
"อัควินท์ จตุจินดา"มีเขี้ยวเสือมากที่สุดในโลก
เมืองไทยมีเรื่องเกี่ยวกับ "ที่สุดของโลก" หลายเรื่อง เช่น พระบูชา พระเครื่ององค์เล็กๆ แต่มีราคาแพงที่สุดในโลก เช่น พระรอดลำพูน ที่มีขนาดเล็กไม่เกิน 1 นิ้ว องค์ที่สวยสมบูรณ์ซื้อขายกันเกือบ 30 ล้านบาท
เครื่องรางของขลังในเมืองไทยมีมากมาย และมากที่สุดคือ ตะกรุด เพราะครูบาอาจารย์สมัยก่อนชอบทำกัน ทำเพื่อมอบให้ลูกศิษย์ คนใกล้ชิด เก็บไว้ป้องกันตัว สมัย หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ที่ชัยนาท ตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้ดำน้ำลงไปทำตะกรุดให้กรมหลวงชุมพรฯ หรือเสด็จเตี่ย
ตะกรุดของหลวงปู่ศุข จึงนิยมกันมาก แต่ราคาที่เช่าซื้อกลับไม่แพง หมื่นกว่าๆ เท่านั้น แต่ตะกรุดที่แพงที่สุด คือตะกรุดของหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง เมืองนนท์ เพราะราคาเช่าซื้ออยู่ที่แสนกว่า พอๆ กับราคาเบี้ยแก้ของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว นครชัยศรี และหายากพอๆ กัน
ตะกรุดมีความขลังในด้านคงกระพันชาตรี คือยิงฟันแทงไม่เข้า ต่างกับเบี้ยแก้ ที่มีไว้แก้คุณไสย แก้เสนียดจัญไรต่างๆ แม้กระทั่งภูติผีก็ยำเกรง ต้องหนีหายไปเมื่อเจอเบี้ยแก้ นับว่าเป็นเครื่องรางของขลังที่มีพลังและอัศจรรย์ที่สุด
เครื่องรางของขลังที่แพงที่สุดในโลก คือเขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย สมุทรปราการ เพราะราคาเช่าซื้ออยู่ที่หลักล้าน เสือบางตัวขายไปถึง 3 ล้านบาท เป็นเรื่องแปลกแต่เป็นไปแล้ว เสือสิงห์มีตบะอำนาจในตัวของมันเอง ครูบาอาจารย์สมัยก่อนจึงนำมาทำเป็นเครื่องรางของขลัง ให้มีความขลังในด้านตบะอำนาจแก่ผู้ที่มีจิตใจอ่อนแอ จะได้มีความกล้าหาญ ใครเห็นก็จะมีความยำแกรง ดั่งได้พบเห็นเสือสิงห์จริงๆ
เหตุที่มีราคาค่างวดสูงกว่าเครื่องรางชนิดอื่นๆ เนื่องจากทำจากเขี้ยวเสือ และความสวยงามที่ได้แกะสลักเป็นรูปเสือตัวเล็กๆ เล็กขนาดเม็ดข้าวสารไปจนถึงนิ้วกว่าๆ ยิ่งตัวไหนแกะได้สวยมากเท่าไร ราคาก็ยิ่งแพงขึ้นตัวละเป็นล้าน จึงเป็นวัตถุมงคลที่คนจนๆ ไม่มีไว้ครอบครอง แต่ถ้ามีก็คงขายไปหมดแล้ว และถ้าไม่รู้ว่าจะไปขายให้ใคร ให้รีบไปหา "เซียนอ๊อด เสือสำเพ็ง" หรือนายอัควินท์ จตุจินดา เพราะเขาซื้อไม่อั้น เรียกว่ามีกี่ตัวซื้อหมด ถ้าเป็นของแท้ เพราะว่าเขี้ยวเสือ คือชีวิตจิตใจของเขา จึงกว้านซื้อไว้มากเกือบ 100 ตัวแล้ว
เราไปดูเส้นสายลายมือของเสี่ยหนุ่มคนนี้กันว่า มีเครื่องหมายอะไร ที่ทุ่มเทให้แก่เขี้ยวเสือถึงขนาดนี้
รูปทรงมือ เป็นฝ่ามือสี่เหลี่ยมด้านเท่า มีฝ่ามือที่ค่อนข้างหนา นิ้วยาวปานกลาง เป็นทรงมือของพ่อค้านายทุน เส้นที่โดดเด่นบนฝ่ามือนี้ คือเส้นสมอง จะเห็นว่าต้นเส้นสมองอยู่สูงกว่าเส้นชีวิต ซึ่งตามปกติแล้ว ต้นเส้นสมองกับเส้นชีวิตจะอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน คนที่มีต้นเส้นสมองในลักษณะนี้ บ่งถึงเป็นคนเชื่อมั่นในตนเองมาก ไม่ค่อยเชื่อฟังใคร มีความคิดอ่านที่ลึกซึ้ง ยิ่งสมองที่มือขวาได้เดินขนานไปกับเส้นใจแบบนี้แล้ว ส่งผลให้เป็นคนที่คิดแล้วต้องทำ เพราะคนส่วนใหญ่คิดแล้วแต่ไม่ยอมทำ แต่เซียนเสือคนนี้ลงมือทำเลย และเส้นสมองแบบนี้ตอนเด็กๆ จะเป็นคนที่ดื้อมาก
ส่วนเส้นใจ เป็นเส้นที่แข็งแรง ไม่ชำรุด ปลายเส้นใจเดินเข้าไปที่ร่องนิ้วชี้ บ่งถึงเป็นคนที่เอาจริงกับเรื่องของการทำกิน ขยันในการหาเงิน เรียกว่าเป็นคนที่หาเงินเก่ง จึงมีเงินทองที่จะไปจับเสือเข้าบ้าน
ยิ่งมีเส้นวาสนาหลายเส้นที่กลางฝ่ามือ บ่งถึงทำธุรกิจได้หลายอย่าง มีรายได้หลายทาง เรื่องเงินทองจึงไม่ต้องเป็นห่วง มีกินใช้ตลอดชาติ เพราะแค่เสือที่มีอยู่ก็เป็นเงินเกือบ 10 ล้านแล้ว
ที่ "เสี่ยอ๊อด" สะสมแต่เขี้ยวเสือ ไม่เล่นอย่างอื่น เพราะมีความเชื่อมั่นศรัทธาอย่างสุดๆ ต่อเขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน ยิ่งมีเส้นสมองที่อยู่สูงๆ แบบนี้ ประกอบกับมีเส้นขวางที่เนินพฤหัส ยิ่งไม่ฟังใคร เรียกว่าฉันจะซื้อแต่เขี้ยวเสือใครจะทำไม?
ที่ต้องระวังมากๆ คือเรื่องของสุขภาพ จะเห็นว่าเส้นสมองที่มือซ้าย ได้มีรูปเกาะยาวเรียงกันถึง 3 อัน ประกอบกับเส้นชีวิตก็ชำรุดด้วยการเป็นเกาะเช่นกัน เมื่อเส้นหลักที่เสียหายลักษณะนี้ บ่งถึงสุขภาพที่ด้านหลังจะมีปัญหา จะเจ็บป่วยที่ด้านหลังตั้งแต่ส่วนคอลงไปจนถึงเอว จึงต้องระวังเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ต้องเอาใจใส่ให้มากๆ ไม่ใช่แต่ละวันเอาแต่ดูเขี้ยวเสือนะเสี่ยอ๊อด เดี๋ยวโรคภัยจะขย้ำเอาได้ ขอให้โชคดีครับ