เด่นโซเชียล

"ฟูมิโอะ คิชิดะ" นายกฯ ญี่ปุ่น สั่งยุบสภา หลังจากรับตำแหน่ง 11 วัน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ฟูมิโอะ คิชิดะ" นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศ ยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจัดการเลือกตั้งทั่วไป ในวันที่ 31 ตุลาคม หลังจากดำรงตำแหน่ง นายกฯ เพียง 11 วัน

"ฟูมิโอะ คิชิดะ" นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศ ยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจัดการเลือกตั้งทั่วไป ในวันที่ 31 ตุลาคม หลังจากดำรงตำแหน่ง นายกฯ เพียง 11 วัน

 

หลังจาก นาย "ฟูมิโอะ คิชิดะ" อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่นได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ในวันนี้  ญี่ปุ่นได้ยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจัดการเลือกตั้งทั่วไป โดยประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ประกาศในช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคมว่าจะจัดการเลือกตั้งทั่วประเทศ

 

หลังจากนั้นในวันเดียวกัน คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ตัดสินใจที่จะจัดการเลือกตั้งและนับคะแนนเสียงในวันที่ 31 ตุลาคม การหาเสียงจะเริ่มอย่างเป็นทางการในวันอังคารที่ 19 ตุลาคม

 

 

นี่จะเป็นครั้งแรกที่มีการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรในรอบ 4 ปี ประเด็นสำคัญที่สุดน่าจะเป็นเรื่องการรับมือการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และเรื่องที่ว่าจะฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างไร

 

 

นาย "ฟูมิโอะ คิชิดะ" นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้รับการรับรองให้เป็นผู้นำญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ระยะเวลานับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีคนนี้เข้ารับตำแหน่งและยุบสภาผู้แทนราษฎรนั้นถือเป็นช่วงที่สั้นที่สุดในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และการเลือกตั้งจะเป็นการชิงชัยกันในระยะเวลาสั้น ๆ ช่วงเวลานับตั้งแต่ยุบสภาไปจนถึงวันเลือกตั้งจะเป็นช่วงที่สั้นที่สุดเช่นกันในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

 

 

ประวัติ นาย ฟูมิโอะ คิชิดะ 

 

นาย "ฟูมิโอะ คิชิดะ" อดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ วัย 64 ปี เคยลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค LDP และนายกรัฐมนตรีในเดือน ก.ย. 2563 หลังจากที่นายชินโซ อาเบะ ลาออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ แต่ครั้งนั้น นายคิชิดะไม่สามารถเอาชนะนายซูกะ ซึ่งเป็นหัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและโฆษกรัฐบาลของนายอาเบะในเวลานั้น

 

บรรดานักวิเคราะห์มองว่า การที่นายคิชิดะพลาดตำแหน่งในครั้งนั้น เพราะถูกวิจารณ์ว่าตอบสนองต่อสถานการณ์โควิด-19 ได้ไม่ดีพอแม้ว่านั่งอยู่ในตำแหน่งประธานสภาวิจัยนโยบายของพรรค LDP นอกจากนี้ นายคิชิดะยังขาดเสน่ห์ทางการเมือง และไม่ค่อยทำตัวเป็นข่าวมากนัก 

 

อย่างไรก็ดี นายคิชิดะ เริ่มพัฒนาการมีปฏิสัมพันธ์ด้วยการพบปะพูดคุยกับประชาชนมากขึ้นทั้งในเวทีสาธารณะ และทางโซเชียลมีเดีย เพื่อพยายามลบภาพที่เคยถูกสื่อมวลชนมองว่า เป็นทางเลือกที่ไม่น่าสนใจในฐานะนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

 

กระทั่งในวันที่ 26 ส.ค. 2564 นายคิชิดะได้ประกาศลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค LDP อีกครั้ง การลงชิงตำแหน่งในครั้งนี้ นายคิชิดะ ชูนโยบายการลดความไม่เท่าเทียมกันในด้านความร่ำรวย ด้วยการเพิ่มรายได้ให้กับชนชั้นกลาง และให้คำมั่นสัญญาว่าจะสนับสนุนกลุ่มประชาชนที่มีความเปราะบางต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ เช่น พนักงานชั่วคราว และครอบครัวที่มีเด็กเล็ก

 

นายคิชิดะกล่าวว่า หากเขาได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรค LDP เขาจะจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของพรรคไม่เกิน 3 ปี ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับบรรดานักการเมืองรุ่นเก่า รวมถึงนายโทชิฮิโร่ะ นิไก ซึ่งดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค LDP มาเป็นเวลานาน

 

ในสมัยของรัฐบาลนายอาเบะนั้น นายคิชิดะเป็นประธานสภาวิจัยด้านนโยบายเป็นเวลานานถึง 3 ปี หลังจากที่เคยทำหน้าที่รัฐมนตรีต่างประเทศเป็นเวลา 4 ปีและ 8 เดือน

 

เมื่อครั้งที่นายคิชิดะเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ เขามีส่วนช่วยให้นายบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐเดินทางเยือนเมืองฮิโรชิมาเมื่อปี 2559 ซึ่งนับเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่เดินทางไปยังเมืองดังกล่าวที่ถูกทิ้งระเบิดปรมาณูในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 

 

นายคิชิดะยังมีส่วนช่วยให้ญี่ปุ่นสามารถบรรลุข้อตกลงกับเกาหลีใต้ในปี 2558 เพื่อคลี่คลายประเด็นหญิงที่ถูกบังคับให้เป็นนางบำเรอในช่วงสงครามโลก

 

 

สำหรับชีวิตส่วนตัว นายคิชิดะพักอาศัยอยู่กับภรรยาและบุตรชาย 2 คนในกรุงโตเกียว โดยเขาช่วยครอบครัวทำงานบ้านด้วยการล้างจานและทำความสะอาดห้องน้ำในบ้านด้วยตนเอง นอกจากนี้ นายคิชิดะยังได้ชื่อว่าเป็นนักดื่ม และเป็นแฟนตัวยงของทีมบาสเก็ตบอล Hiroshima Carp อีกด้วย 

 

 

ก็คงต้องรอดูกันต่อไปว่าการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ นาย "ฟูมิโอะ คิชิดะ" จะได้รับคะแนนเสียงจนกลับขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกหรือไม่ 

 

 

"ฟูมิโอะ คิชิดะ" นายกฯ ญี่ปุ่น สั่งยุบสภา หลังจากรับตำแหน่ง 11 วัน

 

 

ที่มา NHK 

logoline