เด่นโซเชียล

รัฐอัดงบหนุน "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" รองรับเปิดลงทะเบียนรอบใหม่

22 ก.ย. 2564

รัฐบาลอนุมัติงบประมาณกลางหนุน "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" หลายพันล้าน เตรียมพร้อมรองรับเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ เล็งปรับเกณฑ์ให้เหมาะสมมากขึ้น

ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยนายธนากร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบอนุมัติงบประมาณกลาง  วงเงิน 1,642 ล้านบาท ดำเนินโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (รอบใหม่) เพื่อรองรับกระบวนการลงทะเบียนรอบใหม่ โดยจะเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการรับลงทะเบียนของหน่วยรับลงทะเบียน และค่าใช้จ่ายในการผลิตและบริหารจัดการบัตรฯ

และวงเงิน 4,530.66 ล้านบาท สำหรับจัดสรรสวัสดิการแบบไม่มีกำหนดระยะเวลาสำหรับผู้มีรายได้น้อย ภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (รอบใหม่) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีบัตรฯ และเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาจทำให้ผู้สมัครรอบใหม่มีจำนวนเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตามขณะนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) อยู่ระหว่างวางหลักเกณฑ์ เปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ เพื่อเตรียมเสนอคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมพิจารณาก่อน โดยจะเปิดให้ผู้ที่ไม่เคยได้รับสิทธิเข้ามาลงทะเบียน ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มตกหล่นจากมาตรการของรัฐที่ผ่านมาที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เช่น กรณีไม่มีสมาร์ทโฟน สามารถเข้าร่วมได้อีกกว่า  2 ล้านราย ขณะเดียวกัน ผู้ที่ได้รับสิทธิเดิมมีจำนวน 13.65 ล้านราย จะต้องมาลงทะเบียนใหม่ เพราะกระทรวงการคลังจะมีการปรับเงื่อนไขผู้ได้รับสิทธิ ให้มีความเหมาะสมมากขึ้น ซึ่งเกณฑ์การลงทะเบียนรอบใหม่นี้ จะช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยอย่างแท้จริง

สำหรับรายละเอียดการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีดังนี้ 

  • มีสัญชาติไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป
  • ว่างงานหรือมีรายได้ส่วนตัวไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
  • ไม่มีทรัพย์สินทางการเงิน (เงินฝากธนาคาร, สลากออมสิน, สลาก ธ.ก.ส., พันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้) หรือถ้ามีทรัพย์สินดังกล่าวจะต้องมีรวมกันไม่เกิน 100,000 บาท
  • รายได้ต่อครัวเรือนเป็นตัวประกอบการพิจารณา
  • ถ้ามีรถยนต์จะถูกนำมาพิจารณา แต่ถ้ามี 2-3 คัน จะไม่ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ถ้ามีการถือบัตรเครดิตก็จะถูกนำมาพิจารณาเช่นกัน

 

ขั้นตอนการลงทะเบียน

ขั้นตอนที่ 1 ไปธนาคารที่สะดวก (ธ.ก.ส., ออมสิน, กรุงไทย)
ขั้นตอนที่ 2 แสดงบัตรประชาชน
ขั้นตอนที่ 3 กรอกแบบฟอร์มแจ้งข้อมูลส่วนตัว รายได้ ทรัพย์สิน และหนี้สินของตน
ขั้นตอนที่ 4 เก็บหลักฐานไว้เพื่อยืนยันการลงทะเบียน