
"ชฎาทิพ จูตระกูล" หญิงแกร่งแห่งสยามพารากอน
เสาร์นี้ สลับด้วย ศิลปักษร ของคนเด่นคนดังในวงสังคม เพื่อเป็นวิทยาทานสำหรับผู้อ่านที่กำลังศึกษาศาสตร์แห่งลายเซ็นตามสัญญาครับ
ลายเซ็นคนดังเสาร์นี้ ผมได้รับความกรุณาจากผู้ใหญ่ในเครือเนชั่น ส่งลายเซ็นของ คุณชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด มาให้ เอ่ยคำว่า “สยามพิวรรธน์” ผู้อ่านหลายท่านอาจไม่คุ้น ก็ขอเฉลยตรงนี้ว่า “สยามพิวรรธน์” เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้า “สยามพารากอน” ที่หรูหราและทันสมัยที่สุดในยุคนี้ และเพิ่งผ่านเหตุการณ์ทำให้อกสั่นขวัญแขวนไปเมื่อกลางเดือนที่แล้ว ส่วนจะมาจากอะไร ผมว่าอย่าไปฟื้นฝอยหาตะเข็บเลยนะครับ อะไรที่ไม่ดี เมื่อผ่านไปแล้วควรจะลืมเสีย แล้วมาตั้งต้นกันใหม่ดีกว่าครับ
ผมจำได้ว่าเคยไปสัมผัส “สยามพารากอน” อย่างเป็นทางการมาแล้วครั้งหนึ่ง รับเชิญจาก คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย หนุ่มหล่อใจบุญ บอสใหญ่ค่าย “ดีเอ็มจี” ให้ไปนั่งตรวจสอบลายเซ็นแขกผู้มีเกียรติใน “สยามพารากอน” เพื่อหารายได้ในโครงการ “ทำดีเพื่อพ่อ” เมื่อปี 2551 แต่เพิ่งมีวาสนาได้เห็นศิลปักษรของ คุณชฎาทิพ จูตระกูล ผู้บริหารระดับสูงสุดของห้างนี้เป็นครั้งแรก ขอบคุณกำนัน เอ๊ย! ผู้ใหญ่ในเครือเนชั่น ที่เมตตาจัดหามาให้เป็นอย่างยิ่งครับ และขอเรียนว่ากรุณาส่งมาอีกนะครับ ลำพังผมคงไม่มีปัญญาไปหาเองหรอกครับ แหะ แหะ
เห็นศิลปักษรของ คุณชฎาทิพ แวบแรก ผมนึกไปถึงอักษรภาษาจีน ซึ่งเป็นที่มาของอักษรในภาษาญี่ปุ่นที่เรียกกันว่า “คันจิ” เพราะมีเส้นสาย แข็งแรง สลับกับลวดลายอ่อนช้อย และพลิ้วไหว เป็นศิลปักษรต่างจากลายเซ็นของผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในแวดวงการเมือง การทหาร ตำรวจ หรือนักธุรกิจคนอื่นๆ
ศิลปักษรที่เห็นอยู่นี้ บ่งบอกว่า เจ้าของลายเซ็นคือ คุณชฎาทิพ จูตระกูล เหมือน “คนสองคนในร่างเดียวกัน” คือมีความเด็ดขาดเหมือนผู้ชาย แต่อ่อนไหวเหมือนผู้หญิงที่หาไม่ได้ง่ายๆ คือ หากเป็นผู้ชายส่วนใหญ่มักจะเด็ดขาด โผงผาง จนลูกน้องไม่กล้าเข้าหน้า หากเป็นผู้หญิงก็มักอ่อนหวาน จ๊ะๆ จ๋าๆ จนลูกน้องไม่เกรง แต่คุณชฎาทิพไม่ใช่อย่างนั้น เห็นภายนอกยิ้มๆ เย็นเหมือนน้ำแข็งก็เถอะ แต่เวลาตัดสินใจจะทำอะไรขึ้นมาละก็ไม่เสร็จก็ต้องเสร็จ...อะไรประมาณนั้น
เส้นสายลายเซ็น เริ่มต้นเป็นขีดขึ้นและลงสลับกัน ค่อนข้างถี่ บ่งบอกถึงความเฉียบขาดในความคิด และการตัดสินใจที่เต็มไปด้วยเหตุผล หลักการ
เส้นสายที่ขึ้นลงคล้ายตัว M ในภาษาอังกฤษถัดมานั้น สะท้อนให้เห็นว่า เริ่มใช้อารมณ์เข้ามาทบทวน และครุ่นคิดว่าการตัดสินใจแบบหุนหันลงไปนั้นถูกต้องแล้วหรือ คือจะบอกว่าเจ้าของลายเซ็นเป็นเผด็จการเสียเลย ก็คงไม่ใช่ เพราะอย่างน้อยก็ยังฟังเสียงของคนรอบข้างอยู่บ้างละน่า แต่ว่า การตัดสินใจต้องเป็นคนของฉันคนเดียว ว่างั้นเถอะ
เส้นสายส่วนที่สามในลายเซ็น ที่มีรูปลักษณ์คล้ายอักษรตัว A ในภาษาอังกฤษ ที่มีปลายพุ่งออกไปด้านข้าง และเลื้อยลงมาด้านล่างนั้น นั่นแหละที่บอกให้รู้ว่า คุณชฎาทิพยังมีความเป็นผู้หญิงที่อ่อนหวาน อ่อนไหว และมีความโรแมนติกอย่างสุดๆ ซุกซ่อนอยู่ ถึงจะมีความแข็งหรือเด็ดขาดเหมือนผู้ชาย แต่เบื้องลึกของจิตใจเธอเป็นคน “ขี้สงสาร” มีเมตตา อยากช่วยคน หรือสัตว์ที่ได้รับความเดือดร้อน เพียงแต่ว่า ภาระและหน้าที่อาจทำให้เธอ มิอาจ “ทำ” ในสิ่งที่อยากทำได้เต็มที่นัก
นั่นคือบุคลิกภายในของคุณชฎาทิพ ที่ดำรงอยู่ หากถาม “ตะวันณา” ว่า ลายเซ็นแบบนี้เป็นอย่างไร คงตอบตามตำราว่า ขาดความสมบูรณ์ครับ ผมเคยย้ำแล้วย้ำอีกว่า ลายเซ็นที่สมบูรณ์ต้องประกอบด้วย ลายเซ็นชื่อ และลายเซ็นนามสกุล เพราะ ลายเซ็นชื่อจะสะท้อนถึงอดีตกับปัจจุบัน และ ลายเซ็นนามสกุลบ่งบอกถึงอนาคต ลายเซ็นของคุณชฎาทิพ ที่มีแต่ลายเซ็นจึงสะท้อนให้เห็นว่า ปัจจุบันฉันลุยลูกเดียว ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไร (ขอโทษนะครับ) ช่างหัวมันฉันไม่แคร์ อะไรประมาณนั้น
คุณชฎาทิพ เป็นคนที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เก่งมาก มีปัญหาอะไรฉันเคลียร์ได้ ผู้บริหารบางคนอาจจะลังเล ไม่กล้าตัดสินใจ กลัวโน่นกลัวนี่ แต่สำหรับคนคนนี้แล้ว เป็นไรเป็นกัน ฉันสั่ง!
ผู้มีลายเซ็นในลักษณะนี้ จึงควรมีฝ่ายเสนาธิการ หรือคนคอยช่วยคิด ช่วยวิเคราะห์ ช่วยวางแผน แล้วเอามาเสนอ ส่วนจะเอาหรือไม่ มันเรื่องของฉัน...นั่นแล
กราบขอบคุณ คุณชฎาทิพ จูตระกูล เป็นอย่างสูง ที่กรุณาร่วมให้ “วิทยาทาน” ในเสาร์นี้ครับ หากมีคำวิจารณ์ใดบกพร่อง หรือผิดพลาดไปจากข้อเท็จจริงก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
"ตะวันณา"