เลิกสั่ง "ซิโนแวค" มาแน่ "วัคซีนสูตรไขว้" แอสตร้า - ไฟเซอร์ ตุลาคมนี้

กรมควบคุมโรค เผยข่าวดี คนที่ฉีดแอสตร้าเซนเนก้า แล้วเข็มแรก จะเริ่มทะยอยฉีดเข็มสอง เป็นวัคซีนไฟเซอร์ ในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเริ่มมีการฉีดไปบ้างแล้ว ในรพ.ที่เมื่อวัคซีนไฟเซอร์เหลือจากการฉีดบุคลากรด่านหน้า พร้อมเดินหน้าฉีดบูสเตอร์โดส เข็ม 3 ให้กลุ่มที่รับซิโนแวคแล้ว 2 เข็ม เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

นายแพทย์โสภณ เอี่ยมถาวรศิริ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวในการแถลงข่าว ของกระทรวงสาธารณสุข ประเด็นความคืบหน้าเรื่องการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ ว่า สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทยที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่าน มาจนถึงวันที่ 2 กันยายน ขณะนี้มียอดผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดทั้งประเทศจำนวน 34,292,537 โดส ประชาชนที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกไปแล้วมีจำนวนกว่า 24, 542,140 รายคิดเป็น34.1% ได้รับวัคซีนครบสองเข็มมีจำนวน 9,152,799 รายหรือคิดเป็น 12.7%

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไฟเขียว "ไฟเซอร์"ขึ้นทะเบียน"วัคซีน"เต็มรูปแบบ หลังFDA ประกาศ Full Approval

อย่าหลงเชื่อ SMS เรียกเก็บเงินฉีด"ไฟเซอร์" หลอกลงทะเบียนเป็น "Fake News"

เซ็นแล้ว คร.เซ็นซื้อวัคซีน"ไฟเซอร์ "เพิ่ม 10 ล้านโดส ทยอยส่ง ไตรมาส 4นี้

ทั้งนี้จากการประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีโรคติดเชื้อ โควิด-19 หรือ ศปก.สธ. เมื่อช่องเช้าที่ผ่านมาที่ประชุมมีมติให้อนุมัติสูตรการฉีดวัคซีน โควิด-19 ของประเทศไทยโดยอาศัยคำแนะนำจากคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค โดยอาศัยข้อมูลทางวิชาการใหม่ ๆ ทั้งข้อมูลการศึกษาวิจัยในต่างประเทศ และการศึกษาวิจัยในประเทศไทย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวมีรายละเอียดที่น่าสนใจ เช่นในขณะนี้การฉีดวัคซีนหลักในประเทศไทยเป็นการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ที่เริ่มต้นด้วยซิโนแวค เข็มแรกและตามด้วยแเอสตร้าเซนเนก้าในเข็มที่สอง โดยห่างกัน 3 - 4 สัปดาห์ ซึ่งใช้ในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปในทุกกลุ่ม และอีกสูตรคือการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ ที่เป็นวัคซีนแอตร้าเซนเนก้าเข็มที่หนึ่ง ตามด้วยวัคซีนไฟเซอร์ เข็มที่สองที่มีระยะห่างกัน 4 - 12 สัปดาห์ โดยจะมีกลุ่มเป้าหมายคือผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทุกกลุ่ม 

ซึ่งสูตรนี้จะมีการใช้อย่างแพร่หลายในเดือนหน้าตุลาคมนี้ ซึ่งจะเป็นช่วงที่วัคซีนไฟเซอร์มีกำหนดส่งมอบในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้โดยสูตรแอสตร้าเซนเนก้า บวกกับไฟเซอร์ ในปัจจุบันมีการใช้อยู่บ้าง เนื่องจากยังพอมีไฟเซอร์เหลืออยู่จำนวนหนึ่ง หลังจากที่มีการฉีดบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าไปแล้วโรงพยาบาลก็จะนำวัคซีนไฟเซอร์ ที่เหลืออยู่ซึ่งเหลืออยู่จำนวนไม่มาก นำมาใช้ฉีดให้แก่ประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง หรือกลุ่ม 608 ผู้สูงอายุหญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ซึ่งจะเป็นกลุ่มที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มแรก เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาซึ่งขณะนี้ก็ครบกำหนดที่จะได้รับวัคซีนเข็มสอง แล้วดังนั้นโรงพยาบาลที่มีวัคซีนไฟเซอร์เหลืออยู่สามารถที่จะใช้วัคซีนไฟเซอร์ในการฉีดเข็มสองให้แก่กลุ่มเสียงเหล่านี้ได้แทนแอสตร้าเซนเนก้าได้ 

ส่วนอีกหนึ่งกรณีคือบุคคลที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค แล้วสองเข็มซึ่งในระยะนี้จะเน้นที่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าจะได้รับการฉีดกระตุ้นด้วยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มที่สาม ส่วนกรณีการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในผู้ที่เคยติดเชื้อหรือหายป่วย โควิด-19   หากยังไม่ได้รับวัคซีน  หรือรับวัคซีนยังไม่ครบ และได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว แต่เข็ม 2 ยังไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อนการติดเชื้อ สามารถรับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า หรือไฟเซอร์ หลังจากตรวจพบเชื้อ หรือหายป่วยแล้ว 1-3 เดือน

รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนของไทย ตั้งแต่เดือนกันยายน – ธันวาคม จะมีวัคซีนเข้ามาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง แบ่งเป็น ซิโนแวค 12 ล้านโดส ระหว่างเดือนกันยายน – ตุลาคม เดือนละ 6 ล้านโดส แอสตร้าเซนเนก้า เดือนกันยายนตอนแรกจะเข้ามาอย่างน้อย 7 ล้านโดส ซึ่งอาจเพิ่มจำนวนเป็น 8 ล้านโดส เดือนตุลาคม 10 ล้านคน เดือนพฤศจิกายน  และธันวาคม เดือนละ 10 ล้านโดส  และวัคซีนไฟเซอร์เดือนกันยายน 2 ล้านโดส เดือนตุลาคม 8 ล้านโดส เดือนพฤศจิกายน และธันวาคมเดือนละ 10 ล้านโดส 

โดยหลังจากนี้จะไม่มีการสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคเข้ามาเพิ่มเติมอีก เพื่อให้สอดคล้องกับสูตรฉีดวัคซีนเข็ม 1 แอสตร้าเซนเนก้า เข็ม 2 ไฟเซอร์ และรอวัคซีนรุ่นใหม่ที่สามารถต้านเชื้อกลายพันธุ์ เป็นวัคซีนเชื้อตาย ปลอดภัยสูง แต่หากมีผลวิจัยว่า ฉีดในเด็กได้ ก็จะนำมาพิจารณาสั่งซื้อ