'ไกร ไพสาร' เปิดใจ ภาพยนตร์ Bangkok Gangster จากเค้าโครงเรื่องจริง

ผู้จัดน้องใหม่ไฟแรง "ไกร ไพสาร" จากค่าย sinner studio ที่งานนี้ขอทุ่มสุดตัวกับการทำภาพยนตร์เรื่องแรกอย่าง Bangkok Gangster โดยได้ผู้ 2 กำกับฝีมือดีอย่างประเสริฐสุข เหมทานนท์ และอรรถวุฒิ คล่องใจ พร้อมด้วยโปรดิวเซอร์มือทองอย่างธนาวุฒิ เกสโร แถมภาพยนตร์เรื่องนี้ยังสร้างมาจากเค้าโครงเรื่องจริง ที่ใช้เวลารีเสิร์ชนานร่วม 2 ปี  ทางด้านผู้จัดคอนเฟิร์มเลยว่าเรื่องนี้ให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด 

จากการทำธุรกิจขายของ กระโดดเข้าสู่วงการภาพยนตร์?
“แต่ก่อนผมทำบริษัทเกี่ยวกับขายของ หลายอย่าง รวมทั้งธุรกิจนำเข้า เรารู้จักผู้กำกับบุ๊ค ประเสริฐสุข เหมทนนท์ เป็นการส่วนตัว เค้าเกลาบทเรื่องนี้มานาน จนเราสงสัย และเราก็เชื่อมือพี่เราในการทำหนัง  เค้าก็เล่าให้เราฟัง บทดีตอนแรกคิดว่าเป็นคนคุกติดกัน แต่พอเราฟังมันสะท้อนสังคม ทำไมไม่ทำ เค้าบอกก็อยากทำหาผู้จัดที่ใช่อยู่ เราเลยบอกให้ผมทำมั้ย เค้าก็ยังเล่นตัวเป็นปีไม่ให้ผมทำ เค้ากลัวทำน้องผิดหวัง ผมบอกเต็มที่เลยผมเป็นนักลงทุน”

ตอนที่ได้เห็นเรื่องนี้ครั้งแรก?
“ภาพดูแตกต่างจากหนังไทยทั่วไป น่าสนใจ ผมถามว่าอันนี้ดีหรือยัง เค้าบอกยังไม่ค่อยจะทำให้ดีกว่านี้อีก เราเลยโอเคน่าสนใจดี มูทแอนด์โทนมันดูชัดเจนดี ผมชอบดูหนังที่อ้างอิงมาจากเรื่องจริง สร้างแรงบันดาลใจ เราเป็นลูกชาวนาไม่มีตัง เราพยายามมา บอกกับตัวเองไว้ถ้าวันนึงมีตังอยากให้โอกาสกับคนอื่นที่เค้าอยากได้รับโอกาส เรื่องนี้ผมอยากให้คนดูแล้วคิดตาม ถ้าเราเป็นตัวละครตัวนี้จะทำยังไง สะท้อนให้เห็นบางครั้งเด็กสมัยใหม่อาจจะยังแยกไม่ได้ว่าชอบแล้วต้องไปทำตาม ชอบแล้วต้องเรียนรู้ไปด้วย”

มีอีโรติก?
“มีบ้าง เอามาจากความเรียลของเรื่องจริง คนที่อยู่ในสังคมคุกห่างมานาน อาจจะมีบ้าง”

ความคาดหวัง?
“ไม่คาดหวังว่าจะได้เท่าไหร่ คาดหวังให้คนเข้าใจหนังมากกว่า เข้าจสิ่งที่เราจะสื่อออกมามากกว่า ว่าดูเรื่องนี้แล้วให้อะไรเรา”

เอาหนังไปฉายที่ต่างประเทศด้วย?
“มีครับ มีทางฮ่องกงที่ติดต่อไว้แล้ว และมีอีกหลายประเทศเลย ผมไม่ได้คสดหวัง ผมเป็นคนขายของ ผมไม่ทราบว่ามันจะต้องไปเท่าไหร่ แต่มันก็ดีหากเป็นความภูมิใจของผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ ที่ประเทศไทยเรามีหนังดีๆที่ฝรั่งชอบ ผมก็แฮปปี้แล้วครับ ไม่ได้คาดหวังว่าต้องเข้าชิงหรือได้รางวัล ขอแค่คนดูแล้วเข้าใจตัวหนังเราจริงๆก็พอ”

กลัวมั้ยหากโดนเปรียบเทียบกับ 4Kings?
“ไม่กลัวเลยครับ เนื้อเรื่องมันไม่ใช่เลย เราไม่ได้ทำเหมือนของใคร มันเป็นแบบฉบับของเรา ผมให้อิสระกับทางผู้กำกับร้อยเปอร์เซนต์ ไม่กลัวดราม่าครับเรามากันขนาดนี้แล้ว เรื่องนี้จะได้กันช่วงปลายๆปีครับ”