
จ่ายค่าน้ำช้า เสียค่าปรับแพง
12 มี.ค. 2558
เปิดซองส่องไทย : จ่ายค่าน้ำช้า เสียค่าปรับแพง
ผมมีเรื่องเดือดร้อนที่อยากขอร้องให้ลุงแจ่มเป็นกระบอกเสียงสื่อไปยังผู้บริหารการประปาส่วนภูมิภาค พวกผมเป็นชาวบ้าน อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ได้รับความเดือดร้อนจากการทำงานของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาอำเภอชนบท จ.ขอนแก่น ที่คิดค่าปรับแพงหากจ่ายค่าน้ำล่าช้า
เดือนไหนที่วันถึงกำหนดจ่ายตรงกับวันหยุด ถ้าไปจ่ายในวันทำการถัดไป จะถือว่าจ่ายล่าช้า โดยเสียค่าปรับทันที 300 บาท รวมแวต อีก 21 บาท รวมเป็น 321 บาท ลองคิดดูเถอะว่าเงิน 321 บาท สำหรับชาวบ้านแล้วเป็นจำนวนเงินที่มาก บางคนทำงานวันหนึ่งรายได้ไม่ถึง 300 บาทเลย
แล้วจะเอาเงินจากไหนไปจ่ายค่าปรับ คนจนทั้งนั้น อย่างนี้เท่ากับรีดเลือดกับปู เจ้าหน้าที่ก็ไม่มีความอะลุ้มอล่วยกับชาวบ้าน เกินมาวันเดียวก็ไม่ยอม ถามเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าเป็นระเบียบของการประปาสำนักงานใหญ่ ผมเคยร้องเรียนไปที่ ตู้ ปณ.1111 แต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ จึงขอร้องเรียนผ่านมาทางลุงแจ่มได้โปรดช่วยเหลือพวกผมด้วย เพราะเดือดร้อนจริงๆ
พันกิจ
ตอบ
การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) สาขาชนบท จ.ขอนแก่น ชี้แจงว่า การอ่านมาตรวัดน้ำประจำเดือนของ กปภ. สาขาชนบท จะอ่านมาตรวัดน้ำและแจ้งหนี้ระหว่างวันที่ 1-9 ของทุกเดือน และผู้ใช้น้ำสามารถชำระค่าน้ำได้ภายใน 7 วันนับตั้งแต่วันแจ้งหนี้ หากผู้ใช้น้ำไม่ชำระค่าน้ำภายใน 7 วันดังกล่าว กปภ. จะผ่อนผันให้ชำระได้อีก 7 วัน โดยไม่งดจ่ายน้ำประปะปา แต่หากพ้นจากระยะเวลาผ่อนผัน ผู้ใช้น้ำยังไม่ชำระค่าน้ำ จะถูกงดจ่ายน้ำประปา ผู้ใช้น้ำต้องติดต่อสำนักงาน กปภ. สาขา เพื่อชำระค่าน้ำพร้อมค่าปรับ
ที่ผ่านมา กปภ. สาขาชนบท ผ่อนผันระยะเวลาในการงดจ่ายน้ำประปาให้ผู้ใช้น้ำที่ไม่ชำระค่าน้ำภายในระยะเวลาผ่อนผัน โดยผ่อนผันให้จนถึงสิ้นเดือน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ใช้น้ำที่จำเป็นต้องรอชำระในวันเงินเดือนออก ทั้งนี้ ระบบการแจ้งหนี้ของ กปภ. สาขาชนบท ไม่มีการระบุวันชำระค่าน้ำแต่อย่างใด แต่ระบุให้ชำระภายใน 7 วัน ดังนั้น ผู้ใช้น้ำต้องวางแผนในการชำระค่าใช้น้ำ หากกำหนดวันชำระวันสุดท้ายตรงกับวันหยุด ผู้ใช้น้ำต้องชำระในวันทำการ เพื่อป้องกันการถูกงดจ่ายน้ำ
กรณีผู้ใช้น้ำถูกงดจ่ายน้ำประปา หรือการตัดมาตร และต้องการเปิดใช้น้ำประปาต่อไป ผู้ใช้น้ำต้องชำระค่าน้ำประปาค้างจ่ายพร้อมกับค่าธรรมเนียมในการบรรจบมาตร สำหรับบ้านพักอาศัยมีอัตราค่าธรรมเนียมการบรรจบมาตร จำนวน 300 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งอัตรานี้เป็นอัตราเดียวกันทั่วประเทศ