เด่นโซเชียล

ข่าวจริง ลดวันการรักษา "กลุ่มผู้ป่วยสีเขียว" เหลือ 10 วัน

ตามที่ได้มีการส่งต่อข่าวในประเด็นเรื่อง ลดวันการรักษา "กลุ่มผู้ป่วยสีเขียว" เหลือ 10 วัน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

ตามที่ได้มีการส่งต่อข่าวในประเด็นเรื่อง ลดวันการรักษา "กลุ่มผู้ป่วยสีเขียว" เหลือ 10 วัน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

 

 

อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า การปรับแนวทางการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 ฉบับล่าสุด ที่มีการระบุในการลดวันการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 เหลือ 10 วัน ว่า แพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านได้มีการเก็บข้อมูลศึกษาในกลุ่มผู้ป่วยโควิดโดยได้มีการตรวจหาเชื้อใน 3 ช่วงเวลา คือวันที่ 5 วันที่ 7 และวันที่ 10 และได้นำไปเพาะเชื้อ พบว่า หลังวันที่ 10 ไม่พบเชื้อ จึงได้ออกเป็นแนวทางการปรับลดระยะเวลาการรักษาในโรงพยาบาล

 

 

 

 

เบื้องต้นต้องเป็นคนที่ไม่มีอาการ ตั้งแต่ตรวจพบเชื้อรวม 10 วัน สามารถให้ออกจากโรงพยาบาลได้ โดยไม่ต้องกักตัวต่อที่บ้าน ถ้ามีอาการไม่มาก เช่น ตรวจพบเชื้อ 2-3 วันถึงมีอาการให้นับจากวันที่มีอาการ 10 วัน แต่ถ้ามีอาการยังคงต้องรักษาเหมือนเดิม เช่น กรณีที่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ หรือใช้ออกซิเจน ยังคงต้องรักษา 14 วันเหมือนเดิม เพราะส่วนใหญ่ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักจะมีอาการนาน

 

 

สำหรับจังหวัดที่มีปัญหาบริหารเตียง อาจให้อยู่ในโรงพยาบาล 5-7 วัน และกลับไปกักตัวต่อที่บ้านจนครบ 10 วัน ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะสามารถช่วยในการบริหารจัดการเตียง โดยเฉพาะจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดและต้องการใช้เตียงในการรักษาผู้ป่วยรายอื่นๆ ได้

 

ทั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องทำการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR หรือ Antigen Test Kit หรือการตรวจแอนติบอดี้ในผู้ป่วยที่ยืนยันแล้วว่า มีการติดเชื้อ และเมื่อจะกลับบ้านไม่ต้องตรวจซ้ำเช่นเดียวกัน อีกทั้งขอเน้นย้ำผู้ที่ออกจากโรงพยาบาลให้ปฏิบัติตามแนววิถีชีวิตใหม่ คือ การสวมหน้ากากอนามัยฯ การรักษาระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ภายใต้มาตรการสาธารณสุข

 

 

โดยสามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ ซึ่งผู้ป่วยที่เพิ่งหายจากโควิดในระยะไม่เกิน 3 เดือน มีโอกาสติดเชื้อซ้ำน้อยมาก การตรวจหาเชื้อทั้งวิธี RT-PCR หรือ Antigen Test Kit หรือการตรวจแอนติบอดี้จึงมีประโยชน์น้อย แต่หากมีประวัติการสัมผัสโรคและมีอาการเข้าข่ายเกณฑ์ ให้พิจารณาการตรวจเชื้อเป็นรายบุคคล

 

และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ สามารถติดตามได้ที่ www.dms.go.th หรือโทร 02 5906000

ข่าวยอดนิยม