ไม่แตกแถว "3 หนังไทย" กวาดเงิน 1,000 ล้าน มาจากค่ายนี้ เพราะอะไร? | คมชัดลึก

วงการภาพยนตร์ หรือ วงการหนังไทย ในยุคนี้มักจะพูดคำว่าซอฟพาวเวอร์ และการกระตุ้นวงการนี้เพื่อสร้างรายได้อีกช่องทางให้ประเทศชาติ พร้อมกับเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก ซึ่งหากย้อนกลับไปวงการหนังไทย ก็สร้างแรงกระเพื่อมได้พอสมควรเป็นละรอกคลื่น แต่บางทีก็เหมือนกันการโยนหินลงน้ำที่มาแล้วก็ไป ฉะนั้นก็ต้องเป็นโจทย์ให้คิดต่อว่า วงการภาพยนตร์ไทย จะเติบโตไปอีกขึ้นอย่างไร ซึ่งเชื่อว่าทุกส่วนที่เกี่ยวข้องก็พยายามกัน 

 

วันนี้พาไปย้อนภาพยนตร์ที่สามารถสร้างมูลค่ากว่า 1,000 ล้าน ของไทยสักหน่อยลิสต์มาแล้วมี 3 เรื่องเด่นที่น่าสนใจ

"พี่มาก..พระโขนง"

ภ.เรื่อง พี่มาก..พระโขนง เรื่องนี้ถือว่าพลิกโฉมหน้า เปลี่ยนมุมมองของ ตำนานผีแม่นาก พระโขนงอย่างมาก จากแนวหลอนขนหัวลุก ใส่ความฮาอารมณ์ดีเข้าไป  เรื่องนี้แม้ว่าไม่ได้มีรายได้ปิดเป็นตัวเลขสุทธิที่แต่แน่นอนนั้น  ตามข้อมูลโดยตัวหนังทำเงินทั่วประเทศไทยมากกว่า 1,000 ล้านบาท และมีตัวเลขการทำเงิน 568.55 ล้านบาท ( กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และจังหวัดเชียงใหม่ )

 

"ฉลาดเกมส์โกง"

ภ.ฉลาดเกมส์โกง ความสนุกสนานของเรื่องนี้คือการหยิบกลโกงของคำว่าเยาวชนหัวกะทิมาสร้างเป็นต้นเรื่อง นั่นทำให้ผลที่ออกมาเป็นที่พูดถึงและนิยมกันอย่างมา โดยข้อมูลแล้ว เรื่องนี้อ้างอิงตัวเลขรายได้จาก BoxofficeMojo ได้แจ้งว่าตัวหนังทำเงินทั่วโลกมากถึง $44.5M หรือตีเป็นเงินไทย มูลค่าอยู่ที่ประมาณ 1,630 ล้านบาท แต่นี่คือตัวเลขที่คาดการณ์ซึ่งคาดว่าจะน้อยกว่าที่เป็น

 

 

"หลานม่า"

"ภ.หลานม่า" กลายเป็นหนังที่ถูกพูดถึงและทัชใจผู้ชม คนไทยและต่างชาติ เนื่องจากหยิบความรักของครอบครัว และชีวิตที่เกิดขึ้นใกล้เคียงกับความจริงบนโลก ณ เวลานี้ตัวหนังทำเงินทั่วโลกน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,100 ล้านบาท ซึ่งตัวหนังมีตัวเลขการทำเงินทั่วประเทศในไทยคือ 337 ล้านบาท

 

 

ความน่าสนใจของภาพยนตร์ที่กล่าวถึงมานั้นในความสำเร็จของรายได้นั้นเบื้องหลังมาจากค่ายผู้ผลิตเดียวกัน( GTH , GDH ) เรียกว่าไม่แตกแถวเลยก็ว่าได้ อีกคำถามคือความสำเร็จในแต่ละเรื่องคือจุดไหน เพราะ "พี่นาก..พระโขนง" แนวหนังผี ตลก อิงตำนาน" , "ฉลาดเกมส์โกง" แนวจารกรรม-ระทึกขวัญ และ "หลานม่า" แนวดราม่าน้ำตาไหล 

 

นั่นจึงมองได้ว่าความสำเร็จหรือแนวทางเพื่อซื้อใจผู้ชมนั้นมีความแตกต่างกัน ไม่เคาะว่าแนวหนังผี, จารกรรม, ดราม่า คือสูตรตายตัว แต่ทว่าอย่างหนึ่งที่สังเกตได้คือ

• ความแปลกใหม่ และฉีกจารีตเดิมๆ ออกจากกรอบ
• ความทัชใจ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและเป็นประเด็นกว้างในสังคมโลก
• มิติมุมมอง การเล่าเรื่องที่ธรรมชาติ ตรงกับวิถีชีวิตของความเป็นมนุษย์จริงๆ 

 

ซึ่งแน่นอนว่าต้องผ่านกระบวนการ ความคิดของทีมงานมาอย่างหนักหน่วงเช่นกันจึงจะประสบความสำเร็จได้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลปัจจัยที่กล่าวยกตัวอย่างก็ใช่ว่าจะครบองค์ ยังมีอีกหลากเหตุผลที่นำไปสู่คำว่าสำเร็จได้เช่นกัน จึงเป็นกำลังใจให้กับ วงการบันเทิงไทยต่อไปเพื่อไปถึงเป้าหมาย