หมอ-พยาบาลป่วย กว่า 3,900 ราย ส.ธ.ยัน ซิโนแวค 2 เข็มประสิทธิผลดี ไม่ต่ำกว่า 70%

นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวถึงประสิทธิผลของวัคซีนโควิดที่ใช้ในประเทศไทย ว่า ขณะนี้วัคซีนที่ใช้ในประเทศไทย ที่เป็นวัคซีนหลักอย่าง ซิโนแวค ที่ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์ และวัคซีนแอสตราเซเนกา ที่จะต้องฉีดห่างกัน 8-12 สัปดาห์ ที่ผ่านมาการดูประสิทธิภาพของวัคซีน จะเป็นการดูประสิทธิภาพการทดลองทางคลีนิคจากประเทศอื่น ๆ ซึ่งจะมีลักษณะการระบาด และสายพันธุ์ที่แตกต่างจากประเทศไทย

สำหรับความก้าวหน้าจากการใช้วัคซีนในประเทศไทย และการศึกษาประสิทธิผลที่ใช้จริงในประเทศไทย พบว่าการศึกษาประสิทธิผล ในปี 2564  ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงในการระบาดและสายพันธุ์ในประเทศไทย ที่จากเดิมในปี 2563 เป็นสายพันธุ์ดั้งเดิม ที่การระบาดจะเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิม และในช่วงปลายปีมาจนถึง ปี 2564 เป็นการระบาดในสายพันธุ์อังกฤษที่มีการระบาดไปทั่วโลก จนมาถึง เดือนพ.คเป็นต้นมา เริ่มมีการระบาดของสายพันธุ์อินเดีย หรือเดลตา 

ด้วยเหตุนี้กรมควบคุมโรคโดยคณะทำงานการประเมินประสิทธิผลของการใช้จริง จึงได้ทำการศึกษาในการประเมินประสิทธิผลวัคซีนที่มีการฉีดในบุคลากรทางการแพทย์ ตั้งแต่เดือนเมษายน จนถึงปัจจุบันว่า เมื่อใช้จริงจะมีประสิทธิผลเป็นอย่างไร ผลการศึกษาพบว่า ตั้ง 1พ.ค - ก.ค พบบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิด-19 แล้วทั้งสิ้น 3,906 คน ซึ่งได้นำมาศึกษาว่าบุคลากรที่ติดเชื้อเหล่านี้มาศึกษาประวัติการรับวัคซีนอย่างไรบ้าง และนำมาเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีน เป็นกการศึกษาแบบ matched case-control โดยผลการศึกษาพบว่า ในบุคลากรที่ติดเชื้อซึ่งได้รับวัคซีน ซิโนแวค 2 เข็มนานเกิน 14 วัน พบการตอดเชื้อทั้งสิ้น 2,154 ราย และกลุ่มเปรียบเทียบที่ติดเชื้อ และไม่ได้ฉีดวัคซีนมาก่อน 598 ราย ซึ่งประสิทธิผลของการป้องกันการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจะสูงถึง 98 %

ด้านประสิทธิผลด้านการป้องกันการติดเชื้อพบว่า อยู่ที่ 72 % โดยหากจำแนกเป็นรายเดือน พบว่า แนวโน้มการป้องกันการติดเชื้อของวัคซีนซิโนแวค ไม่ลดลง อยู่ในอัตราคงที่ ตั้งแต่เดือน พ.ค- ก.ค ไม่ต่ำกว่า 70% ซึ่งจะเห็นได้ว่า ประสิทธิผลของวัคซีนซิโนแวค ที่ได้รับการฉีดแล้ว 2 เข็ม ยังมีประสิทธิผลดี ทั้งในแง่การป้องกันการติดเชื้อ และการป้องการการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์ ประสิทธิภาพการฉีดซิโนแวค 2 เข้มยังคงที่ที่ 70 %

ขณะที่ในแง่ประสิทธิผลของแอสตราเซเนกา ที่พึ่งเริ่มใช้ในบุคลากรทางการแพทย์  ได้มีการเปรียบประสิทธิผลของการฉีด AZ 1 เข็ม และ 2 เข็ม พบว่า ประสิทธิผลไม่แตกต่างกัน โดยจะพบว่า ในผู้ที่ได้รับวัคซีน  AZ เข็มแรกมีประสิทธิผลอยู่ที่ 88 % ส่วนในผู้ที่ด้รับวัคซีน 2 เข็ม อยู่ที่ 96 %

วัคซีนเป็นเครื่องมือสำคัญในการลดในการลดการติดเชื้อ และป้องกันการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิต ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าวัคซีนที่ใช้ในประเทศไทย ทั้งซิโนแวคและแอสตราเซเนกามีประสิทธิผลในการลดการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิต ขอให้ช่วกันพาผู้สุงอายุไปรับวัคซีนเพื่อลดการป่วย และการเสียชีวิต