"กรมอนามัย" ตั้งเป้า "ฉีดวัคซีนโควิด" ให้หญิงตั้งครรภ์ต้องครบ 1 แสนราย ภายในตุลาคมนี้ หลังพบคนท้องได้รับวัคซีนโควิดน้อยมาก
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ว่า ขณะนี้จำนวนหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับวัคซีนในประเทศไทย ยังถือว่ามีน้อยมาก เนื่องจากหญิงตั้งครรภ์มีความกังวลใจ และไม่มั่นใจในประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน ดังนั้น จึงต้องเร่งรณรงค์ให้เกิดความตระหนัก เพราะหญิงตั้งครรภ์ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อลดความรุนแรงของโรคและการเสียชีวิต โดยกรมอนามัยได้มีการกำหนดแนวทางและเป้าหมายสำหรับการฉีดวัคซีนในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ จะต้องสามารถเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ได้ 1 แสนราย ภายใน 1 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึง 13 ตุลาคม 2564 นี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "รพ.ภูมิพล" เชิญหญิงตั้งครรภ์ และเด็ก ฉีด "วัคซีนไฟเซอร์"เข็ม 1
- น่าห่วง "หญิงตั้งครรภ์" ตาย-ติดเชื้อ"โควิด" พุ่ง มากกว่าคนปกติเกือบ 3 เท่า
- เช็กจุดจองฉีด "วัคซีน Pfizer" หญิงตั้งครรภ์ และ เด็กกลุ่มเสี่ยง 12-18 ปี
- หมอสูติ วอน แม่ตั้งครรภ์ อย่าเสียสละวัคซีน "mRna" เพื่อหมอ หลังพบ อัตราการตายสูงทั้งแม่-ลูก
- "หญิงตั้งครรภ์ฉีดวัคซีน" เพียง 3 % เร่งเชิญชวนฉีด"วัคซีน โควิด-19" ด่วน
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย มีการเปิดเผยข้อมูล เกี่ยวกับการติดเชื้อโควิด-9 ในหญิงตั้งครรภ์ไว้ ว่า โควิด-19 เป็นโรคที่ทำให้หลอดเลือดชำรุดเสียหาย ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นภาวะความดันโลหิตสูง เลือดออกง่ายกว่าปกติ หลอดเลือดอุดตันที่ปอดมากกว่าปกติ รกลอกก่อนกำหนด จึงเป็นสาเหตุของการ แท้งการคลอดก่อนกำหนด เด็กน้ำหนักน้อยกว่ากำหนด รวมถึงทำให้แม่เสียชีวิตได้ง่ายกว่าปกติ
สำหรับการฉีดวัคซีนในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์นั้น ควรฉีดเมื่ออายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป เพราะใน 12 สัปดาห์หรือ 3 เดือนแรกเป็นช่วงที่ร่างกายเด็กกำลังสร้างอวัยวะ ทุกอย่างเช่น ระบบสมอง ประสาท กล้ามเนื้อ ระบบต่อมไร้ท่อ ต้องไม่มียาหรือวัคซีนใดๆ เข้ามาแทรกซ้อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง