
กู้ซากเครื่องบินเล็กตกคลองวัดลำพระองได้แล้ว
กู้ซากเครื่องบินเล็กตกคลองวัดลำพระองได้แล้ว ใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมง
1ส.ค.2559 เครื่องบินเช่าเหมาลำลงจอดฉุกเฉินในคลองหลังวัดลำพระอง แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กทม. ส่งผลนักบินเสียชีวิต 1 ราย และผู้ช่วยนักบินและผู้โดยสารเจ็บ 5 รายเมื่อเวลา 16.30 น. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เร่งกู้ซากเครื่องบินตกอย่างต่อเนื่องจนกระทั้งถึงเวลา 21.00 น. โดยใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมงยังไม่สามารถนำเครื่องบินขึ้นมาจากน้ำได้
พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา ผบก.น.3 พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประชุมหารือร่วมกันถึงแนวทางในกู้ซากเครื่องบินลำนี้โดยได้เริ่มจากการเตรียมพื้นที่ฝั่งวัดลำพะองให้มีบริเวณกว้างพอสำหรับยกเครื่องบินขึ้นไปวางไว้ โดยทำการเคลียร์ต้นไม้ที่หักล้มละเนระนาดและได้ตัดต้นไม้ใหญ่ริมคลองออก เพื่อเตรียมใช้รถเครนยกเข้ายกเครื่องบินลำดังกล่าว ขณะเดียวกันก็ได้เคลียร์ชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายในคลองและผักตบชวา
ต่อมาเวลา 22.00น. พล.ต.ต.ชัยพร กล่าวว่า เบื้องต้นได้ประสานไปยังสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตหนองจอกเพื่อนำรถเครนสีเหลืองขนาดใหญ่มาทำการเคลื่อนย้ายเครื่องบินที่เกิดเหตุขึ้นมาจากคลองลำเกาะเลา ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ใช้วิธีการยกเครื่องบินทั้งลำขึ้นเหนือผิวน้ำ ใช้สายสลิงลอดผ่านภายในตัวเครื่องไขว้กัน เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องบินหักและยังคงสภาพเดิมไว้ให้มากที่สุด โดยมีผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์สาเหตุเครื่องบินตกคอยควบคุม และจดบันทึกรายละเอียดต่างๆ เช่น ชิ้นส่วนของเครื่องบินตกอยู่จุดใด ชิ้นส่วนที่นำออกมาจากตัวเครื่องอยู่บริเวณไหน เพื่อนำข้อมูลมารวบรวมประกอบกับรายงานบันทึกจากกล่องดำของตัวเครื่องและประสานไปยังคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักรเพื่อทำการสอบสวนหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ต่อไป
ต่อมาเวลา 22.20น. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. ได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุเพื่อติดตามการเร่งกู้ซากเครื่องบินที่เกิดเหตุโดยใช้เวลาหลังจากการเกิดอุบัติเหตุนานกว่า 6 ชั่วโมง 30 นาที ก่อนจะนำขึ้นจากน้ำและมาวางลงบริเวณด้านข้างของศาลาปฏิบัติธรรมของวัดลำพะองเป็นที่เรียบร้อย
พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า หลังจากทางเจ้าหน้าที่ทำการกู้ซากเครื่องบินขึ้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ได้แบ่งชุดทำงานออกเป็น 2 ชุด คือ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลำผักชี ทำการสอบสวนผู้ได้รับบาดเจ็บและพยานแวดล้อมเพิ่มเติม และประสานทางคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักรเข้ามาตรวจสอบซากเครื่องบินดังกล่าวในเวลาประมาณ 08.00-09.00น. ของวันพรุ่งนี้ (2 ส.ค.) อย่างละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตามจะต้องทำการตรวจสอบกล่องดำของทั้งเครื่องบินและทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อหาสาเหตุถึงอุบัติเหตุครั้งนี้ต่อไป