เด่นโซเชียล

ข่าวจริง "เยียวยาเกษตรกร" ประสบภัยน้ำท่วม ปี 64 เช็คเลย หลักเกณฑ์-เงื่อนไข

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ข่าวจริง ช่วยเหลือ "เยียวยาเกษตรกร" ที่ได้รับความเสียหายจาก อุทกภัย ปี 2564 เช็คเลยที่นี่ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขผู้ได้รับสิทธิ

วันที่ 26 ตุลาคม 2564 ตามกรณีที่มีการนำเสนอข่าวเรื่อง หลักเกณฑ์ช่วยเหลือ "เยียวยาเกษตรกร" ที่ได้รับความเสียหายจาก "อุทกภัย ปี 2564" ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง 

 

 

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ในฐานะโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำหนดหลักเกณฑ์การช่วยเหลือ "เยียวยาเกษตรกร" โดยยึดตาม "หลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือ ด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564" ซึ่งเป็นไปตาม ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน

 

โดยการช่วยเหลือเกษตรกรนั้น จะดำเนินการช่วยเหลือแก่ "เกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติ" ที่ขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนกับหน่วยงานที่กำกับดูแลแต่ละด้านของ "กระทรวงเกษตรและสหกรณ์" ก่อนเกิดภัยพิบัติแล้วเท่านั้น 

 

ทั้งนี้เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความถูกต้อง โปร่งใส และเป็นธรรม และตรวจสอบได้ โดยที่ผ่านมา "กระทรวงเกษตรและสหกรณ์" ได้มีการแจ้งให้เกษตรกรทั้งด้านพืชปศุสัตว์ ประมง ขึ้นทะเบียนหรือปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบัน ตามกรอบระยะเวลาการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร เพื่อสิทธิประโยชน์เกษตรกร และยืนยันสถานภาพ ในการรับการช่วยเหลือเยียวยา รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐบาล 

 

 

สำหรับหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขการช่วยเหลือ "เยียวยาเกษตรกร" มีดังนี้ 

 

ด้าน พืช (ไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่) ได้แก่ 

 

  • ข้าว ไร่ละ 1,340 บาท 
  • พืชไร่และพืชผัก ไร่ละ 1,980 บาท 
  • ไม้ผล ไม้ยืนต้น และอื่น ๆ ไร่ละ 4,048 บาท 

 

ด้าน ประมง (สัตว์น้ำ) ได้แก่ 

 

  • ปลาทุกชนิด/สัตว์น้ำอื่น ไร่ละ 4,682 บาท ไม่เกินรายละ 5 ไร่ 
  • กุ้ง/หอยทะเล ไร่ละ11,780 บาท ไม่เกินรายละ 5 ไร่ 
  • และกระชัง/บ่อซีเมนต์ ตรม. ละ 368 บาท ไม่เกินรายละ 80 ตรม. 

 

ด้าน ปศุสัตว์ ได้แก่ 

 

  • โค ตัวละ 13,000 - 35,000 บาท (ไม่เกินรายละ 5 ตัว) 
  • กระบือ ตัวละ 15,000 - 39,000 บาท (ไม่เกินรายละ 5 ตัว) 
  • สุกร ตัวละ 1,500 - 3,000 บาท (ไม่เกินรายละ 10 ตัว) 
  • แพะ/แกะ ตัวละ 1,500 - 3,000 บาท (ไม่เกินรายละ 10 ตัว) 
  • ไก่พื้นเมือง/ไก่งวง ตัวละ 30 - 80 บาท (ไม่เกินรายละ 300 ตัว) 
  • ไก่ไข่/เป็ดไข่ ตัวละ 30 - 100 บาท (รายละไม่เกิน 1,000 ตัว) 
  • ไก่เนื้อ ตัวละ 20 - 50 บาท (ไม่เกินรายละ 1,000 ตัว) 
  • เป็ดเนื้อ/เป็นเทศ ตัวละ 30 - 80 บาท (ไม่เกินรายละ 1,000 ตัว) 
  • นกกระทา ตัวละ 10 - 30 บาท (ไม่เกินรายละ 1,000 ตัว) 
  • นกกระจอกเทศ ตัวละ 2,000 บาท (ไม่เกินรายละ 10 ตัว) 
  • ห่าน ตัวละ 100 บาท (ไม่เกินรายละ 300 ตัว) 

 

ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายทุกหน่วยงานในพื้นที่ ติดตามสถานการณ์ และหลังจากที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว จะได้มีการลงพื้นที่สำรวจต่อเนื่อง ให้คำแนะนำ "เกษตรกร" ทั้งการวางแผนการเพาะปลูกให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ สนับสนุนพันธุ์ไม้ผล ไม้ยืนต้น เมล็ดพันธุ์ผัก สารชีวภัณฑ์ เป็นต้น 

 

และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจาก สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.moac.go.th หรือโทร 02-2815955 

 

ข่าวจริง "เยียวยาเกษตรกร" ประสบภัยน้ำท่วม ปี 64 เช็คเลย หลักเกณฑ์-เงื่อนไข

 

 

 

logoline