เปิดใจ 'แพรพั้นช์ RedSpin' ไม่ควรมีใครเจอแบบนี้ หลังถูกตัดต่อ รูปโป๊-เปลือย

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ "อชิรญาณ์ สำราญพยอมสุข แพร หรือ แพรพั้นช์ RedSpin" นักร้องไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง "วง RedSpin" ในสังกัด "ค่ายวิณณ์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์" ที่เจ้าตัวได้เดินทางไป ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.  เพื่อแจ้งความที่ ปอท.

 

หลังถูกนำภาพใบหน้าของตนเองไปต่ออยู่บนร่างโป๊ เปลือย คนอื่นทำให้ถูกเข้าใจผิดเเละได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก วันที่ 25 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมานั้น

 

ล่าสุด "แพรพั้นช์ RedSpin และ คุณตัวโน้ต สถาพร "ผู้บริหารและเจ้าของค่าย ได้ออกมาเปิดใจกับทีมสื่อมวลชนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในงาน Toty Music Awards เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมาว่า "เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นไม่ควรมีใครเจอแบบนี้" 

 

"แพรพั้นช์ RedSpin" เล่าถึงเรื่องราวว่า "มีบุคคลที่อ้างว่ารู้จักกับ แพร เขาบอกว่าเพื่อนเขาส่งรูปภาพ (เปลือยท่อนบน) นี่มา ซึ่งเขามาเมนต์ก่อกวน ส่งรูปมาย้ำๆ ในช่องแชท ซึ่งในรูปก็เป็นหน้าเรา และก็ตัดต่อเป็นภาพอนาจาร เรื่องที่เกิดขึ้นส่งรูปมาเมื่อวันศุกร์ (22 มี.ค.) เขาส่งมาย้ำ และเรายืนยันว่าภาพที่ส่งมาไม่ใช่เราแน่นอน เราไม่เคยทำอะไรแบบนี้ หรือถ่ายภาพอะไรแบบนี้เลย ในช่วงแรกส่งภาพที่ถูกตัดต่อเป็นบริเวณเปลือยครึ่งตัวบนแบบเซนเซอร์หน้า เราก็ปฏิเสธไป แล้วเขาก็ยังไม่หยุดส่งรูปมาอีก เป็นรูปที่มีหน้าเราถูกตัดต่อเข้าไป และบอกว่ายังปฏิเสธอยู่มั้ย

 

ทางแพรก็ยืนยันว่าไม่ใช่ และบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน พร้อมบอกเขาว่าจะดำเนินตามกฎหมายนะ เพราะบอกไปหลายรอบแล้วว่าไม่ใช่ตัวเรา ตอนนี้อยู่ในกระบวนการทางกฎหมายและพี่ๆ เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินเรื่องให้อยู่

 

แพรรู้สึกกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้เราจะเป็นบุคคลสาธารณะ แต่เราไม่ควรถูกนำภาพไปใช้ในรูปแบบนี้ เป็นเรื่องที่ทุกคนไม่ควรจะโดน ทางบ้านพอทราบเรื่องก็ให้แจ้งค่ายและให้ทางค่ายช่วยดูแลเรื่องนี้ให้

 

หวังว่าภาพจะไม่ได้ถูกนำไปเผยแพร่ที่ไหนเพิ่มเติม ทำให้คนเข้าใจผิด อยากบอกว่า ใครทำหรือมีความคิดจะทำ ให้คิดดีๆ มันไม่มีประโยชน์หรือผลดีอะไรเลย เลิกได้เลิก ลบได้ลบ หยุดได้หยุด"

 

 

ด้าน "คุณตัวโน้ต สถาพร "ผู้บริหารและเจ้าของค่าย ในฐานะต้นสังกัดก็ได้กล่าวว่า "หลังจากทราบเรื่องก็แจ้งน้องทันทีว่า ว่าไม่ต้องคุยต่อ และให้รวบรวมหลักฐานไว้ ทางเราก็ได้ประสานติดต่อเจ้าหน้าที่พาน้องไปแจ้งความ และก็ตั้งใจว่าจะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

ซึ่งรายละเอียดตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการสืบสวนว่า เริ่มต้นเผยแพร่มาจากที่ไหนยังไง ส่วนตัวมองว่าควรสนับสนุนศิลปินในแบบที่สร้างสรรค์ ให้สนับสนุนผลงานกันดีกว่า"