได้หรือเงินส่วนต่างของข้าวนั้น ที่ผ่านมา ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จ่ายไปแล้ว 2 งวด เป็นเงิน 13,000 ล้านบาท ยังค้างอยู่อีก 31 งวด ซึ่งตอนนี้ในที่ประชุมอนุมัติวงเงินให้แล้ว ขั้นตอนต่อไป ธ.ก.ส. ต้องไปประชุม และได้จ่ายเงินส่วนต่างงวดที่ 3 ให้กับเกษตรกร ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะเกินกลางเดือนธันวาคมนี้ จะจ่ายเงินส่วนต่างได้หรือเร็วกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการประชุมของบอร์ด ธ.ก.ส.
ทั้งนี้ "เงินเยียวยาเกษตรกร" โครงการประกันราคายาง ต้องเป็นชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนและแจ้งข้อมูลพื้นที่ปลูกยางกับการยางแห่งประเทศไทย ภายในวันที่ 14 มิถุนายน 2564 ซึ่งมีจำนวน 1,880,458 ราย รวมพื้นที่สวนยางกรีดได้ 19.16 ล้านไร่ และประกันรายได้ในระหว่างตุลาคม 2564 - มีนาคม 2565 โดยมีหลักเกณฑ์ ดังนี้
- เป็นสวนยางอายุ 7 ปีขึ้นไปที่เปิดกรีดแล้ว รายละไม่เกิน 25 ไร่
- ผลผลิตยางก้อนถ้วย จำนวน 40 กิโลกรัม/ไร่/เดือน รายละไม่เกิน 25 ไร่
- กำหนดเงินค่าประกันรายได้ โดยราคายางแผ่นดิบคุณภาพดี 60 บาท/กิโลกรัม, น้ำยางสด 57 บาท/กิโลกรัม, ยางก้อนถ้วย 23 บาท/กิโลกรัม
- แบ่งสัดส่วนรายได้เจ้าของสวน 60% และคนกรีด 40% ของรายได้ทั้งหมด
ล่าสุด ทางโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 3 ประกาศออกมาแล้วว่าจะเริ่มโอน 20 ธ.ค. 64 เป็นต้นไป เป้าหมายเกษตรกร 1.88 ล้านราย