สบส. จับมือภาคีเครือข่าย ผลักดันแรงงานต่างด้าว ในเขตราษฎร์บูรณะ เป็นอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว ดูแลเพื่อนร่วมชาติ
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมภาคีเครือข่ายผลักดันแรงงานต่างด้าว เขตราษฎร์บูรณะ เป็นอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.) สร้างทักษะในการส่งเสริมและป้องกันปัญหาสุขภาพให้เพื่อนร่วมชาติเกิดเป็นชุมชนต่างด้าวที่สามารถดูแลสุขภาพตนเองได้และต้านภัยโควิด-19
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดเผยว่า การระบาดของ โควิด-19 ที่มีการแพร่กระจายไปในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่โรงงาน ที่มีแรงงานอยู่กันอย่างหนาแน่นจากทั้งไทย และต่างด้าว ซึ่งมีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดติดต่อของโรคโควิด-19 ในแรงงาน และปัญหาที่มักจะเกิดในกลุ่มแรงงานต่างด้าว คือ เรื่องของการสื่อสาร การขาดความรู้ความเข้าใจในการป้องกันตนเอง รวมถึงการขาดความรู้ ความเข้าใจในระบบการพักรักษาตัวแบบกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) หรือกักตัวในชุมชน (Community Isolation)
ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาข้างต้น และปิดช่องว่างในเรื่องของการสื่อสารการผลักดันแรงงานต่างด้าวให้เป็น อาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว หรือ อสต.รวมถึงการพัฒนาศักยภาพของ อสต.ที่มีอยู่เดิม ซึ่งมีบทบาทในการแก้ข่าวร้าย กระจายข่าวดี ชี้บริการ ประสานงานสาธารณสุข จึงถือว่าเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้กลยุทธ์การแยกกักตัวที่บ้าน ในกลุ่มแรงงานต่างด้าวประสบผลสำเร็จ สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ได้
อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวด้วยว่า เขตราษฎร์บูรณะเป็นเขตที่มีจำนวนโรงงาน และสถานประกอบการอยู่ในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ทำให้มีแรงงานต่างด้าวจำนวนมากเข้ามาทำงาน และเกิดการติดเชื้อโรคโควิด-19 ในพื้นที่นี้ บางส่วนได้เข้าระบบกักตัวในชุมชน จนขณะนี้ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการหายดี และบางส่วนก็ได้กลับมาทำงานตามปกติแล้ว และด้วยแนวคิดที่ต้องการดูแลสุขภาพของคนงาน ให้มีความรู้ความเข้าใจในระดับที่สามารถบอกต่อ และดูแลตนเองได้ จึงอยากให้มีการพัฒนาศักยภาพของแรงงานขึ้น
สบส.จึงร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ศูนย์สุขภาพจิตที่ 13 กรมสุขภาพจิต มูลนิธิศุภนิมิต แห่งประเทศไทย และองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย จัดอบรมพัฒนาศักยภาพ อสต. ให้กับโรงงานสิ่งทอในพื้นที่ โดยเน้นไปที่การฝึกปฏิบัติให้ อสต.สามารถนำไปใช้ในการทำงานได้จริง ตลอดจนเน้นในเรื่องของการส่งเสริม และป้องกันปัญหาสุขภาพ ให้สามารถดูแลตนเอง และเพื่อนร่วมชาติได้ทั้งในยามภาวะปกติและภาวะวิกฤติ
ซึ่งภายหลังการอบรม อสต.หน้าใหม่ก็ได้มีการลงพื้นที่ปฏิบัติงานจริง ในชุมชนโดยรอบโรงงาน เพื่อสื่อสารความรู้ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องร่วมกัน สร้างเป็นชุมชนต่างด้าวที่สามารถดูแลตนเองได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง