ที่มาฉาก 'แม่ราตรี' ถูกตีตรา หญิงมีชู้ ด่า ประจานรอบเมือง ในบางกอกคณิกา | คมชัดลึก

ปิดฉากลงอย่างสวยงาม สำหรับ "บางกอกคณิกา" ซีรีส์ฟอร์มยักษ์ที่กวาดเรตติ้ง พร้อมทะยานขึ้นติดเทรนด์ยันตอนอวสาน พร้อมบทสรุปของทุกคนในเรื่องที่กวาดคำชื่นชมว่า เป็นซีรีส์น้ำดีที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวกระโดดของละครไทย ตีแผ่เรื่องราวของอาชีพ Sex Worker หรือ โสเภณี ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียมทางศักดิ์ศรีของมนุษย์

 

 

อีกฉากที่ถูกกล่าวถึงในตอนสุดท้าย คงไม่พ้นฉากที่ "อ้อม พิยดา" ผู้รับบท "แม่ราตรี" แม่เล้าแห่งหอบุปผชาต เป็นฉากที่แม่ราตรีถูกตัดสินให้มีความผิด เพราะมีชู้มากกว่า 2 คน ถือว่าเป็นหญิงส่ำส่อน และสมควรถูกประจานนำขึ้นตารางห้อยดอชบา ประจานทั่วทั้งพระนคร ในขณะที่ฝ่ายชายผู้ทำความผิดเช่นเดียวกันกลับไม่ถูกลงโทษ 

กฏหมายในอดีต ตีตราประจานเฉพาะหญิงส่ำส่อน ? 

 

"มาตราหนึ่ง หญิงใดทําชู้นอกใจผัว มันเอาชายชู้นั้นมาร่วมประเวนีในวันเดียว 2 คนขึ้นไป ว่าเปนหญิงแพศยา มิให้ปรับไหมชายชู้นั้นเลย ให้เอาปูนเฃียนหน้าหญิงร้ายนั้นเปนตราง ร้อยดอก ฉะบาเปนมาไลยไส่ศีศะ ไส่ฅอ แล้วเอาขึ้นฃาหย่างผจาน"

 

หนึ่งในมาตราของกฎหมายตราสามดวง ซึ่งนับว่า ภรรยาเป็นสิทธิของสามี เมื่อเกิดการคบชู้ขึ้น กฎหมายจะประณามเพศหญิง และลงโทษอย่างรุนแรง และตามกฎหมายสามดวง คำว่า "หญิงแพศยา" เป็นหนึ่งในคำเรียกหญิงที่คบชู้สู่ชาย

 

 

อีกทั้งกฎหมายยังนิยามผู้หญิงตามอาชีพ อาทิ หญิงคนขับ หญิงคนรำ และหญิงนครโสเภณี ซึ่งผู้ที่ทำอาชีพเหล่านี้ ถือว่า เป็นชนชั้นต่ำในสังคม ไม่สามารถขึ้นให้การเป็นพยาน และจะถูกนิยามด้วยคำว่า หญิงแพศยาทันที 

 

นอกจากนี้ กฏหมายยังระบุว่า ชายใดที่สู่ขอผู้หญิงที่มีอาชีพ เต้นกินรำกิน  โสเภณี หรือ ขอทานมาเป็นภรรยา หากหญิงทำชู้ต่อสามีให้ประจานฝ่ายหญิง และชายชู้โดยการเทียมแอกนา หมายถึง นำคราดไถผูกติดกับคน (โดยปกติจะผูกกับสัตว์เช่น วัว ควาย หรือม้า) เป็นเวลา 3 วัน ส่วนฝ่ายหญิงยังมีโทษเพิ่ม ถูกเฉลวมาปะหน้า ทั้งสองหูทัดดอกชบาสีแดง และร้อยดอกชบาแดงเป็นมาลัยใส่คอ 

 

 

กฏหมายเปรียบเสมือนรากฐานของสังคม และสิ่งที่สะท้อนความเป็นมาในสังคม จะสังเกตเห็นว่า มีเพียงฝ่ายหญิงเท่านั้นที่ต้องโทษหนักกว่า แม้จะทำผิดในโทษฐานเดียวกัน หรือต่อให้ฝ่ายชายทำผิดมากกว่าก็ตาม รวมถึงหญิงเป็นผู้ที่มีชนชั้นค่ำว่า ศักดิ์ศรีความเป็นคนยิ่งถูกกดให้ต่ำยิ่งกว่าเดิม