
ลายเซ็น คุณจิรายุทธ รุ่งศรีทอง
ผมได้รับเอกสารของ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือมีชื่อย่อเป็นภาษาอังกฤษ CAT ว่าด้วยเรื่องการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ประจำปี 2552 ลงนามโดย คุณจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง
ผู้ส่งคงไม่ได้มีเจตนาจะบอกว่า ปีนี้ผมได้รับเงินปันผลจาก CAT เท่าใดหรอกนะครับ ก็ผมมีหุ้นมีเหิ้นกับเขาที่ไหนกัน...ฮา เข้าใจว่า ที่ส่งเอกสารไปให้ผมนั้น คงหวังจะให้ผมได้ตรวจสอบลายเซ็นของคุณจิรายุทธ รุ่งศรีทอง ว่า จะรุ่งต่อไปหรือไม่กระมังครับ เพราะก่อนที่จะได้รับตำแหน่งนี้สมใจนึกบางลำพู ก็ถูกสหภาพแรงงานซัดซะอ่วมอรทัยมาแล้ว
เสียดายที่ในเอกสารนั้น ไม่ได้แจ้งให้ทราบว่า คุณจิรายุทธเกิดตรงกับวันอะไร จึงไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า ชื่อนี้เป็นมงคลสำหรับคุณจิรายุทธหรือไม่ เมื่อไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับอักขระวรรคย์มา ก็คงพิจารณาได้แต่ลายเซ็นเท่านั้นนะครับ
พิจารณาจากเส้นสายในลายเซ็น ดูเหมือนว่า คุณจิรายุทธจะใช้ปากกาเส้นเล็กเซ็นชื่อ เส้นสายที่ปรากฏจึงคมชัด รูปทรงเป็นวงกลมและโค้งไปมา คล้ายคลื่น ก็เหมาะกับตำแหน่งหน้าที่ที่ต้องดูคลื่นของเครื่องมือสื่อสารอยู่ตามสมควรนะครับ
ลักษณะลายเซ็นชื่อเป็นวงกลมซ้อนกัน บ่งบอกว่า เป็นคนช่างคิดช่างฝัน อยากทำโน่นทำนี่ จะเรียกว่า เป็นเจ้าโปรเจกท์อีกคนหนึ่งก็เห็นจะได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับผู้บริหารระดับสูงที่จะเป็นคนช่างคิดช่างฝันครับ หากไม่ช่างคิดซิ จึงจะเป็นเรื่องประหลาด เพราะคงไม่มีอะไรใหม่ๆ มาให้องค์กร
แต่ความคิดความฝันของคุณจิรายุทธมักมีอุปสรรคอยู่เนืองๆ เหตุผลหนึ่ง อาจเป็นเพราะชื่อนี้มีอักษรอันเป็นกาลกิณีรวมอยู่ด้วย (ฝากประชาสัมพันธ์ กสท แจ้งวันเกิด จันทร์ อังคาร พุธ ของคุณจิรายุทธมาให้ทราบหน่อยนะครับ) กับอีกเหตุผลหนึ่งที่ค่อนข้างชัดแจ้งคือ ลายเซ็นชื่อและนามสกุลของคุณจิรายุทธ ที่พันกันจนแยกไม่ออกนั่นแหละ
ผมเคยตอบผู้อ่านไปหลายท่านแล้วนะครับว่า ลายเซ็นชื่อและนามสกุลของคนเรา จะสมบูรณ์และสง่างามนั้น ควรแยกออกจากกันเป็น ลายเซ็นชื่อ กับ ลายเซ็นนามสกุล ให้ขาดจากกันอย่างชัดเจน
ลายเซ็นชื่อนั้นท่านแทนค่า อดีตและปัจจุบัน
ลายเซ็นนามสกุลนั้นท่านแทนค่า อนาคต นะครับ
หากลายเซ็นชื่อและลายเซ็นนามสกุลติดกันเป็นเนื้อนาบุญ เอ๊ย! เนื้อเดียวกัน เจ้าของลายเซ็นก็มักจะทำอะไรพะวงหน้าพะวงหลัง ห่วงโน่นห่วงนี่ เกรงจะเป็นอย่างนั้นจะเป็นอย่างนี้ เหมือนคนที่ละเอียดละออจนกลายเป็นคนที่ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง
ตรงนี้ละครับ คือ อุปสรรคขวากหนามสำคัญ เป็นอุปสรรคที่เกิดจากตัวเองแท้ๆ หาได้เกิดจากผู้อื่นไม่ ผมจึงมักแนะนำให้ผู้ที่เซ็นชื่อแบบนั้น ปรับเปลี่ยนลายเซ็นด้วยการแยกลายเซ็นชื่อและลายเซ็นนามสกุลออกจากกัน เพื่อให้อดีตก็คืออดีต ปัจจุบันก็คือปัจจุบัน และอนาคตก็คืออนาคต
คงจะถือโอกาสนี้แนะนำ คุณจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ กสท ซะเลยนะครับ ส่วนท่านจะเชื่อผมหรือไม่ก็ควรจะเชื่อ เอ๊ย! ก็ขอให้อยู่ในดุลพินิจของท่านนะครับ
ตรงนี้ ขออธิบายเป็นวิทยาทานเพิ่มเติมสำหรับผู้อ่านที่เพิ่งเปิดเจอคอลัมน์นี้ว่า ลายเซ็นชื่อที่บ่งบอกอดีตกับปัจจุบันนั้น มีความผูกพันกับตัวเองค่อนข้างมาก ลายเซ็นชื่อจึงมีอิทธิพลตั้งแต่อายุ 20 ปีถึง 40 ปี
ส่วนลายเซ็นนามสกุลนั้น มีความพูกพันกับวงศาคณาญาติ ตลอดจนผู้หลักผู้ใหญ่ หรือผู้บังคับบัญชา นั่นแหละครับ หากใครไม่ชอบ หรือไม่มีลายเซ็นนามสกุล คือ ชอบเซ็นชื่อโดดๆ อย่าง นายตะวัน ทักษณา ก็เซ็นเฉพาะตะวัน ไม่เซ็น ทักษณา อย่างนี้แสดงว่า เป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเอง ไม่ค่อยฟังเสียงผู้หลักผู้ใหญ่ อาจฟังเสียงของเพื่อนฝูงแต่ก็ไม่ค่อยจะเชื่อหรือเอามาให้น้ำหนัก นานไป หรือแก่ตัวมากขึ้น หรือเวลามีปัญหา ก็จะไม่มีใครยื่นมือมาช่วยเหลือนายตะวัน.. ว่างั้น
หากสังเกตให้ดีจะพบว่า เวลาผมตอบจดหมายแฟนๆ หากพบว่า ใครไม่มีลายเซ็นนามสกุล ก็มักจะแนะนำเสมอๆ ว่า ควรจะเพิ่มลายเซ็นนามสกุลด้วยนะ ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ เรื่องนี้คงบังคับกันไม่ได้ครับ อยู่ที่ความเชื่อของแต่ละคน
เอาล่ะ ฉบับนี้...ขอขอบคุณ คุณจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ กสท ที่เสียสละลายเซ็นมาเป็นวิทยาทาน นะครับ ขอให้ทุกท่านโชคดีครับ
"ตะวันณา"