ทึ่งมาก เส้นทางชีวิต 'เบลล่า' ก่อนคว้าเกียรติยศ นั่งรถตู้ มาฝึกงานที่ช่อง 3

โดย "เบลล่า" กล่าวบนเวที ขณะที่รับรางวัลว่า "รางวัลนี้เป็นเกียรติกับชีวิตของนักแสดงคนหนึ่งมากๆ เบลขออนุญาตเล่าถึงชีวิตของเบลนิดนึงนะคะ ชีวิตในวงการของเบลไม่ได้มาแบบสวยหรู หรือว่าโรยด้วยกลีบกุหลาบ ถ้าเปรียบเป็นม้าแข่ง เบลไม่ใช่ตัวเต็งเลย เบลต้องลุ้นทุกสนาม ว่าจะได้ลงแข่งหรือเปล่า 

เราจะได้แสดงฝีมือให้คนอื่นเห็นไหม คือมันเป็นแบบนั้นตั้งแต่ตอนเริ่มต้น ทุกคนเห็นว่าเบลมีชื่อเสียง เป็นที่รัก แต่ตอนแรกที่เบลเข้าช่องมา เบลเป็นเด็กฝึก ต้องนั่งรถตู้มาจากธรรมศาสตร์ รังสิต มาที่ช่อง 3 พระราม 4 หลายวันต่อสัปดาห์ เพื่อที่จะเรียนรู้และรอโอกาส 

ได้ละครเรื่องแรก ไม่ได้เริ่มต้นด้วยการเป็นนางเอก เริ่มต้นการเป็นนางร้าย ในเรื่องรอยมาร ตั้งแต่ปี 54 หลังจากนั้นก็ได้ขยับมาเป็นนางรอง ละครเรื่องตะวันยอดรัก ทั้งสองเรื่องเป็นของอาปิ่น ทีวีซีน ขอบคุณที่ให้โอกาสแรกกับเบล เบลได้ขึ้นมาเป็นนางเอกละครเรื่องแรก พรพรหมอลเวง ของพี่ตู่ ปิยวดี แล้วก็สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอนคุณชายพุฒิภัทร เรื่องนี้ของพี่แหม่ม เป็นปีๆกว่าจะได้บทกรองแก้ว 

หลังจากนั้นผู้จัดหลายท่านก็ให้โอกาสเบล ตั้งแต่เรื่องทาส เพลิงฉิมพลี ภพรัก ปดิวรัดา วิมานเมขลา เพลิงบุญ ซึ่งตอนนั้นเรื่องนี้ได้เรตติ้งลำดับ 1 ของช่อง 3 ซึ่งเรื่องนี้ถ่ายพร้อมกับบุพเพสันนิวาส ของพี่หน่อง ซึ่งได้มาออกอากาศตอนปี 61 ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตของเบลเลย ที่เบลได้มาเป็นออเจ้าของทุกคน หลังจากนั้นก็มีผลงาน ปี่แก้วนางหงส์ กรงกรรม ร้อยเล่ห์มารยา ให้รักพิพากษา พรหมลิขิต แล้วก็จะมีเปิดกล้อง เจ้าคุณพี่กับอีนางคำดวง

แม้แต่ผลงานแสดงภาพยนตร์ ก็ไม่ได้เริ่มต้นที่บทนำ พอได้เป็นบทนำเรื่องนั้นก็ไม่ได้ฉาย แล้วก็หลายเรื่องที่หลายคนเห็นว่าประสบความสำเร็จ ที่เบลพูดมาทั้งหมด คืออยากจะบอกว่าอาชีพของเบลไม่ได้แตกต่างจากอาชีพของคนอื่น ที่มีแต่ความสวยงาม ความผิดหวัง ความพยายาม มีการฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำเล่า มีคำดูถูก มีคำวิจารณ์ มีการอดทนรอ ซึ่งวันแรกที่เบลได้เป็นเด็กฝึกช่อง 3 จนบุพเพสันนิวาส ใช้เวลา 8 ปี 

แล้วตั้งแต่วันแรกที่ได้มาเป็นอาชีพนักแสดง เบลใช้เวลาจนมาถึงวันนี้จนเป็นเบลล่า ทั้งหมด 14 ปีค่ะ ไม่ต่างจากทุกคนเลยค่ะ บางทีมันอาจจะสำเร็จในวันที่ 100 ด้วยซ้ำ บางครั้งความพยายามไม่พอก็ต้องมีโชคด้วย เชื่อว่าถ้าเราตั้งใจ ถ้าเรามุ่งมั่นและเราพร้อมอยู่เสมอ อย่าเอาคำดูถูก มาบั่นทอนจิตใจของเราค่ะ จงใช้พลังนั้นในการขับเคลื่อนตัวคุณ แล้วถ้าวันไหนที่เราได้ลงสนาม จงวิ่งให้สุดเลยค่ะ ไม่ต้องไปแข่งขันกับใคร แต่เราทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด 

เบลขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่าน ขอบคุณที่ทำให้ม้าตัวนี้ลงสนามแข่ง ได้โชว์ฝีมือความสามารถให้ทุกคนได้เห็น ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนเบล ขอบคุณครอบครัว ที่เป็นพลังพลังใจ มีคำสอนที่ทำให้เป็นวันนี้ ขอบคุณพี่พลอยผู้จัดการ ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันตั้งแต่วันที่ไม่มีอะไรเลย อดทนมาด้วยกันมั่นใจในกันและกันเสมอ ขอบคุณแฟนคลับขอบคุณประชาชนคนไทยทุกคนทุกประเทศ ขอบคุณทุกคนที่เคยได้ชมผลงานของเบล ขอบคุณที่สละเวลาดูมัน ขอบคุณที่รักกัน ทุกสิ่งทำให้เป็น เบลล่า ราณี แคมเปน ในวันนี้ ขอบคุณทุกคนมากจริงๆค่ะ"