หลังรัฐบาลไฟเขียวให้จัดงาน "ลอยกระทง2564" ได้ มีการจัดงานที่น่าสนใจหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เพราะแต่ละจังหวัดก็มีอัตลักษณ์ไม่เหมือนกัน ใกล้ที่ไหนไปที่นั่นกันเลย
นับถอยหลังอีกเพียง 2 วัน ก็จะถึงเทศกาล "ลอยกระทง2564" ซึ่งเป็นประเพณีที่สำคัญของไทย และถือเป็นงานกิจกรรมใหญ่งานแรกตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ระบาดของไวรัสโควิด 19 ทำให้ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทั่วไทยและทั่วโลกไม่สามารถจัดงานกิจกรรมที่มีผู้คนไปรวมตัวกันจำนวนมากได้ แต่แม้จะมีการผ่อนคลายลงบ้างแล้ว ก็ต้องย้ำให้ผู้ที่จะไปท่องเที่ยวทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นงานลอยกระทง หรือกิจกรรมใด ๆ ต่อจากนี้ไป ก็ยังต้องระมัดระวังตั้งการ์ดสูงอย่างต่อเนื่อง
ถ้าเตรียมพร้อมแล้วก็ไปกันเลย สะดวกที่ไหนไปที่นั่น
ถ้าพูดถึงลอยกระทงที่คิดถึง จุดแรกต้องเป็นจังหวัดสุโขทัย ปีนี้จัดภายใต้ชื่อ “ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ วิถีใหม่ จังหวัดสุโขทัย 2564” ระหว่างวันที่ 17-19 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งผู้จัดยืนยันว่ายิ่งใหญ่สวยงามเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือจำกัดคนเข้างานและต้องลงทะเบียนก่อนที่ https://sukhothai.online
ขึ้นเหนือไปต่อที่เชียงใหม่กับ “ประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ ปี 2564” ที่จะได้ตระการตากับโคมล้านนาทั่วเมือง โดยเฉพาะโคมผัดล้านนาที่ใหญ่ที่สุดในโลก สูงกว่า 7.25 เมตร เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสที่เมืองเชียงใหม่อายุครบ 725 ปี ปีนี้จัดระหว่างวันที่ 19-20 พฤศจิกายน สามารถลงทะเบียนผ่านทางแอปพลิเคชัน “ยี่เป็งเชียงใหม่ Yeepeng Chiang Mai”
ส่วนที่จังหวัดตากที่มีเอกลักษณ์กับ “งานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง ประจำปี 2564” จัดที่ริมแม่น้ำปิง ลานกระทงสาย เชิงสะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ระหว่าง 18-19 พฤศจิกายน 2564 ปีนี้เน้นการแสดงแสง สี เสียง แบบสื่อผสม โดยไม่มีการแข่งขันการลอยกระทงสา ย งานนี้ไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า แต่ต้องผ่านการคัดกรองและฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 2 เข็ม หรือมีผลตรวจ ATK ไม่น้อยกว่า 72 ชั่วโมง หรือเอกสารยืนยันจากสถานพยาบาลด้วย
ส่วนประตูสู่อีสาน จังหวัดนครราชสีมา จัดงาน 2 วันเช่นกันที่ Walking Street ถนนคนเดินเทศบาลตำบลหัวทะเล อ.เมืองนครราชสีมา โดยวันที่ 19 พ.ย จะมีพิธีเชิญพระประทีปพระราชทานสมเด็จพระนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ลอยเป็นปฐมฤกษ์ จากนั้นเป็นการแสดงนาฏศิลป์เทิดพระเกียรติ การประกวดต่าง ๆ ที่น่าสนใจคือการแสดงเวทีกลางน้ำผ่านม่านน้ำพุประกอบแสง สี เสียง
ตามด้วยงาน “บารายศรัทธา สมมาสายนํ้าปราสาท เมืองตํ่า น้อมนำบูชา” ณ ปราสาทเมืองตํ่า อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ เริ่มงานมาแล้วตั้งแต่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่เป็นการปฏิบัติธรรมสวดมนต์บูชาพระบริเวณหน้าปราสาท ส่วนวันที่ 18-19 พ.ย. จะมีการออกร้านสินค้าโอทอป พร้อมพิธีสมมาน้ำ ทักษิณาวัตรเพื่อขอขมาสายน้ำทั้ง 4 ทิศ
ใครไม่อยากเดินทางไกลแนะนำเทศกาล “ลอยกระทงเมืองพัทยา” วันที่ 19 พฤศจิกายน ณ ลานกิจกรรมชายหาดพัทยากลาง ซึ่งผู้จัดเชิญชวนแต่งกายย้อนยุคเที่ยวงานด้วย ภายในงานจะมีการแสดงมากมาย รวมทั้งคอนเสิร์ตจากศิลปิน ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.facebook.com/Prpattayacity/
โซนภาคกลางไปกันที่ วัดเขาพระศรีสรรเพชญาราม อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ที่งาน “ลอยกระทงสวรรค์ 12 นักษัตร วัดพระศรีสรรเพชญาราม” ระหว่าง 17-21 พ.ย. ร่วมปิดทอง กราบพระ พุทธไสยาสน์ และรอยพระพุทธบาทจำลองสมัยทวารวดี รำวงย้อนยุค พร้อมการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน และมหรสพต่างๆ
ใกล่กันคืองาน “ทีปะวารี ณ บ้านระจันวันเพ็ญ” สิงห์บุรี วันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 ณ ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน วัดโพธิ์เก้าต้น อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี ร่วมลอยกระทงท่ามกลางบรรยากาศย้อนยุคบ้านระจันยามค่ำคืน ชมความงามของวิถีชีวิตไทยโบราณ อิ่มอร่อยกับอาหารพื้นบ้าน พร้อมชมการแสดงมหรสพ และการแข่งขันเรือพื้นบ้าน
ส่วนที่สมุทรสงคราม มีงาน "ลอยกระทงกาบกล้วย เมืองแม่กลอง" จัดวันที่ 19 พฤศจิกายน ณ วัดภุมรินทร์กุฎีทอง มีการแสดงเรือไฟ ต่อด้วยลอยกระทงกาบกล้วยที่มีแห่งเดียวในประเทศไทย ที่สว่างไสวไปทั่วท้องน้ำแม่น้ำแม่กลอง
วันเดียวกันที่สมุทรปราการ จัดงานเทศกาลโคมไฟและอาหารนานาชาติ เมืองโบราณ ร่วมลอยกระทง ขอขมาพระแม่คงคา และกิจกรรมจุดผางประทีป เพื่อเป็นสิริมงคล และเพลิดเพลินไปกับร้านอาหารนานาชาติ
สำหรับ กรุงเทพมหานคร มีการจัดหลายๆ ที่ ทั้งงาน “เทศกาลลอยกระทง 2564 คลองโอ่งอ่าง” บริเวณ สะพานดำรงสถิต ถึงสวนลอยฟ้าเจ้าพระยา และแยกราชวงศ์ ถึงสะพานภาณุพันธุ์ รวมถึงที่ บริเวณสะพานพระราม 8 ภายในสวนหลวงพระราม 8 และงาน “สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย” ที่เชื่อม 8 ท่าน้ำสำคัญเข้าด้วยกัน รายละเอียดติดตามเพิ่มเติมในข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง