ข่าวดี "เมอร์ค" ไฟเขียว บริษัทยาทั่วโลก ผลิต "โมลนูพิราเวียร์" ได้

บริษัท "เมอร์ค" และ "ริดจ์แบ็ค" อนุญาตให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกผลิต ยาต้านไวรัสโควิด-19 "โมลนูพิราเวียร์" ใช้เองได้

องค์การสิทธิบัตรยา (MPP) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้องค์การสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยว่าได้บรรลุข้อตกลงด้านสิทธิบัตรยากับบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค และบริษัทริดจ์แบ็ค ไบโอเทราพิวติกส์ ซึ่งทั้งสองบริษัทจะอนุญาตให้ประเทศต่างๆทั่วโลกผลิตยา "โมลนูพิราเวียร์" เองได้ เพื่อให้ประเทศยากจนสามารถเข้าถึงยาได้ง่าย ซึ่งข้อตกลงนี้จะทำให้ MPP สามารถให้สิทธิบัตรการผลิตยาโมลนูพิราเวียร์แก่บริษัทที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และได้รับการอนุมัติให้ผลิตยาดังกล่าว

และบริษัท "เมอร์ค" และบริษัท "ริดจ์แบ็ค" จะไม่เรียกเก็บค่ารอยัลตีจากบริษัทที่ผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ ถ้าองค์การอนามัยโลก ยังได้มีความเห็นว่าโรคโควิด-19 ยังคงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้ เมอร์คได้มอบสิทธิบัตรการผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ให้แก่บริษัทยาของอินเดียจำนวน 7 แห่ง

ผลจากการประกาศครั้งนี้ทำให้ เวลา 20.54 น. ราคาหุ้นเมอร์คร่วงลง 1.07% สู่ระดับ 81.37 ดอลลาร์ ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ซึ่งจะทำให้บริษัทสูญเสียรายได้จำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มีการคาดการณ์ว่ายอดขายยาโมลนูพิราเวียร์ทั่วโลกจะสร้างรายได้มหาศาลให้แก่เมอร์ค ขณะที่รัฐบาลสหรัฐได้สั่งซื้อยาโมลนูพิราเวียร์จำนวน 1.7 ล้านคอร์ส คิดเป็นวงเงิน 1,200 ล้านดอลลาร์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การผลิตยาโมลนูพิราเวียร์โดยโรงงานของบริษัทผู้ผลิตยาในประเทศกำลังพัฒนาที่ได้รับใบอนุญาตการผลิต จะช่วยทำให้ราคายาโมลนูพิราเวียร์ (ซึ่งการรักษา 1 คอร์สต้องใช้ยาประมาณ 5 วัน) ปรับลดลงมาอยู่ที่ประมาณคอร์สละ 20 ดอลลาร์ (ประมาณ 664 บาท/คอร์ส) ซึ่งลดลงมากเมื่อเทียบกับราคาที่รัฐบาลสหรัฐซื้อยาดังกล่าวจากบริษัทเมอร์คในราคาคอร์สละ 712 ดอลลาร์ (กว่า 23,000 บาท/คอร์ส) 

ทั้งนี้ ยา 1 คอร์สประกอบด้วยยาโมลนูพิราเวียร์ขนาด 200 มิลลิกรัม จำนวน 40 เม็ดสำหรับผู้ป่วย 1 คน โดยผู้ป่วยจะรับประทานยาวันละ 2 ครั้งๆละ 4 เม็ด เป็นเวลา 5 วัน