วันที่ 25 สิงหาคม 2564 "ทนายเกิดผล" แก้วเกิด โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก "ทนายเกิดผล แก้วเกิด" ถึงประเด็นฉาว "ผู้กำกับโจ้" พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล และลูกน้อง ที่ก่อเหตุใช้ถุงคลุมหัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดเรียกเงิน 2 ล้าน จนทำให้ผู้ต้องหาเสียชีวิต
- "ทนายตั้ม" เปิดใจ หลังถูกถามกลัวไหมที่ออกมาแฉคลิป ผู้กำกับโจ้
- แห่แซว "ทนายเดชา" เสียทรง หลังปะทะ ทนายตั้ม ในรายการดัง ประเด็นฉาว ผู้กำกับโจ้
- ทนายตั้ม เผยโพสต์เด็ด เจ้าหน้าที่ รพ. แฉสภาพผู้ต้องหา คดี "ผู้กำกับโจ้"
ก่อนหน้านี้มีประเด็นที่ถูกพูดถึงกรณีที่ "ทนายตั้ม" ษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้เปิดมาแฉว่าก่อนหน้าที่คลิปจะถึงมือตนนั้น มีบุคคลปริศนาได้รับคลิปไปก่อน แต่กลับนำไปเรียกขอผลประโยชน์กับ "ผู้กำกับโจ้" และไม่ได้เอาไปเปิดเผยต่อสาธารณะ ซึ่งเรื่องนี้ก็เกิดการตั้งคำถามจากสังคมกันอย่างมากมายว่าบุคคลนี้คือใคร
ซึ่งเรื่องนี้ "ทนายเกิดผล" ได้ระบุว่า "ถ้าผมได้รับคลิป ผกก.คลุมถุงดำมา 1 อาทิตย์ก่อน แต่ไม่ยอมเปิดเผยต่อสังคม ตามเจตนาของตำรวจชั้นผู้น้อย และไม่ยอมส่งมอบพยานหลักฐานให้ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ผมเป็นทนายที่แย่แค่ไหน หรือยิ่งไปกว่านั้น ถ้าผมเอาคลิปนี้ไปต่อรอง ผกก. เพื่อเรียกรับผลประโยชน์ ผมจะเป็นทนายที่เลวแค่ไหน?"
นอกจากนี้ "ทนายเกิดผล" ยังได้เปิดใจเล่าถึงประสบการณ์ครั้งที่เคยถูกจับคลุมถุงดำกับ ผู้ประกาศ อาร์ท เอกรัฐ ตะเคียนนุช ผ่านไลฟ์สดเฟซบุ๊ก Eakarat Takiannuch โดย ทนายเกิดผล เล่าว่า ในอดีตในพื้นที่ สน.แห่งหนึ่งเมื่อครั้งอายุ 15 ปี หลังเข้ามาใช้ชีวิตที่ กทม. และได้ทำงานในโรงงานแห่งหนึ่ง กระทั่งวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ลักทรัพย์โดยพนักงานของโรงงานแห่งนี้ จนนำไปสู่การแจ้งความและตำรวจคุมตัวตนไปสอบสวนที่โรงพัก
ทนายเกิดผล เล่าต่อว่า ตนถูกเจ้าหน้าที่ใช้ถุงดำคลุมศีรษะเป็นห้วง ๆ พร้อมใช้ท่อพลาสติกตีเข้าที่หน้าท้อง ซึ่งเมื่อตนเริ่มหายใจไม่ออก เจ้าหน้าที่จะเอาถุงออกและบอกให้รับสารภาพ
ขณะที่ผู้ต้องหาตัวจริงที่นั่งอยู่ด้านข้างก็ถูกใช้วิธีการเดียวกัน เหตุการณ์ในวันนั้นใช้เวลาประมาณ 20 นาที จนกระทั่งผู้ต้องหาตัวจริงเปิดปากรับสารภาพและซัดทอดไปยังผู้ร่วมก่อเหตุลักทรัพย์ เจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัวตนกลับมา
แต่ด้วยความบอบช้ำทางจิตใจ ตนไม่หวนกลับไปยังพื้นที่นั้นอีกเลย ซึ่งเหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นทนายความในที่สุด และเหตุการณ์วันนั้นยังคงจำติดตา และเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานกับความเลวร้ายในครั้งนั้น
ที่มา FB ทนายเกิดผล แก้วเกิด , Eakarat Takiannuch
ข่าวที่เกี่ยวข้อง